ชมนุม Sport Rider กินเจที่นี่เลยครับ

**dragonballz** · 04-01-2010, 15:54

คุณวุฒิ ใช้พัดลมหน้าเครื่องเป็นแบบไหนครับ เป็นของ J หรือเป็นของรถยุโรป

**wk7000** · 04-01-2010, 16:01

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ dragonballz

คุณวุฒิ ใช้พัดลมหน้าเครื่องเป็นแบบไหนครับ เป็นของ J หรือเป็นของรถยุโรป

พัดลมไฮโตรลิคติดมากับเครื่องเลยครับ

**volvoman** · 05-01-2010, 12:32

สวัสดีปีใหม่ เพื่อนๆ sportrider ....ช่วงนี้เบื่อๆเซ็งๆ อยากได้ 2jbo ตะงิดๆ สงสัยเร็วๆนี้ได้เสียตังค์แน่เลย....คาใจแค่ว่าจะดีก ว่า 1jbo เยอะหรือเปล่า ถ้าดีกว่าไม่เกิน 15-20% ก็ไม่เปลี่ยนดีกว่า.....

**wk7000** · 05-01-2010, 13:22

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ volvoman

สวัสดีปีใหม่ เพื่อนๆ sportrider ....ช่วงนี้เบื่อๆเซ็งๆ อยากได้ 2jbo ตะงิดๆ สงสัยเร็วๆนี้ได้เสียตังค์แน่เลย....คาใจแค่ว่าจะดีก ว่า 1jbo เยอะหรือเปล่า ถ้าดีกว่าไม่เกิน 15-20% ก็ไม่เปลี่ยนดีกว่า.....

สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับ

ในมุมมองผม ผมมองว่าเครื่อง 1 และ 2J BO คงไม่ต่างกันมากมายครับ มันก็มีข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง (ผมอาจจะพูดถึง 2J เยอะหน่อย อ้างอิงข้อมูลจากที่ผมใช้อยู่ครับ)

1J ก็จะได้ในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่า 2J นิดหน่อย รอบกวาดดีกว่า เทอร์โบทำงานพร้อมกันทั้งสองลูก บูสจะเริ่มมาก็ประมาณ 2800 รอบแต่มาแล้วมาหนัก

2J จะได้เปรียบเรื่องของ CC ที่เยอะกว่า แรงบิดมาเร็วและเยอะกว่า แต่ก็กินจุกว่าเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้ 2J ต่างจาก 1J ค่อนข้างมากคือระบบซีเควนเชียล

ที่ทำให้เทอร์โบลูกแรกทำงานตั้งแต่ประมาณ 2000 รอบเรียกแรงบิดของเครื่องออกมาได้เร็ว และลูกสองเริ่มทำประมาณ 3800 รอบทำให้รู้ว่าถึงความต่อเนื่อง

แต่มันก็มีข้อเสียของมันคือช่วง 3100 - 3800 ถ้าเป็นคนขับเรื่อย ๆ ค่อย ๆไล่คันเร่ง จะรู้สึกว่าช่วงนี้จะห้อยเพราะช่วงรอบนี้จะแบ่งไอเสี ยไปปั่นลูกที่สอง

ทำให้บูสลูกแรกจะตกลงหน่อย แต่เมื่อลูกสองทำงานก็จะดึงหนัก

ส่วนถ้าขับแบบกดคันเร่งมิดหรือคี๊กดาว์นเรียกรอบ เมื่อรอบกวาดไวลูกสองก็ทำงานไวเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้เครื่อง 2J มีแรงบิดมากกว่า 1J ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะเทอร์โบ ด้วยขนาดใบเทอร์โบที่โตกว่า 1J เล็กน้อยจึงสร้างแรงบิดช่วงรอบกลางค่อนปลายได้ดีกว่า 1J ครับ

ถ้านำเครื่องทั้งสองมาวางบอดี้หนัก ๆ อย่างสปอร์ตไรเดอร์ซึ่งมีน้ำหนักเดิม 1.9 ตัน แน่นอนว่าเครื่องที่สามารถเรียกแรงบิดมาได้เร็วก็จะไ ด้เปรียบที่มีแรงฉุดตัวถังหนัก ๆ ไปได้ดีกว่า

ส่วนถ้านำไปวางในบอดี้เบาๆ ระดับ 1.3-1.5 ตัน ก็คงจะไม่ต่างกัน เพราะไม่จำเป็นต้องใช้แรงบิดของเครื่องเยอะก็สามารถพ ารถให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้แล้วครับ

**volvoman** · 05-01-2010, 13:42

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ wk7000

สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับ

ในมุมมองผม ผมมองว่าเครื่อง 1 และ 2J BO คงไม่ต่างกันมากมายครับ มันก็มีข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง (ผมอาจจะพูดถึง 2J เยอะหน่อย อ้างอิงข้อมูลจากที่ผมใช้อยู่ครับ)

1J ก็จะได้ในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่า 2J นิดหน่อย รอบกวาดดีกว่า เทอร์โบทำงานพร้อมกันทั้งสองลูก บูสจะเริ่มมาก็ประมาณ 2800 รอบแต่มาแล้วมาหนัก

2J จะได้เปรียบเรื่องของ CC ที่เยอะกว่า แรงบิดมาเร็วและเยอะกว่า แต่ก็กินจุกว่าเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้ 2J ต่างจาก 1J ค่อนข้างมากคือระบบซีเควนเชียล

ที่ทำให้เทอร์โบลูกแรกทำงานตั้งแต่ประมาณ 2000 รอบเรียกแรงบิดของเครื่องออกมาได้เร็ว และลูกสองเริ่มทำประมาณ 3800 รอบทำให้รู้ว่าถึงความต่อเนื่อง

แต่มันก็มีข้อเสียของมันคือช่วง 3100 - 3800 ถ้าเป็นคนขับเรื่อย ๆ ค่อย ๆไล่คันเร่ง จะรู้สึกว่าช่วงนี้จะห้อยเพราะช่วงรอบนี้จะแบ่งไอเสี ยไปปั่นลูกที่สอง

ทำให้บูสลูกแรกจะตกลงหน่อย แต่เมื่อลูกสองทำงานก็จะดึงหนัก

ส่วนถ้าขับแบบกดคันเร่งมิดหรือคี๊กดาว์นเรียกรอบ เมื่อรอบกวาดไวลูกสองก็ทำงานไวเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้เครื่อง 2J มีแรงบิดมากกว่า 1J ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะเทอร์โบ ด้วยขนาดใบเทอร์โบที่โตกว่า 1J เล็กน้อยจึงสร้างแรงบิดช่วงรอบกลางค่อนปลายได้ดีกว่า 1J ครับ

ถ้านำเครื่องทั้งสองมาวางบอดี้หนัก ๆ อย่างสปอร์ตไรเดอร์ซึ่งมีน้ำหนักเดิม 1.9 ตัน แน่นอนว่าเครื่องที่สามารถเรียกแรงบิดมาได้เร็วก็จะไ ด้เปรียบที่มีแรงฉุดตัวถังหนัก ๆ ไปได้ดีกว่า

ส่วนถ้านำไปวางในบอดี้เบาๆ ระดับ 1.3-1.5 ตัน ก็คงจะไม่ต่างกัน เพราะไม่จำเป็นต้องใช้แรงบิดของเครื่องเยอะก็สามารถพ ารถให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้แล้วครับ

แล้วถ้าผมซื้อ boost controller แบบไฟฟ้ามาใส่กับเครื่อง1jbo เดิมๆ ไม่โมอะไรเพิ่มเลย....มันมีประโยชน์มั๊ยครับ

**wk7000** · 05-01-2010, 14:11

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ volvoman

แล้วถ้าผมซื้อ boost controller แบบไฟฟ้ามาใส่กับเครื่อง1jbo เดิมๆ ไม่โมอะไรเพิ่มเลย....มันมีประโยชน์มั๊ยครับ

ถ้าปรับบูสเพิ่มประมาณ 12-14 ปอนด์(เกิน 14.7 กล่องมันก็จะตัด) เพิ่มแรงบิดขึ้นได้หน่อยครับแต่ม้าคงไม่เพิ่ม

ขับสนุกขึ้นเพราะกล่องเดิมๆ ของรถจะจ่ายน้ำมันค่อนข้างหนาเพิ่อเซฟเครื่องไว้ เราปรับบูสเพิ่มขึ้นอัตราส่วนผสมมันก็จะพอดีและได้กำ ลังมากขึ้น

กล่องเดิม ๆ บูสไม่เกิน 1 บาร์ไม่มีปัญหาปรับเพิ่มได้เลยครับ ถ้าบูสเกินกล่องมันจะตัดหัวทิ่มเลยล่ะ

จะใช้ปรับบูสมือหรือปรับไฟฟ้าก็ได้แล้วแต่ จะให้ประหยัดก็ลองแหวนที่เวสเกตครับ

ปล.ดูแก๊สด้วยนะครับว่าพอหรือเปล่าเพราะ 1J มันทำพร้อมกัน 2 ลูก แก๊สจ่ายไม่พอเดี๋ยวจะบางไป

**volvoman** · 09-01-2010, 20:20

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ wk7000

ถ้าปรับบูสเพิ่มประมาณ 12-14 ปอนด์(เกิน 14.7 กล่องมันก็จะตัด) เพิ่มแรงบิดขึ้นได้หน่อยครับแต่ม้าคงไม่เพิ่ม

ขับสนุกขึ้นเพราะกล่องเดิมๆ ของรถจะจ่ายน้ำมันค่อนข้างหนาเพิ่อเซฟเครื่องไว้ เราปรับบูสเพิ่มขึ้นอัตราส่วนผสมมันก็จะพอดีและได้กำ ลังมากขึ้น

กล่องเดิม ๆ บูสไม่เกิน 1 บาร์ไม่มีปัญหาปรับเพิ่มได้เลยครับ ถ้าบูสเกินกล่องมันจะตัดหัวทิ่มเลยล่ะ

จะใช้ปรับบูสมือหรือปรับไฟฟ้าก็ได้แล้วแต่ จะให้ประหยัดก็ลองแหวนที่เวสเกตครับ

ปล.ดูแก๊สด้วยนะครับว่าพอหรือเปล่าเพราะ 1J มันทำพร้อมกัน 2 ลูก แก๊สจ่ายไม่พอเดี๋ยวจะบางไป

คุณวุฒิ...ถ้าไม่ใส่ตัวปรับบูส แต่เปลี่ยนไปหากล่องแต่งพวก mines มาใส่ อะไรจะดีกว่ากันครัย

**rider boy** · 24-01-2010, 09:50

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ wk7000

สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับ

ในมุมมองผม ผมมองว่าเครื่อง 1 และ 2J BO คงไม่ต่างกันมากมายครับ มันก็มีข้อดีและข้อเสียในตัวมันเอง (ผมอาจจะพูดถึง 2J เยอะหน่อย อ้างอิงข้อมูลจากที่ผมใช้อยู่ครับ)

1J ก็จะได้ในเรื่องของอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่า 2J นิดหน่อย รอบกวาดดีกว่า เทอร์โบทำงานพร้อมกันทั้งสองลูก บูสจะเริ่มมาก็ประมาณ 2800 รอบแต่มาแล้วมาหนัก

2J จะได้เปรียบเรื่องของ CC ที่เยอะกว่า แรงบิดมาเร็วและเยอะกว่า แต่ก็กินจุกว่าเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้ 2J ต่างจาก 1J ค่อนข้างมากคือระบบซีเควนเชียล

ที่ทำให้เทอร์โบลูกแรกทำงานตั้งแต่ประมาณ 2000 รอบเรียกแรงบิดของเครื่องออกมาได้เร็ว และลูกสองเริ่มทำประมาณ 3800 รอบทำให้รู้ว่าถึงความต่อเนื่อง

แต่มันก็มีข้อเสียของมันคือช่วง 3100 - 3800 ถ้าเป็นคนขับเรื่อย ๆ ค่อย ๆไล่คันเร่ง จะรู้สึกว่าช่วงนี้จะห้อยเพราะช่วงรอบนี้จะแบ่งไอเสี ยไปปั่นลูกที่สอง

ทำให้บูสลูกแรกจะตกลงหน่อย แต่เมื่อลูกสองทำงานก็จะดึงหนัก

ส่วนถ้าขับแบบกดคันเร่งมิดหรือคี๊กดาว์นเรียกรอบ เมื่อรอบกวาดไวลูกสองก็ทำงานไวเช่นกัน

สิ่งที่ทำให้เครื่อง 2J มีแรงบิดมากกว่า 1J ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะเทอร์โบ ด้วยขนาดใบเทอร์โบที่โตกว่า 1J เล็กน้อยจึงสร้างแรงบิดช่วงรอบกลางค่อนปลายได้ดีกว่า 1J ครับ

ถ้านำเครื่องทั้งสองมาวางบอดี้หนัก ๆ อย่างสปอร์ตไรเดอร์ซึ่งมีน้ำหนักเดิม 1.9 ตัน แน่นอนว่าเครื่องที่สามารถเรียกแรงบิดมาได้เร็วก็จะไ ด้เปรียบที่มีแรงฉุดตัวถังหนัก ๆ ไปได้ดีกว่า

ส่วนถ้านำไปวางในบอดี้เบาๆ ระดับ 1.3-1.5 ตัน ก็คงจะไม่ต่างกัน เพราะไม่จำเป็นต้องใช้แรงบิดของเครื่องเยอะก็สามารถพ ารถให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้แล้วครับ

พี่วุฒิครับผมอยากได้ใบ CT26 ซัก 1 คู่ครับ ผมจะติดต่อพี่ได้อย่างไรคับ ผมบอย 08-6789-2456 ครับ

**modXv4** · 25-01-2010, 23:01

ผมใช้ sport rider prerunner 5L วันเสาร์หน้าว่าจะไปเลือกเครื่อง J ครับ สนใจเครื่อง 2J ge vvti อยากถามพี่ๆ ในบอร์ดว่าตอนนี้เครื่องประมาณเท่าไรครับ และค่าวางเครื่องตอนนี้ตกประมาณเท่าไรอะครับ รบกวนแนะนำหน่อยนะครับ

**dragonballz** · 28-01-2010, 09:28

ยินดีต้อนรับคุณ มดX วี4 (สงสัยจะชอบมาก)

หลังจากเปลี่ยนเครื่องแล้ว นิสัยการขับขี่จะเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น 5L เดิมผมเองก็ไม่กล้าเหยียบเยอะเพราะว่าซดจริงๆ ถึงเหยียบเยอะก็ไม่ไป ถ้าจำไม่ผิด 89 แรงม้า จะไปเอาอะไรกับม้าแค่นี้

เครื่อง J ไม่ผิดหวังแน่นอน

คำถามที่ถามมารอ Speciallist มาตอบล่ะกัน

04-01-2010, 15:54	#1
dragonballz ClubJZ Old Full Member วันที่สมัคร: Aug 2009 Car Brand: Toyota Engine Type: 1j bo ที่อยู่: BKK กระทู้: 57 Thanks: 162 Thanked 64 Times in 36 Posts คะแนน: 16	พัดลมหน้าเครื่อง คุณวุฒิ ใช้พัดลมหน้าเครื่องเป็นแบบไหนครับ เป็นของ J หรือเป็นของรถยุโรป

25-01-2010, 23:01	#9
modXv4 Junior Member วันที่สมัคร: May 2008 กระทู้: 7 Thanks: 0 Thanked 8 Times in 6 Posts คะแนน: 0	เตรียมเป็นน้องใหม่เต็มตัว ผมใช้ sport rider prerunner 5L วันเสาร์หน้าว่าจะไปเลือกเครื่อง J ครับ สนใจเครื่อง 2J ge vvti อยากถามพี่ๆ ในบอร์ดว่าตอนนี้เครื่องประมาณเท่าไรครับ และค่าวางเครื่องตอนนี้ตกประมาณเท่าไรอะครับ รบกวนแนะนำหน่อยนะครับ

28-01-2010, 09:28	#10
dragonballz ClubJZ Old Full Member วันที่สมัคร: Aug 2009 Car Brand: Toyota Engine Type: 1j bo ที่อยู่: BKK กระทู้: 57 Thanks: 162 Thanked 64 Times in 36 Posts คะแนน: 16	ยินดีต้อนรับครับ ยินดีต้อนรับคุณ มดX วี4 (สงสัยจะชอบมาก) หลังจากเปลี่ยนเครื่องแล้ว นิสัยการขับขี่จะเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น 5L เดิมผมเองก็ไม่กล้าเหยียบเยอะเพราะว่าซดจริงๆ ถึงเหยียบเยอะก็ไม่ไป ถ้าจำไม่ผิด 89 แรงม้า จะไปเอาอะไรกับม้าแค่นี้ เครื่อง J ไม่ผิดหวังแน่นอน คำถามที่ถามมารอ Speciallist มาตอบล่ะกัน

หัวข้อที่คล้ายกัน
หัวข้อ	ผู้เริ่มหัวข้อ	ฟอรั่ม	ตอบกลับ	กระทู้ล่าสุด
LPG สำหรับ Sport Rider + 2JZ-GE	cpong67	ClubJZ ! GAS	25	30-04-2010 10:11
2JZ GE ใน Sport Rider	bee_sagacious	ClubJZ ! GAS	2	28-12-2009 10:44
Sport Rider อยากกิน J + Gas	bee_sagacious	ClubJZ ! GAS	6	12-02-2008 22:35
sport rider (5L)กำลังจะไปวาง 1JZ ไม่โบ + LPG (fixmix) เฟืองท้ายต้องเปลี่ยนไหมครับ	natavut2680	ClubJZ ! GAS	9	04-02-2008 06:08
Sport Rider ติด LPG+ถัง 2 ใบใต้ท้อง	Noppadol	ClubJZ ! GAS	7	13-11-2007 11:20

05-01-2010, 12:32	#3
volvoman Senior Member วันที่สมัคร: Oct 2006 กระทู้: 440 Thanks: 391 Thanked 582 Times in 232 Posts คะแนน: 19	สวัสดีปีใหม่ เพื่อนๆ sportrider ....ช่วงนี้เบื่อๆเซ็งๆ อยากได้ 2jbo ตะงิดๆ สงสัยเร็วๆนี้ได้เสียตังค์แน่เลย....คาใจแค่ว่าจะดีก ว่า 1jbo เยอะหรือเปล่า ถ้าดีกว่าไม่เกิน 15-20% ก็ไม่เปลี่ยนดีกว่า.....