เกียร์เปลี่ยนขึ้นแต่ไม่เปลี่ยนลง

[Moonlight]

จะเชื่อผมมั้ยว่า ช่างเครื่องบางอู่ ถ่ายน้ำมันเกียร์ออโต้ เช่นเดียวกับการถ่ายน้ำมันเครื่อง ซึ่งเป็นวิธีที่ผิด (ผิดมากๆด้วยครับ) ซึ่งจะเป็นตัวบั่นทอน ระบบการทำงานของเกียร์ออโต้ ให้อายุสั้นลงเรื่อยๆ ครับ

การถ่ายน้ำมันเกียร์ที่ถูกต้องนั้น ถ้าทำถูกต้องจริงๆแล้ว แทบจะไม่ต้องมีการถ่ายทั้งระบบน้ำมันเกียร์เลยครับ ถ่ายตามวิธีข้างล่างที่จะกล่าวถึงนี้ ทุกๆ 40000 ก.ม. หรือ ทุก 12 เดือน ขึ้นอยู่กับว่า อะไรถึงก่อนกันครับ ถ้าทำได้ดังกล่าว อายุการใช้งานเกียร์ออโต้ ก็จะอยู่กับเราอีกนานครับผม (ยกเว้นกรณีใช้งานเกียร์ออโต้หนักๆ เช่น ใช้งานขึ้นเขาลงเขาสูงชันมากๆ โดยไม่เชนเกียร์ เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำบ้าง จนกระทั่ง เกียร์ร้อนจัด ผ้าคลัชท์ร้อนจนหลุดร่อน)


อุปกรณ์ที่ต้องใช้

• น้ำมันเกียร์ออโต้ เกรดชนิดเดียวกับในเกียร์ที่กำลังใช้อยู่ (ตามที่คู่มือระบุให้ใช้เกรดนั้นๆ) จำนวน 4 ลิตร
• กาวสำหรับทาก้นแคร้ง 1 หลอด
• กรวยปลายยาวอ่อน
• น้ำมันเบนซินประมาณ 2 - 3 ลิตร
• ประแจบล๊อค เบอร์ 14 และ เบอร์ 10
• มีดคัดเตอร์
• ไขควงปากแบน
• ฆ้อนเล็ก
• แม่แรง
• ขาตั้ง 3 ขา 2 ตัว
• แปรงขนอ่อน และเศษผ้าสะอาด
• กะบะรองน้ำมันเกียร์ และ กะบะล้างก้นแคร้ง (จะใช้ตัวเดียวกันก็ได้)

วิธีการถ่ายน้ำมันเกียร์ออโต้

1. ใช้แม่แรงยกรถขึ้น แล้วตั้งบนสามขา ในตำแน่งที่ให้คนสามารถมุดลงไปนอนถอดน๊อตก้นแคร้งเกี ยร์ได้
2. ถอดเหล็กวัดระดับน้ำมันเกียร์ออก
3. ใช้ประแจบล๊อกเบอร์ 14 คลายน๊อตก้นแคร้ง โดยนำกะบะมารองน้ำมันเกียร์ ปล่อยให้ไหลให้หมดครับ แล้วค่อยขันน๊อตกลับเข้าไปให้แน่น
4. ใช้ประแจบล๊อคเบอร์ 10 คลายน๊อตก้นแคร้ง ออกให้หมด (สำหรับเกียร์ออโต้ JZ จะมีน๊อตก้นแคร้งอยู่ 19 ตัว)
5. ใช้ไขควงปากแบน ค่อยๆแซะก้นแคร้งรอบๆ โดยใช้ฆ้อนช่วยเคาะเบาๆ เพราะว่า ก้นแคร้งจะติดแน่นด้วยกาวปะเกนครับ
6. หลังจากหลุดออกมาแล้ว ยกก้นแคร้งออกมา ที่ก้นแคร้งจะมี แม่เหล็กติดอยู่ 3 แผ่น และจะมีโคลนน้ำมันเกียร์อยู่จำนวนหนึ่ง ให้เทโคลนน้ำมันเกียร์ทิ้ง
7. ใช้ปะแจบล๊อคเบอร์ 10 คลายน๊อต 3 ตัว ที่ยึดติด กรองน้ำมันเกียร์ ซึ่งมีลักษณะเหมือนกล่อง 4 เหลี่ยม (ดูตามรูปที่แนบมาครับ โดยด้านที่ มี 3 ช่อง นั้นคือด้านที่ปะกบติดกับเกียร์ ส่วนด้านที่มี 1 ช่องใหญ่ๆ คือด้านที่หันเข้าหาก้นแคร้ง โดยมีรูน๊อต 3 รู)
8. นำก้นแคร้ง แม่เหล็ก และกรองน้ำมันเกียร์ มาล้างทำความสะอาด ด้วยน้ำมันเบนซิน โดยให้ใช้มีดคัตเตอร์ปาดกาวที่ติดขอบก้นแคร้งออกให้ห มด และมุดเข้าไป ปาดขอบเกียร์ด้วยนะครับ
9. หลังจากล้างแม่เหล็ก ก้นแคร้งและกรองน้ำมันเกียร์เสร็จแล้ว ใช้ผ้าเช็ดก้นแคร้งให้สะอาด นำแม่เหล็กวางในก้นแคร้ง ตามตำแหน่ง เหมือนในรูปที่แนบมาครับ ส่วนกรองน้ำมันเกียร์ ให้เอาลมเป่าให้แห้ง
10. นำกรองน้ำมันเกียร์ ประกอบกลับเข้ากับเกียร์ โดยใช้บล๊อคเบอร์ 10 ขันน๊อต 3 ตัวให้แน่น
11. ทากาวปะเกนที่ขอบก้นแคร้งให้รอบ (ทาหนาหน่อยก็ได้นะครับ) แล้วประกอบก้นแคร้งกลับเข้ากับตัวเกียร์ โดยใช้บล๊อคเบอร์ 10 ขันน๊อต 19 ตัวกลับให้แน่น
12. ช่วงระหว่างรอประมาณ 10 นาที ให้กาวปะเกนเซทตัว ให้ยกแม่แรงขึ้น แล้วเอา 3 ขาออก แล้วปล่อยแม่แรงลง ก็ได้ 10 นาทีพอดีครับ
13. นำกรวยปลายอ่อนยาวเสียบเข้าที่ท่อที่เสียบเหล็กวัดระ ดับ แล้วเทเติมน้ำมันเกียร์ใหม่ลงไป 3.5 ลิตร
14. นำเหล็กวัดระดับเสียบเข้าไปในช่องให้สนิท (ยังไม่ต้องวัดครับ)
15. สตาร์ทรถ แล้วเหยียบเบรค ให้เลื่อนคันเกียร์ จาก P ไปยังตำแหน่ง R, N, D, 2 และ L ตามลำดับ จังหวะละ 2 วินาที แล้วเลื่อนกลับมาที่ P จังหวะละ 2 วินาทีเช่นกัน
16. อย่าดับเครื่องยนต์นะครับ ให้ดึงเหล็กก้านวัดระดับน้ำมันเกียร์ขึ้นมาเช็ดให้สะ อาด แล้วจุ่มกลับลงไปใหม่ แล้วชักขึ้นมาตรวจเช็คระดับน้ำมันเกียร์ จะต้องอยู่ช่วงระดับ Cool จึงจะถูกต้อง ถ้าไม่ได้ระดับ Cool ให้เติมน้ำมันเกียร์ลงไปครับ (จริงๆแล้ว ปริมาณน้ำมันเกียร์ที่บอกว่า 3.5 ลิตรนั้น จะต้องได้ระดับนี้อยู่แล้วนะครับ)
17. เสียบก้านเหล็กวัดระดับกลับเข้าที่เดิม ปิดฝากระโปรงรถ แล้วขับรถออกไปวิ่งประมาณ 1 - 2 ก.ม.
18. จอดติดเครื่องยนต์ ในรอบเดินเบา เปิดฝากระโปรงรถ ดึงเหล็กวัดระดับ มาเช็ดแล้วจุ่มกลับลงไปใหม่ให้สุด แล้วดูมาตรวจเช็คระดับ จะต้องอยู่ที่ขีด Hot ถ้าระดับไม่ถึง ก็ให้เติมน้ำมันเกียร์ลงไป (จริงๆแล้ว จะต้องได้ระดับ Hot แต่ถ้าไม่ถึงจริงๆ ก็เติมลงไปได้ ไม่เกิน ครึ่งลิตร ต้องได้ระดับแน่ๆครับ)
19. จากนั้น ก็ใช้งานเกียร์ได้ตามปกติครับ อีก 40000 ก.ม.ต่อไป หรือ อีก 1 ปีต่อไป ค่อยเริ่มถ่ายน้ำมันเกียร์ใหม่ครับผม

[Moonlight]

หลายคนอาจจะสงสัยว่า น้ำมันเกียร์ออโต้ ทั้งระบบ ต้องใช้น้ำมันถึง 7 - 8 ลิตร (จริงๆแล้วใช้เพียงแค่ 7 ลิตร แต่ว่าที่บอกเผื่อ อีกประมาณ 1 ลิตร ก็เพราะว่า จะมีส่วนหนึ่ง ไหลอยู่ในท่อไปกลับและออยคูลเลอร์ครับ) แต่ทำไมผมจึงระบุให้เปลี่ยนถ่ายแค่ 3.5 - 4 ลิตรเท่านั้น ? (จริงๆแค่ 3 - 3.5 ลิตรครับ แต่ว่า รถบางคัน เดินท่อไปกลับในออยคูลเลอร์ยาวครับ) และ ทำไม ผมจึงบอกว่า การถ่ายน้ำมันเกียร์ออโต้ที่ถูกต้อง จึงดีกว่า การถ่ายน้ำมันเกียร์ออโต้ทั้งระบบ (7 ลิตร) ? ซึ่งผมเคยบอกว่า ถ้าต้องการถ่ายน้ำมันเกียร์ออโต้ (7 ลิตร) ก็ให้ทำการนี้ 2 ปีครั้ง แต่ว่าการถ่ายแบบที่ผมอธิบายเบื้องต้นใน Reply ก่อนนั้น ต้องทำทุกปี (จริงๆแล้ว ถ้าถ่ายแบบถูกวิธีจริง แทบจะไม่ต้องถ่ายน้ำมันเกียร์ออโต้ทั้งระบบเลยก็ได้ค รับ (แต่มีข้อแม้นะครับ))

ผมขอเฉลยเพื่อความเข้าใจ นะครับ

จริงๆแล้ว น้ำมันเกียร์ออโต้ ที่เราใส่ลงไปในเกียร์ออโต้นั้น แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วนครับ คือ
ครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำมันเกียร์ออโต้ (3.5 ลิตร) จะทำงานอยู่ใน ทอร์คคอนเวอร์ทเตอร์ เป็นน้ำมันที่ถูกทอร์คคอนเวอร์เตอร์หมุนสร้างแรงขับด ันในตัวน้ำมันเกียร์ เพื่อขับผลัดดันนแต่ละระดับเกียร์ให้ทำงาน
อีกครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำมันเกียร์ (3.5 ลิตร) จะถูกดูดขึ้นไปผ่านโซลินอยด์วาล์ว (ทั้ง 3 ตัว) แล้ววิ่งไปตามท่อ ไปหล่อเลี้ยงเฟืองเกียร์ต่างๆ และ ชุดคลัชท์

แต่ว่า น้ำมันเกียร์ออโต้ทั้งหมด จะถูกดูด ขึ้นจากแคร้งเกียร์ ผ่าน กรองเกียร์ ขึ้นไปตามโซลินอยด์ ตามท่อ ส่วนหนึ่งวิ่งไปที่ท่อต่างๆ โดยได้แรงจาก ปั๊มน้ำมัน (Oil Pump) ที่ทำงานโดยอาศัยแรงขับจากเครื่องยนต์ผ่านทางเสื้อทอ ร์คคอนเวอร์ทเตอร์ เพื่อสร้างกำลังแรงดันให้กับระบบไฮดรอลิค (เครื่องยนต์ไม่หมุน ปั๊มก็ไม่ทำงาน) ดังนั้น เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ปั๊มน้ำมันก็จะเกิดแรงดูด ดูดน้ำมันเกียร์ ผ่านมาตามท่อขึ้นมาจาก กรองเกียร์ที่ก้นแคร้ง ดังนั้น จึงเข้าไปผสมน้ำมันเกียร์ที่อยู่ในลูกทอร์คคอนเวอร์เ ตอร์ และมีบางส่วนกระจายไปตามท่อ เข้าไป ที่ตัวเสื้อเกียร์ และน้ำมันทั้งหมด ก็จะไหลตกลงไปเข้าท่อไปที่ ออยคูลเลอร์ แล้วไหลกลับมาลงที่แคร้งน้ำมันเกียร์ ไหลเวียนเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ

นั่นแสดงว่า เมื่อไหร่ที่เครื่องยนต์หยุด น้ำมันที่ไหลเวียนอยู่ตามเสื้อเกียร์ ก็จะตกลงมาที่ก้นแคร้ง (บางส่วนอยู่ในออยคูลเลอร์) แต่จะมีอยู่อีกคร่งหนึ่ง อยู่ในทอร์คคอนเวอร์เตอร์ตลอดเวลา แต่นั่นมันไม่ใช่ปัญหา เพราะว่า น้ำมันเกียร์ส่วนที่อยู่ในทอร์คคอนเวอร์เตอร์นั้น เป็นส่วนที่น้ำมันเกียร์ได้รับการผ่านกรองน้ำมันไปเร ียบร้อยแล้วครับ

ดังนั้น การที่เราถ่ายน้ำมันเครื่องจากก้นแคร้ง ล้างเศษเหล็กจากแม่เหล็ก และล้างกรองน้ำมันเกียร์ (ภายในกล่องกรอง จะมีตาข่ายละเอียดมากๆ เหมืองมุ่งลวดกันยุงที่เราใช้กัน แต่ว่า ตาละเอียดกว่านั้นหลายสิบเท่า) ซึ่งจะกรองพวก เศษคลัชท์ที่ร่อนหลุด เศษโลหะที่ยังไม่ทันถูกแม่เหล็กดูดเอาไว้ กรองติดอยู่ในส่วนนั้ครับ

ขอถามว่า ถ้าเราไม่ได้ล้างกรองน้ำมันเกียร์ โดยคิดว่า การถ่ายน้ำมันเกียร์ แบบเดียวกับการถ่ายน้ำมันเครื่อง หรือว่า เข้าศูนย์บริการตามปั๊ม ที่รับบริการถ่ายน้ำมันเกียร์แบบดูดถ่ายวนทั้งระบบ นั้น จะทำให้ กรองน้ำมันเกียร์ สะอาดหมดจดมั้ยครับ?

ถ้าท่านใดเคยถ่ายน้ำมันเกียร์ จากน๊อตถ่ายน้ำมันออกหมดแล้ว และมีการถอดแคร้งน้ำมันเกียร์ออกมาดู จะเห็นว่า ก้นแคร้งนั้น เป็น โคลนน้ำมัน (ต้องบอกว่า เป็นโคลนจริงๆครับ) ที่ตัวแม่เหล็ก ก็จะมีเศษเหล็กติดอยู่เต็มเลยครับ แล้วแบบนี้ ตะแกรงกรองน้ำมัน ถ้าไม่ถอดออกมาล้าง ถามว่า ใช้นานๆไปแล้ว เกียร์ออโต้ ของเรา จะรอดมั้ยครับ?

ดังนั้น ผมจึงบอกว่า การที่จะนำรถเข้าบริการถ่ายน้ำมันเกียร์ ทั้งระบบ นั้น เป็นเรื่องที่ไม่จำเป็นเลยครับ ยกเว้นแต่ว่า

• เราไม่ทราบว่า เกรดน้ำมันเกียร์ออโต้เดิมที่อยู่ในเกียร์นั้น ใช้เกรดอะไร และเราต้องการ นับหนึ่งใหม่
• ใช้งานเกียร์ออโต้ มาหลายปีแล้ว ต้องการถ่ายเลือดใหม่ให้กับเกียร์ออโต้

แต่ไม่ว่าเราจะทำการถ่ายน้ำมันเกียร์แบบวน ทั้งระบบแล้วก็ตาม เราก็ยังต้องถ่ายน้ำมันเกียร์ ตามแบบที่อธิบายกรรมวิธีถ่ายน้ำมันเกียร์ออโต้ที่ถูก ต้องใน Reply ก่อนนี้ ทุกปี หรือทุกๆ 40,000 ก.ม. ครับ เพื่อช่วยให้เกียร์ออโต้ ทำงานอยู่กับเราได้ตลอดอายุการใช้งานครับผม

[kowitonglek]

ขอบคุณมากๆเลยคับ ที่ให้ความกระจ่าง ขอโทษทีคับที่หลังจากวันนั้นผมไม่ใด้เขามาเลยเพิ่งจะ มีเวลาคับแล้วอีกอย่างนึงผมยังไม่ใด้ทำเพราะติดปีใหม ่แล้วก็ต้องมีธุล่ะด่วนกลับมาเชียงใหม่ในวันที่1อีกร อบเลยสรุปว่าทุกวันนี้ยังไม่ใด้ทำเลยคับ แต่ตั้งแต่มาก้ไม่ค่อยใด้ใช้รถเท่าไหร่คับ ที่แรกผมตั้งใจว่าจะล้องที่นครสวรรค์นั้นแหล่ะคับ ช่างเค้าคิดค่าล้างเกียร์ อย่างเดียว1200คับ ไม่รวมน้ำมันเกียร์ ไม่รู้ว่าแพงหรือเปล่าแต่ผมคิดว่าแพงใป เพราะแค่ล้างอย่างเดียวเอง แต่ช่างบอกว่าถ่าโซลินอยร์ พังเค้ามีของแต่ต้องซื้อยกสมองเกียร์ขาย2500 แต่จะไม่คิดค่าแรงแล้ว ติดปีใหม่เลยไม่ใด้กลับไปแล้วมาเชียงใหม่พอดีอ่ะคับ
ตอนนี้ผมพอจะเดาอาการใด้แล้วคับ รู้สึกว่าเกียร์สองจะไม่ยอมทำงานคับ พอเข้าLแล้วมาเกียสองรอบมันจะรีบเปลี่ยนมาดเกียร์สาม เลยผมก็ลองออกตัวใหม่ทีนี้ออกจากL มาที่D แต่ติดโอเวอร์ใดรร์ เหมื่อนกับที่โยกมาเกียร์สองเปี๊ยบเลยคับ แต่วิ่งด้วยความเร็วแล้ว เวลาเทินจากสี่มาสามปรกติดคับ ระบบแอร์ล๊อคทำงานปรกติคับ อันนี้สอบถามนอกรอบอีกนิดนะคับ จากที่ผมลองขับมาทีแรกนะคับ มิกเซอร์28ม.ม เหมื่อนกับว่าความเร็วปลายจะดีกว่ามิกเซอร์30ม.มนะคั บ ทั้งๆที่ปรับมาค่อนข้างเยอะเหมื่อนกันคับ เลยไม่แน่ใจว่ามิกเซอร์30ม.ม มันทำให้รอบต้นดีขึ้นแต่รอบปลายหายใช่ใหมคับ หรือรถ1j Ge ไม่เหมาะที่จะใช้มิกเซอร์30ม.ม คับ เพราะตอนแรกก่อนที่ผมจะกลึงเป็น30ม.ม วิ่งจากนครสวรรค์ มาใด้ร่วม170กว่าๆ แต่ตอนกลับ รู้สึกว่ามันไม่มาอ่ะคับ มันมาแค่ร่วมๆ140เองอ่ะคับ ผมใช้ไมค์ดิจิตอล หลังลึกคับ เฟืองท้าย4.3 ไม้ตี้เอ็ก ยางขอบ14นิ้ม205 65 r14 คับ เหมื่อนกับว่าไมค์รถมันจะแข็งกว่าความเป็นจริงนะคับ จากลองนับหลักกิโลดู คับมันไปร่วมๆ11หลักถึงจะครบ1กิโลคับ ขอบคุณมากนะคับ แล้วที่เชียงใหม่มีอู่ใหยที่แนะนำให้ไปล้างใหมคับแล้ วราคาอยู่ที่ประมาญใหยคับ ขอบพระคุณมากๆคับ