พัดลมไฮโดลิคเสียงดังมากเลยคับ ยิ่งเวลาจอดบนพื้นดินนี่ฝุ่นครุ้งไปหมดเกรงใจคนอื่นจ ริงๆ

[Moonlight]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Note_kbz

หาจังหวะแชร์ข้อมูลตรงนี้อยู่พอดีครับ รถผมใช้พัดลมไฮโดรลิกอยู่เหมือนกัน

ช่วงแรกใช้เกียร์ธรรมดาแต่เป็นกล่องเกียร์ออโต้ เวลาเครื่องร้อนหรือรถติดๆ เสียงพัดลมจะดังมากๆ ครับเวลาเร่งเครื่อง ผมเองยังนึกรำคาญและอยากเปลี่ยนเป็นพัดลมไฟฟ้าอยู่หล ายครั้งหลายครา

หลังจากนั้นผมได้เป็นเป็นเกียร์ออโต้ ดูเหมือนระบบจะดีขึ้น เสียงพัดลมไฮโดรลิกดังน้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก แต่เวลาเครื่องร้อน เวลาเร่งเครื่องเกิน 2000 rpm ขึ้นไป บางครั้งก็ยังมีเสียงพัดลมดังอยู่แต่ไม่มาก ทั้งเวลารถติดและวิ่งด้วยความเร็ว 80 ซึ่งยังอยากเปลี่ยนเป็นพัดลมไฟฟ้าในบางครั้ง เพราะเวลาเข้าลานจอดรถทุกคนจะมองว่ารถผม w126 ทำไมเสียงมันดังจัง

ด้วยความที่ไม่ค่อยดูแลรักษารถเท่าไรครับวางเครื่องม าเป็นปี ลองเช็คหม้อน้ำดูปรากฏว่าต้องเติมน้ำเข้าไปกว่าแกลลอ นเลยล่ะครับ หลังจากนั้นก็ใช้รถเหมือนปกติ แต่สังเกตว่าไม่มีเสียงพัดลมให้ได้ยินอีกเลยไม่ว่าจะ รถติดขนาดไหน ตัวผมเองไม่เคยนึกว่าการเช็คระดับน้ำในหม้อน้ำจะมีผล กับการทำงานของพัดลมเลย คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องปกติของพัดลมประเภทนี้ครับ

ตอนนี้เลยใช้รถอย่างสบายใจไม่มีเสียงพัดลมมากวนใจเหม ือนแต่ก่อนครับ ผมว่าการติดตั้งพัดลมหากทำอย่างถูกต้องแล้วมันไม่น่า จะมีเสียงดังรบกวนอะไรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหนก็ตามนะครับ

ปกติแล้ว รถ MB โดยเฉพาะ W126 พัดลมหน้าคอนเดนเซอร์แอร์ ก็ดังเป็นธรรมชาติอยู่แล้วครับ

ส่วนประเด็น น้ำหายจากหม้อน้ำนั้น (ถ้าเป็น เยอรมันแท้ หม้อน้ำจะเป็นระบบปิด โดยต้องเติมน้ำที่ฝาถังพักแทน แต่ถ้าเป็นลูกผสม จะเป็นระบบฝาอยู่ที่หม้อน้ำ) ก่อนอื่นต้องตรวจเช็คให้ดีๆว่า น้ำได้หายไปไหน ซึ่งถ้าเป็นระบบปิด ก็อาจจะหายได้ในช่วงแรกๆ เพราะว่า ช่างบางคนไม่เข้าใจระบบ เติมน้ำตอนที่วาล์วน้ำยังไม่เปิด ทำให้ใช้ไประยะหนึ่ง น้ำอาจจะหายไปได้ครับ

ส่วนเรื่องที่ว่า เติมน้ำระบายความร้อนแล้ว เสียงพัดลม เบาลงไปเยอะนั้น จะต้องขอบอกว่า เรื่องเสียงพัดลม ยังมีอยู่เหมือนเดิมครับ (ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเติมน้ำครับ) เพียงแต่ว่า มันจะดังช่วงที่ต้องระบายความร้อนอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะมีเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นครับ เพราะว่า ระบบระบายความร้อนได้ดี พัดลมจึงพัดเบาตลอดเวลาไงครับ แต่ถ้า ช่วงพัดลมพัดแรงๆ ประกอบกับพัดลมหน้าคอนเดนเซอร์แอร์ทำงานด้วยแล้ว ต้องบอกได้เลยครับว่า โอ้พระเจ้า ทำไมใครๆจึงหันมามองรถเราแบบนี้นะ เทห์ไม่หยอกครับ 5555

[TRD-E34]

ใช้ระบบนี้อยู่ 2 ปี กล่องเสีย 3 ใบ สายน้ำมันรั่ว 1 ครั้ง
น้ำมันรั่วตรงแกน 1 ครั้ง เสียงปั๊มไฮโดรลิก ดังมาก
ทนไม่ไหว เลยต้อง ถอดปั๊มทิ้ง ใส่ ตัวที่ไม่มีปั๊ม เปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้า 2 ตัว ขนาด 14 นิ้ว
เสียงเงียบดี สบายเลยตอนนี้

[Note_kbz]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ TRD-E34

ใช้ระบบนี้อยู่ 2 ปี กล่องเสีย 3 ใบ สายน้ำมันรั่ว 1 ครั้ง
น้ำมันรั่วตรงแกน 1 ครั้ง เสียงปั๊มไฮโดรลิก ดังมาก
ทนไม่ไหว เลยต้อง ถอดปั๊มทิ้ง ใส่ ตัวที่ไม่มีปั๊ม เปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้า 2 ตัว ขนาด 14 นิ้ว
เสียงเงียบดี สบายเลยตอนนี้

โชคดีของผมที่ยังไม่เกิดปัญหาต่างๆเหล่านี้หลังจากที ่ใช้มา 1 ปีครึ่งครับ เห็นแบบนี้เสียวเหมือนกันครับ
ลืมบอกไปครับ เครื่อง 2J-GTE Auto ครับ

[m&m]

ขอเเชข้อมูลด้วยคนครับ ผมก็ใช้อยู่ครับตอนเเรกๆมีปัญหาเรื่องความร้อนเพราะห ม้อน้ำไม่พอ เเละได้เปลี่ยนหม้อน้ำใหม่อาการตัวร้อนก็หายเเละตามเ เก้ระบบพัดลมให้สมบูรณ์ผมว่าบางครั้งมันเงียบกว่าพัด ลมไฟฟ้าบางตัวอีกครับ เเถมยังเย็นดีด้วยซึ่งผมคิดว่าถ้าระบบไฟสมบูรณ์ การระบายความร้อนของหม้อน้ำดีพอระบบพัดลม ไฮดรอลิดก็น่าใช้ครับเพราะระบบนี้รถสปอร์ตอย่าง supra ก็ยังใช้เลย ส่วนเรื่องสายน้ำมันที่เเตกน่าจะเกี่ยวกับสภาพเเละคว ามสมบูณร์ของระบบไฟเพราะถ้าพัดลมเเรงอย่างเดียวซึ่งน ั่นก็คือต้องมีเเรงดันจากปั้มเพื่อส่งน้ำมันไปปั่นพั ดลมให้เเรง ทำให้สายไฮดรอลิดทนไม่ไหวครับ เเต่เมื่อระบบสมบูณร์พัดลมก็จะทำงานตามความร้อนเหมาะ สมกับที่กล่องพัดลมเเละ senser เป็นตัวควบคุม
ส่วนตัวผมใช้มาจะสองปีเเล้วก็ยังไม่เคยเจอปัญหาเเละค วามร้อนไม่เคยเกิน 92 องศา ทั้งรถติดนานเเค่ไหนเเดดร้อนมากๆก็ไม่มีปัญหาความเร็ วสูงเเช่ไกลๆก็ไม่เกินนี้ครับ