บางครั้งสตาร์ทไม่มีเสียง แต่ช่างบอกว่า เครื่องหลวมแล้ว

**various** · 26-07-2007, 00:33

เครื่อง 1J bo เกียร์ ออโต้

1 ช่างบอกเครืองเริ่มหลวม ควร โอเวอร์ฮอล ใหม่
1.1 เปลี่ยน แหวน
1.2 ยากตีนวาวล์
1.3 ประเก็น
ถาม ไม่ทราบว่าต้องเปลี่ยนอะไรอีกหรือเปล่าครับ (เปิดฝาทั้งทีจะได้ไม่ต้องเสียค่าแรงอีก) ควรเปลี่ยชาร์ปด้วยหรือเปล่าครับ

2 เวลาสตาร์ดเครื่อง บางครั้งไม่มีเสียงเลยครับ ต้อง บิดหลายรอบมาก
ถ้าเวลามีเสียงแล้วสตาร์ดไม่ยาก (ช่างพึ่งเปลี่ยน ไดสตาร์ดให้ เช็คตำแหน่งเกียร์ให้)
ไม่ทราบจะเป็นที่อย่างอื่นได้อีกหรือเปล่าครับ แต่เท่าที่อ่านกะทู้เก่ามาเห็นมีแต่บอกว่าเป็นที่ไดส ตาร์ด
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าช่างเข้าเปลี่ยนให้จริงหรือเปล่ า

3 รถมีอาการวูบ หรือ หอบ ที่ช่วง รอบ 1500 - 1800 รอบ ครับ
(ล้างลิ้นแล้ว) จะเป็นไปได้หรือเปล่า ที่เป็นที่ เซ็นเซอร์ ลิ้นเร่ง หรือ เป็นที่ เซ็นเซอร์ O2 ครับ

พี่ๆใครพอทราบอะไรบ้าง รบกวนช่วยบอกหน่อยนะครับ
กลุ้มมาก อยากแก้ให้ขับได้ปรกติก็พอใจแล้วครับ
ขอบคุณมากๆเลยครับ สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านหรือช่วยตอบครับ

**nakhonsawancar** · 26-07-2007, 00:47

ปกติแล้ว เจหลวมยากนะครับ
ตอนนี้รือมาดูแล้วหรือครับ ว่าอะไรหลวมบ้างอ่ะครับ
ลองเล่าอาการก่อนหน้านี้ซิครับ

**tunchz** · 26-07-2007, 00:58

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ various

เครื่อง 1J bo เกียร์ ออโต้

1 ช่างบอกเครืองเริ่มหลวม ควร โอเวอร์ฮอล ใหม่
1.1 เปลี่ยน แหวน
1.2 ยากตีนวาวล์
1.3 ประเก็น
ถาม ไม่ทราบว่าต้องเปลี่ยนอะไรอีกหรือเปล่าครับ (เปิดฝาทั้งทีจะได้ไม่ต้องเสียค่าแรงอีก) ควรเปลี่ยชาร์ปด้วยหรือเปล่าครับ

2 เวลาสตาร์ดเครื่อง บางครั้งไม่มีเสียงเลยครับ ต้อง บิดหลายรอบมาก
ถ้าเวลามีเสียงแล้วสตาร์ดไม่ยาก (ช่างพึ่งเปลี่ยน ไดสตาร์ดให้ เช็คตำแหน่งเกียร์ให้)
ไม่ทราบจะเป็นที่อย่างอื่นได้อีกหรือเปล่าครับ แต่เท่าที่อ่านกะทู้เก่ามาเห็นมีแต่บอกว่าเป็นที่ไดส ตาร์ด
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าช่างเข้าเปลี่ยนให้จริงหรือเปล่ า

3 รถมีอาการวูบ หรือ หอบ ที่ช่วง รอบ 1500 - 1800 รอบ ครับ
(ล้างลิ้นแล้ว) จะเป็นไปได้หรือเปล่า ที่เป็นที่ เซ็นเซอร์ ลิ้นเร่ง หรือ เป็นที่ เซ็นเซอร์ O2 ครับ

พี่ๆใครพอทราบอะไรบ้าง รบกวนช่วยบอกหน่อยนะครับ
กลุ้มมาก อยากแก้ให้ขับได้ปรกติก็พอใจแล้วครับ
ขอบคุณมากๆเลยครับ สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านหรือช่วยตอบครับ

ข้อ 1...ไม่ทราบครับ...
ข้อ 2...อาจจะเป็นที่ระบบไฟก็ได้ เช็คดูว่าเวลาบิดกุญแจเนี่ย น่าจะดูว่ารีเลย์ไดสตาร์ททำงานหรือเปล่า และมีไฟเข้าไดสตาร์ทหรือเปล่า...
ข้อ 3...น่าจะลอง check code ดูนะครับเผื่อจะช่วยได้ ง่ายและไม่เสียตังด้วย...

**SANOWMAN** · 26-07-2007, 11:11

ข้อ 1...สามารถไปเช็คว่าสูบหลวมรึเปล่า ที่ร้านเคยทำ มีเครื่องมือครบๆ ร้านใหญ่ๆ
ข้อ 2...รีเลย์ไดสตาร์ทเสียรึเปล่า สายหลวมรึเปล่า ค่อยๆไล่ตามสายไป กราวด์หลวมเปล่า
ข้อ 3...สายเมปหลุดรึเปล่า เม็บเสียรึเปล่า
จากข้อมูลพวกพี่ๆ

noom@korat · 26-07-2007, 11:15

ถ้าจะทำจริง...แนะนำให้ใช้การเช็คกำลังอัด... ถ้าผลออกมาบอกเครื่องกำลังอัดน้อย แต่ต้องหาให้ได้ว่ากำลังอัดน้อยเกิดจากอะไร..สองอย่า ง ลูกแหวนหลวม หรือวาล์วรั่ว วิธีการคือ.. เอาน้ำมันเครื่องใส่ไปในกะบอกสูบสักครึงฝากระป็องน้ำ มันเครื่อง แล้วเช็คกำลังอัดอีกรอบ ถ้าผลออกมากำลังอัดดีขึ้น ก็เป็นที่ลูกเหวน แต่ถ้ายังต่ำอยู่ก็วาล์วรั่ว..
ถ้าวาล์วรั่วก็เปิดฝามา เปลี่ยนแกนวาล์ว ยางหมวกวาล์ว(ยางตีนวาล์ว) เจียร์บ่าวาล์ว บดวาล์ว เปลี่ยนประเก็น..ทำเสร็จประกอบ เช็คกำลังอัดอีกรอบ ว่าอยู่ช่วง 10 kg/cm หรือเปล่า และแต่ล่ำสูบต่างกันไม่เกิน 1 kg/cm .. ถ้าต่ำกว่านั้นก้ต้องกลับไปเปลี่ยนแหวนอีกครับ..

ส่วนเรื่องสตาร์ทเงียบ..บอกได้เลยว่าไม่เกี่ยวกับเคร ื่องหลวมครับ เป็นที่ระบบไฟระบบสตาร์ท กับไดสตาร์ทครับ..

**TrippleAAA** · 26-07-2007, 13:14

ถ้าเช็คแล้ว หลวม มาก เปลี่ยนเครื่อง หาช่างไฟเก่งๆ เดินไฟไหม่(ส่วนตัวนะครับ)

**various** · 27-07-2007, 01:35

ขอบคุณทุกท่านมากๆเลยครับ ซึ้งในน้ำใจจริงๆเลยครับ
ยังไงก่อนไป โอเวอร์ฮอล์น จะลองไปเช็คกำลังอัดก่อนครับ
ส่วนเรื่อง สตาร์ด แล้วเงียบ ยังไงคงต้องไปเช็ค ไดสตาร์ดก่อน (เดี๋ยวไปเช็คช่างอู่ที่อื่นดูครับ)

***เรื่อง ที่เครื่องวูบ ไม่ทราบพอมีใครจะแนะนำได้บ้างครับ***

และผมว่าลงเครื่องใหม่ก็สู้ทำเครื่องตัวเองดีกว่าครั บ ผมทำไปเยอะแล้วครับ
พูดง่ายๆว่าผูกพันเลยครับ (ไปลงใหม่ก็คงต้องแก้อีกมั้งครับ)

**HS3FEL** · 27-07-2007, 02:00

***เรื่อง ที่เครื่องวูบ ไม่ทราบพอมีใครจะแนะนำได้บ้างครับ***
มีสมาชิกเราเคยถามมาแล้วครั้งหนึ่งและได้คำตอบว่ารีเ ซทกล่องแล้วหายครับลองดูเผื่อฟลุ๊ค...ขอให้โชคดีครับ

noom@korat · 27-07-2007, 08:14

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ HS3FEL

***เรื่อง ที่เครื่องวูบ ไม่ทราบพอมีใครจะแนะนำได้บ้างครับ***
มีสมาชิกเราเคยถามมาแล้วครั้งหนึ่งและได้คำตอบว่ารีเ ซทกล่องแล้วหายครับลองดูเผื่อฟลุ๊ค...ขอให้โชคดีครับ

แล้วพี่.หม่ำ.. รถออกจากอู่หรือยังครับ.. วิ่งเป็นงัยบ้างครับ..

ส่วนเรื่องเครื่องวูบ.. วูบแบบไหนครับ เกียร์ออโต้ใช่เปล่า ถ้าใช่ ช่วง รอบประมาณ 1500-2000 เวลากดคันเร่งนิดๆแล้วพอยกแล้วมันวูบใช่เปล่า ถ้าอาการแบบนี้ เป็นเรื่องปรกติของเจนะครับ เพราะเราตั้งเซนเซอร์ลิ้นเร่งให้มันตัดน้ำมัน ลองปรับตัวเซนเซอร์ลิ้นเร่งให้หมุนตามสายคันเร่งอีกน ิดครับ.. ถ้าเจโบ ไปยืนข้างท่อร่วมไอดีซ้ายของตัวรถ แล้วปรับหมุนทวนเข็มนาฬิกานิดหน่อยครับ แล้วลองขับดูใหม่นะครับ..

**nona31** · 27-07-2007, 08:35

สตาร์ทแล้วเงียบ น่าจะมันเป็นที่รีเลย์ และอีกอย่างก็คือ กราวด์ ไม่พอควรเพิ่มกราวด์ หน่อยครับ
ผมเคยเป็นน่ะครับ แล้วคิดว่าเป็นที่ได เลยเปลี่ยนไม่หายครับเสียค่าดง่ฟรีเลย สุดท้ายเพิ่มรีเลย์ช่วยสตาร์ท กับเพิ่มกราวด์ หายเลยครับ ไงลองทำดูก่อนครับ ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเยอะ

**BMกินJ@clubjz** · 27-07-2007, 11:46

จริงๆก่อนจะบอกว่าเครื่องหลวม น่าจะต้องมีอาการ วิ่งไม่ออก กินน้ำมัน น้ำมันเครื่องหาย ประมาณนี้นะครับ
1.หาทางเช็คโค้ดดูก่อนเลยครับ ถ้าไม่ฟ้องโค้ดอะไรก็ไล่ดู ดูตั้งแต่ขั้วปลั๊กที่กล่องรวมทั้งจุดอื่นๆด้วยครับ อย่าลืมเช็คแรงดันเบนซินด้วยครับ เผื่อติ๊กไกล้เจ๊ง
2.ถ้าสตาร์ทติด แต่สตาร์ทยาก ลองติดรีเลย์ช่วยสตาร์ทดูครับ(ไม่เกิน200.)
3.ก่อนจะรื้อเครื่องหรือทำจุดใหญ่ๆ ควรต้องชัวร์นะครับ ไม่งั้นเปิดมาทำเสียของน่ะครับ
**แค่สตาร์ทยาก ก็ไล่ดูหาจุดเสียจุดอ่อนของระบบ ไม่น่าจะต้องโอเวอร์ฮอนเครื่องมั้ง
เครื่องพวกนี้ หลักๆก็ไม่มีไรมากครับ ลองอ่านดู
http://www.clubjz.net/showthread.php?t=1298

**various** · 29-07-2007, 02:03

ตามคำแนะนำของพี่หนุ่มหายแล้วครับ
ไม่วูบแล้วครับ
ปรับตัวเซ็นเซอร์ลิ้นไปนิดนึงครับ (ขอบคุณพี่หนุ่มมากๆครับ)
เครื่อง J ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย

**various** · 29-07-2007, 02:11

ขอรบกวนสอบถามอาจารย์ หนุ่ม อีกครั้ง ครับ
บางครั้งเวลาสตาร์ดรถ แล้วเงียบไปเลย(ไม่มีเสียงอะไรเลยครับ)
ไม่ทราบว่าเป็นที่อะไรครับ

**various** · 29-07-2007, 02:13

แล้ว Code Ne มันคืออะไรครับ ศัพย์ช่างเลย(เค้าบอกว่าถ้าไม่มีก็สตาร์ดไม่ติด)
มันเกี่ยวกับอาการของผมหรือเปล่าครับ
แล้วเสียอะไร ต้องแก้ไขยังไงบ้างครับ

**HS3FEL** · 29-07-2007, 06:05

ตอบ...หนุ่ม โคราช
แล้วพี่.หม่ำ.. รถออกจากอู่หรือยังครับ.. วิ่งเป็นงัยบ้างครับ..

รถพี่ยังถือศีลอยู่ที่อู่ยังไม่ได้ออกมาเลยโดนโรคเลื ่อน เพราะว่ารถที่อู่วางเครื่องมีอยู่หลายคันเลยช้าไปหน่ อย...ตอนนี้ได้ 90% แล้วเหลือต่อระบบแอร์ครับ เสร็จเมื่อไหร่จะรีบไปหาหนุ่มโคราชทันทีเลย...ให้ตรว จสอบให้อีกที่ พร้อมที่จะกินแก๊ส...ครับ

**various** · 29-07-2007, 19:11

อาการวูบหายแล้วครับ ปรับตรงเซ็นเซอร์ลิ้นเร่งตาม อาจารย์ หนุ่ม หายสนิท
แล้วไปเช็คกำลังอัดมาแล้ว ยังดีอยู่ทั้ง 6 สูบ (สงสัยเจอช่างหลอกเอา)
ส่วนสตาร์ดแล้วเงียบ ยังแก้ไม่หายเลยครับ ไปเช็คโค๊ต มา
ช่างไฟ บอก เซ็นเซอร์ Ne หาย แต่เขาบอกว่าถ้าไม่มีก็สตาร์ด ไม่ติดเลย
ไม่รู้จะเป็นที่ ไดสตาร์ด หรือ เซนเซอร์ ที่มันหายไป ครับ

**piyasak** · 01-08-2007, 21:16

ผมเคยสตาร์ทไม่ค่อยติดหรือติดยาก
*+-*+-*+ เปลี่ยนไดสตาร์ท หายครับ *+-*+-*+ เพราะว่าตอนนั้นน้ำมันเครื่องมันหยดๆ บ่อยเข้า หยดใส่ไดสตาร์ทบ่อยๆ มันก็พังเท่านั้นเอง*+-*+-*

อีกครั้งนึงคือ ไม่ติดเลย เครื่องหมุนแต่มันไม่ติด ไล่หาหลายวันจอดที่ทำงาน หลายวันเลย หากะเพื่อนๆ เพราะเป็นช่างหลายคน ถอดกล่องนู่นถอดนี่ไปสลับไปเชคก็ไม่เสีย*+-*+-*+ ถอดใจสุดท้ายเอารถสไลด์ไปอู่ เพราะมันจะหยุดยาวปลายปีบริษัท 11 วัน ปรากฏว่า*+-*+-*+-* โครตรเส้นผมบังภูเขาเลย เสียค่ารถสไลด์เป็นพัน *+-*+-* มันเสียตรง รีเลย์สตาร์ท คู่ บอช เพราะแอร์มันหยดไปโดน ทุกวันทุกวัน *+-*+-* ช่างแงะออกมาสนิมกิน น้ำเต็มรีเลย์เลย งงสุด*+-*+-*+-*+-*

มีอีกครั้งนึงเครื่องหมุน แต่ไม่ติด
แต่ตอนนั้นน้ำมันรั่วเข้าทางหลังคาน่ะ ตอนใช้หลังคาเดิม กล่องวางที่ ที่วางเท้าข้างคนขับ*+-*+แล้วจอดหลายวันริมรั้วข้างบ้าน*+-* กล่อง Ecu แช่น้ำเลย สนิมกินกล่องเลย ถอดเอาไปซ่อมอู่สมควรพันกว่าบาทไงเนี่ย 1600 บาทมั้ง กลับมาเสียบก็สตาร์ทติดง่ายๆ

noom@korat · 02-08-2007, 10:01

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ various

อาการวูบหายแล้วครับ ปรับตรงเซ็นเซอร์ลิ้นเร่งตาม อาจารย์ หนุ่ม หายสนิท
แล้วไปเช็คกำลังอัดมาแล้ว ยังดีอยู่ทั้ง 6 สูบ (สงสัยเจอช่างหลอกเอา)
ส่วนสตาร์ดแล้วเงียบ ยังแก้ไม่หายเลยครับ ไปเช็คโค๊ต มา
ช่างไฟ บอก เซ็นเซอร์ Ne หาย แต่เขาบอกว่าถ้าไม่มีก็สตาร์ด ไม่ติดเลย
ไม่รู้จะเป็นที่ ไดสตาร์ด หรือ เซนเซอร์ ที่มันหายไป ครับ

อาการวูบ..หายไป สตาร์ทเงียบมา...
สตาร์ทเงียบ.ไม่น่าจะเป็นที่ขาดสัญญาณ ne นะครับ เพราะเงียบ ไดน่าจะไม่ทำงาน แต่ไม่ทำงานก็มาจากหลายอย่างครับ สวิทช์สตาร์ท , รีเลย์สตาร์ , ไดสตาร์ท

เรื่องเซนเซอร์ ne หายไป เจโบเป็นเซนเซอร์ที่ติดข้างฝาสูบ ตัวดำๆสองตัวอยู่ข้างๆหัวฉีดครับ ดุซิครับว่าสายมันขาด หรือปลั๊กมันหลวมเปล่า ถ้าสายยังดี ลองหามาเปลี่ยนดูครับ มันมีสองตัว ตัวใดตัวหนึ่งเสียมันจะมีอีกตัวทำงานแทนได้ครับ แต่ถ้าเป็นเซนเซอร์ที่ข้อเหวี่ยงเสียจะสตาร์ทไม่ติดเ ลย

**tunchz** · 03-08-2007, 18:36

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ noom@korat

แล้วพี่.หม่ำ.. รถออกจากอู่หรือยังครับ.. วิ่งเป็นงัยบ้างครับ..

ส่วนเรื่องเครื่องวูบ.. วูบแบบไหนครับ เกียร์ออโต้ใช่เปล่า ถ้าใช่ ช่วง รอบประมาณ 1500-2000 เวลากดคันเร่งนิดๆแล้วพอยกแล้วมันวูบใช่เปล่า ถ้าอาการแบบนี้ เป็นเรื่องปรกติของเจนะครับ เพราะเราตั้งเซนเซอร์ลิ้นเร่งให้มันตัดน้ำมัน ลองปรับตัวเซนเซอร์ลิ้นเร่งให้หมุนตามสายคันเร่งอีกน ิดครับ.. ถ้าเจโบ ไปยืนข้างท่อร่วมไอดีซ้ายของตัวรถ แล้วปรับหมุนทวนเข็มนาฬิกานิดหน่อยครับ แล้วลองขับดูใหม่นะครับ..

อยากทราบว่าเซนเซอร์ลิ้นเร่งของเจโบเนี่ย...ใช้ตัวพล าสติกสีดำต่อกับปลั๊กไฟ 4 สาย และมีน็อตยึดตัวเล็กๆ 2 ตัวอยู่ทางด้านซ้ายของลิ้นเร่งหรือเปล่าครับ.... และการปรับใช้ขันน็อตทั้งสองตัวแล้วหมุนเจ้าตัวพลาสต ิกตัวนี้หรือเปล่าครับ.... เพื่อความแน่ใจ เพราะรถก็มีอาการวูบกับเขาเหมือนกัน....

26-07-2007, 00:33	#1
various ClubJZ Web Register วันที่สมัคร: Oct 2006 กระทู้: 6 Thanks: 0 Thanked 6 Times in 6 Posts คะแนน: 0	บางครั้งสตาร์ทไม่มีเสียง แต่ช่างบอกว่า เครื่องหลวมแล้ว เครื่อง 1J bo เกียร์ ออโต้ 1 ช่างบอกเครืองเริ่มหลวม ควร โอเวอร์ฮอล ใหม่ 1.1 เปลี่ยน แหวน 1.2 ยากตีนวาวล์ 1.3 ประเก็น ถาม ไม่ทราบว่าต้องเปลี่ยนอะไรอีกหรือเปล่าครับ (เปิดฝาทั้งทีจะได้ไม่ต้องเสียค่าแรงอีก) ควรเปลี่ยชาร์ปด้วยหรือเปล่าครับ 2 เวลาสตาร์ดเครื่อง บางครั้งไม่มีเสียงเลยครับ ต้อง บิดหลายรอบมาก ถ้าเวลามีเสียงแล้วสตาร์ดไม่ยาก (ช่างพึ่งเปลี่ยน ไดสตาร์ดให้ เช็คตำแหน่งเกียร์ให้) ไม่ทราบจะเป็นที่อย่างอื่นได้อีกหรือเปล่าครับ แต่เท่าที่อ่านกะทู้เก่ามาเห็นมีแต่บอกว่าเป็นที่ไดส ตาร์ด ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าช่างเข้าเปลี่ยนให้จริงหรือเปล่ า 3 รถมีอาการวูบ หรือ หอบ ที่ช่วง รอบ 1500 - 1800 รอบ ครับ (ล้างลิ้นแล้ว) จะเป็นไปได้หรือเปล่า ที่เป็นที่ เซ็นเซอร์ ลิ้นเร่ง หรือ เป็นที่ เซ็นเซอร์ O2 ครับ พี่ๆใครพอทราบอะไรบ้าง รบกวนช่วยบอกหน่อยนะครับ กลุ้มมาก อยากแก้ให้ขับได้ปรกติก็พอใจแล้วครับ ขอบคุณมากๆเลยครับ สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านหรือช่วยตอบครับ

26-07-2007, 11:15	#5
noom@korat Super Moderator วันที่สมัคร: Oct 2006 Car Brand: ไมตี้,Hiace,TT141 Engine Type: 1J-gte,2J-GE vvt-i,JZ-GTE ที่อยู่: Korat,087-2525400 กระทู้: 284 Thanks: 0 Thanked 524 Times in 167 Posts คะแนน: 20	ถ้าจะทำจริง...แนะนำให้ใช้การเช็คกำลังอัด... ถ้าผลออกมาบอกเครื่องกำลังอัดน้อย แต่ต้องหาให้ได้ว่ากำลังอัดน้อยเกิดจากอะไร..สองอย่า ง ลูกแหวนหลวม หรือวาล์วรั่ว วิธีการคือ.. เอาน้ำมันเครื่องใส่ไปในกะบอกสูบสักครึงฝากระป็องน้ำ มันเครื่อง แล้วเช็คกำลังอัดอีกรอบ ถ้าผลออกมากำลังอัดดีขึ้น ก็เป็นที่ลูกเหวน แต่ถ้ายังต่ำอยู่ก็วาล์วรั่ว.. ถ้าวาล์วรั่วก็เปิดฝามา เปลี่ยนแกนวาล์ว ยางหมวกวาล์ว(ยางตีนวาล์ว) เจียร์บ่าวาล์ว บดวาล์ว เปลี่ยนประเก็น..ทำเสร็จประกอบ เช็คกำลังอัดอีกรอบ ว่าอยู่ช่วง 10 kg/cm หรือเปล่า และแต่ล่ำสูบต่างกันไม่เกิน 1 kg/cm .. ถ้าต่ำกว่านั้นก้ต้องกลับไปเปลี่ยนแหวนอีกครับ.. ส่วนเรื่องสตาร์ทเงียบ..บอกได้เลยว่าไม่เกี่ยวกับเคร ื่องหลวมครับ เป็นที่ระบบไฟระบบสตาร์ท กับไดสตาร์ทครับ.. __________________ ตัวอย่าง บางตอน... 2J-ge@Hero , 1J-ge@Hiace , 1J-ge@Volvo740 , Cefiro เจโบ m/t ,1J-gte@Cefiro ,1J-ge@E36 อื่นๆอีกมากมาย ฝีมือผมเองครับ..ที่นี่! งานยามว่าง ที่ต้องทำ.. เค้าอยาก เราจัดไป.. 1J-gte m/t @ BMW E30 2J-ge a/t @ Benz 230E 2J-ge a/t @ Benz 300E เอ้า..วิ่งได้แล้ว 2J-ge m/t @ Mitsubishi Starda.

27-07-2007, 11:46	#11
BMกินJ@clubjz ClubJZ Full Member 2557 วันที่สมัคร: Oct 2006 Car Brand: BMW Engine Type: 1JZ GTE Power by BLITZ ที่อยู่: Every Where ! กระทู้: 484 Thanks: 0 Thanked 618 Times in 198 Posts คะแนน: 21	จริงๆก่อนจะบอกว่าเครื่องหลวม น่าจะต้องมีอาการ วิ่งไม่ออก กินน้ำมัน น้ำมันเครื่องหาย ประมาณนี้นะครับ 1.หาทางเช็คโค้ดดูก่อนเลยครับ ถ้าไม่ฟ้องโค้ดอะไรก็ไล่ดู ดูตั้งแต่ขั้วปลั๊กที่กล่องรวมทั้งจุดอื่นๆด้วยครับ อย่าลืมเช็คแรงดันเบนซินด้วยครับ เผื่อติ๊กไกล้เจ๊ง 2.ถ้าสตาร์ทติด แต่สตาร์ทยาก ลองติดรีเลย์ช่วยสตาร์ทดูครับ(ไม่เกิน200.) 3.ก่อนจะรื้อเครื่องหรือทำจุดใหญ่ๆ ควรต้องชัวร์นะครับ ไม่งั้นเปิดมาทำเสียของน่ะครับ แค่สตาร์ทยาก ก็ไล่ดูหาจุดเสียจุดอ่อนของระบบ ไม่น่าจะต้องโอเวอร์ฮอนเครื่องมั้ง เครื่องพวกนี้ หลักๆก็ไม่มีไรมากครับ ลองอ่านดู http://www.clubjz.net/showthread.php?t=1298 __________________ คนเรา...คบกันที่น้ำใจ ไม่ใช่น้ำลาย Open your Mind , Open your Heart ,Open your Soul Don't say Behind , Open UP-Open UP !! " When The Children Cry "** http://www.dailymotion.com/search/wh...dren-cry_music ชอบ feel ในการขับรถใหญ่ๆ แต่ให้มันไปแบบรถเล็กๆ ชีวิตจริง.....มี TAKE เดียว Because ... LIFE's SHORT แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย BMกินJ@clubjz : 27-07-2007 เมื่อ 17:30.

26-07-2007, 00:47	#2
nakhonsawancar ClubJZ Full Member 2555 วันที่สมัคร: Nov 2006 Car Brand: Cefiro Bmw Volvo Engine Type: 2Jz Gte ที่อยู่: Nakhonsawan กระทู้: 951 Thanks: 154 Thanked 330 Times in 210 Posts คะแนน: 20	ปกติแล้ว เจหลวมยากนะครับ ตอนนี้รือมาดูแล้วหรือครับ ว่าอะไรหลวมบ้างอ่ะครับ ลองเล่าอาการก่อนหน้านี้ซิครับ

26-07-2007, 13:14	#6
TrippleAAA Junior Member วันที่สมัคร: Oct 2006 อายุ: 51 กระทู้: 13 Thanks: 0 Thanked 3 Times in 3 Posts คะแนน: 0	ถ้าเช็คแล้ว หลวม มาก เปลี่ยนเครื่อง หาช่างไฟเก่งๆ เดินไฟไหม่(ส่วนตัวนะครับ)

27-07-2007, 01:35	#7
various ClubJZ Web Register วันที่สมัคร: Oct 2006 กระทู้: 6 Thanks: 0 Thanked 6 Times in 6 Posts คะแนน: 0	ขอบคุณทุกท่านมากๆเลยครับ ซึ้งในน้ำใจจริงๆเลยครับ ยังไงก่อนไป โอเวอร์ฮอล์น จะลองไปเช็คกำลังอัดก่อนครับ ส่วนเรื่อง สตาร์ด แล้วเงียบ ยังไงคงต้องไปเช็ค ไดสตาร์ดก่อน (เดี๋ยวไปเช็คช่างอู่ที่อื่นดูครับ) *เรื่อง ที่เครื่องวูบ ไม่ทราบพอมีใครจะแนะนำได้บ้างครับ* และผมว่าลงเครื่องใหม่ก็สู้ทำเครื่องตัวเองดีกว่าครั บ ผมทำไปเยอะแล้วครับ พูดง่ายๆว่าผูกพันเลยครับ (ไปลงใหม่ก็คงต้องแก้อีกมั้งครับ)

27-07-2007, 02:00	#8
HS3FEL Junior Member วันที่สมัคร: Mar 2007 กระทู้: 7 Thanks: 0 Thanked 3 Times in 3 Posts คะแนน: 0	*เรื่อง ที่เครื่องวูบ ไม่ทราบพอมีใครจะแนะนำได้บ้างครับ* มีสมาชิกเราเคยถามมาแล้วครั้งหนึ่งและได้คำตอบว่ารีเ ซทกล่องแล้วหายครับลองดูเผื่อฟลุ๊ค...ขอให้โชคดีครับ

27-07-2007, 08:35	#10
nona31 Senior Member วันที่สมัคร: Oct 2006 อายุ: 46 กระทู้: 48 Thanks: 161 Thanked 45 Times in 18 Posts คะแนน: 0	สตาร์ทแล้วเงียบ น่าจะมันเป็นที่รีเลย์ และอีกอย่างก็คือ กราวด์ ไม่พอควรเพิ่มกราวด์ หน่อยครับ ผมเคยเป็นน่ะครับ แล้วคิดว่าเป็นที่ได เลยเปลี่ยนไม่หายครับเสียค่าดง่ฟรีเลย สุดท้ายเพิ่มรีเลย์ช่วยสตาร์ท กับเพิ่มกราวด์ หายเลยครับ ไงลองทำดูก่อนครับ ค่าใช้จ่ายน้อยกว่าเยอะ

29-07-2007, 02:03	#12
various ClubJZ Web Register วันที่สมัคร: Oct 2006 กระทู้: 6 Thanks: 0 Thanked 6 Times in 6 Posts คะแนน: 0	ตามคำแนะนำของพี่หนุ่มหายแล้วครับ ไม่วูบแล้วครับ ปรับตัวเซ็นเซอร์ลิ้นไปนิดนึงครับ (ขอบคุณพี่หนุ่มมากๆครับ) เครื่อง J ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย

29-07-2007, 02:11	#13
various ClubJZ Web Register วันที่สมัคร: Oct 2006 กระทู้: 6 Thanks: 0 Thanked 6 Times in 6 Posts คะแนน: 0	ขอรบกวนสอบถามอาจารย์ หนุ่ม อีกครั้ง ครับ บางครั้งเวลาสตาร์ดรถ แล้วเงียบไปเลย(ไม่มีเสียงอะไรเลยครับ) ไม่ทราบว่าเป็นที่อะไรครับ

29-07-2007, 02:13	#14
various ClubJZ Web Register วันที่สมัคร: Oct 2006 กระทู้: 6 Thanks: 0 Thanked 6 Times in 6 Posts คะแนน: 0	แล้ว Code Ne มันคืออะไรครับ ศัพย์ช่างเลย(เค้าบอกว่าถ้าไม่มีก็สตาร์ดไม่ติด) มันเกี่ยวกับอาการของผมหรือเปล่าครับ แล้วเสียอะไร ต้องแก้ไขยังไงบ้างครับ

29-07-2007, 06:05	#15
HS3FEL Junior Member วันที่สมัคร: Mar 2007 กระทู้: 7 Thanks: 0 Thanked 3 Times in 3 Posts คะแนน: 0	ตอบ...หนุ่ม โคราช แล้วพี่.หม่ำ.. รถออกจากอู่หรือยังครับ.. วิ่งเป็นงัยบ้างครับ.. รถพี่ยังถือศีลอยู่ที่อู่ยังไม่ได้ออกมาเลยโดนโรคเลื ่อน เพราะว่ารถที่อู่วางเครื่องมีอยู่หลายคันเลยช้าไปหน่ อย...ตอนนี้ได้ 90% แล้วเหลือต่อระบบแอร์ครับ เสร็จเมื่อไหร่จะรีบไปหาหนุ่มโคราชทันทีเลย...ให้ตรว จสอบให้อีกที่ พร้อมที่จะกินแก๊ส...ครับ

29-07-2007, 19:11	#16
various ClubJZ Web Register วันที่สมัคร: Oct 2006 กระทู้: 6 Thanks: 0 Thanked 6 Times in 6 Posts คะแนน: 0	อาการวูบหายแล้วครับ ปรับตรงเซ็นเซอร์ลิ้นเร่งตาม อาจารย์ หนุ่ม หายสนิท แล้วไปเช็คกำลังอัดมาแล้ว ยังดีอยู่ทั้ง 6 สูบ (สงสัยเจอช่างหลอกเอา) ส่วนสตาร์ดแล้วเงียบ ยังแก้ไม่หายเลยครับ ไปเช็คโค๊ต มา ช่างไฟ บอก เซ็นเซอร์ Ne หาย แต่เขาบอกว่าถ้าไม่มีก็สตาร์ด ไม่ติดเลย ไม่รู้จะเป็นที่ ไดสตาร์ด หรือ เซนเซอร์ ที่มันหายไป ครับ

01-08-2007, 21:16	#17
piyasak Junior Member วันที่สมัคร: May 2007 กระทู้: 14 Thanks: 0 Thanked 4 Times in 4 Posts คะแนน: 0	ผมเคยสตาร์ทไม่ค่อยติดหรือติดยาก +-+-+ เปลี่ยนไดสตาร์ท หายครับ +-+-+ เพราะว่าตอนนั้นน้ำมันเครื่องมันหยดๆ บ่อยเข้า หยดใส่ไดสตาร์ทบ่อยๆ มันก็พังเท่านั้นเอง+-+-* อีกครั้งนึงคือ ไม่ติดเลย เครื่องหมุนแต่มันไม่ติด ไล่หาหลายวันจอดที่ทำงาน หลายวันเลย หากะเพื่อนๆ เพราะเป็นช่างหลายคน ถอดกล่องนู่นถอดนี่ไปสลับไปเชคก็ไม่เสีย+-+-+ ถอดใจสุดท้ายเอารถสไลด์ไปอู่ เพราะมันจะหยุดยาวปลายปีบริษัท 11 วัน ปรากฏว่า+-+-+-* โครตรเส้นผมบังภูเขาเลย เสียค่ารถสไลด์เป็นพัน +-+-* มันเสียตรง รีเลย์สตาร์ท คู่ บอช เพราะแอร์มันหยดไปโดน ทุกวันทุกวัน +-+-* ช่างแงะออกมาสนิมกิน น้ำเต็มรีเลย์เลย งงสุด+-+-+-+-* มีอีกครั้งนึงเครื่องหมุน แต่ไม่ติด แต่ตอนนั้นน้ำมันรั่วเข้าทางหลังคาน่ะ ตอนใช้หลังคาเดิม กล่องวางที่ ที่วางเท้าข้างคนขับ+-+แล้วจอดหลายวันริมรั้วข้างบ้าน+- กล่อง Ecu แช่น้ำเลย สนิมกินกล่องเลย ถอดเอาไปซ่อมอู่สมควรพันกว่าบาทไงเนี่ย 1600 บาทมั้ง กลับมาเสียบก็สตาร์ทติดง่ายๆ