ClubJZ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ใช้งานเครื่องยนต์ JZ ทุกรุ่น เพื่อที่จะใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เราหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล และผู้ที่มีปัญหาในการ ใช้งาน เครื่อง JZ ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกๆคนจะได้จาก ClubJZ นี้นั่นคือ มิตรภาพที่เรามีให้กับทุกๆท่านครับ.

Loading
Search In ClubJZ.net


กลับไป   ClubJZ Forums > ClubJZ ! Main Forums > ClubJZ! Useful Information
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน กระทู้ใหม่วันนี้
ประชาสัมพันธ์ ClubJZ!

1. Login สีส้ม และสีฟ้าไม่อนุญาติให้มีลายเซ็นตั้งแต่วันที่ 07/09/09 เป็นต้นไป

2. ขอเชิญ ผู้ใช้งาน ที่ Login เป็นสีส้ม มาแนะนำตัว ( ชื่อ,รถ,เครื่องยนต์ และเบอร์ติดต่อ) เพื่อเปลี่ยนมาเป็น ClubJZ Member ที่นี่ ครับ

3. User ที่สมัครใหม่ รอ Activate ผ่าน Email ทีกรอกมาด้วยนะครับ User นั้นถึงจะใช้งานได้ ครับ



ClubJZ! Useful Information คลังเก็บกระทู้ข้อมูล ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเครื่องยนต์ JZ! ครับ

ตอบกลับ
 
คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
เก่า 23-08-2009, 09:11   #1
volvoman
Senior Member
 
รูปส่วนตัว volvoman
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
กระทู้: 440
Thanks: 391
Thanked 582 Times in 232 Posts
คะแนน: 19 volvoman is on a distinguished road
เห็นภาพเลยครับ ลุงมูนสำหรับหลักการทำงานของเครื่องตรงจุดนี้....ขอบ คุณครับ
volvoman is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 23-08-2009, 10:05   #2
retro_boy
ClubJZ Old Full Member
 
รูปส่วนตัว retro_boy
 
วันที่สมัคร: Oct 2007
Car Brand: ISUZU-TFR
Engine Type: 1JZ-GTE
ที่อยู่: กรุงเทพ-ปทุมธานี
กระทู้: 183
Thanks: 18
Thanked 422 Times in 77 Posts
คะแนน: 18 retro_boy is on a distinguished road
ตามลุงมูนบอกเลยครับ แต่ที่ผมเจอส่วนใหญ่มักจะเป็นการใช้น้ำมันเครื่องที่ คุณภาพไม่พอมากกว่าครับแบบ พวกที่ชอบแช่รอบสูงๆเป็นเวลานานๆ น้ำมันเครื่องที่คุณภาพไม่ดีพอจะหมดคุณสมบัติในการหล ่อลื่นไปเลยครับ(ความร้อนยิ่งสูงน้ำมันยิ่งใส)

ส่วนเรื่องเสียงดังนั้น มันมาจากวาล์วครับ(เป็นแทบทุกคันครับ)ลองไปใช้น้ำมัน เกรดที่ใสกว่าเดิมดูสิครับ เช่น 5w หรือ 0w เสียงจะหายไวกว่าเดิมครับ

เขาถึงมีคำเตื่อนไงครับว่าสตาร์ทเครื่องใหม่ๆอย่าเร่ งเครื่อง(เพราะน้ำมันยังไม่ขึ้นไปหล่อลื่นส่วนต่างๆไ ด้ทันยังไงล่ะครับ)
retro_boy is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 23-08-2009, 11:09   #3
cho_1
ClubJZ Old Full Member
 
รูปส่วนตัว cho_1
 
วันที่สมัคร: May 2008
Car Brand: D-MAX
Engine Type: 1JZ-GTE + LPG
ที่อยู่: Nakornpathom
อายุ: 39
กระทู้: 115
Thanks: 1
Thanked 36 Times in 22 Posts
คะแนน: 18 cho_1 is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง cho_1
อยากรู้การดูแลรักษา ชาป ไม่ให้ละลาย มีอะไรบ้างครับ จำเป็นต้องมี ออยน้ำมันเครื่องป่าวครับ
cho_1 is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 23-08-2009, 11:29   #4
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 20 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ cho_1 อ่านกระทู้
อยากรู้การดูแลรักษา ชาป ไม่ให้ละลาย มีอะไรบ้างครับ จำเป็นต้องมี ออยน้ำมันเครื่องป่าวครับ
  1. ใช้น้ำมันเครื่องที่คุณภาพดี ต้องเปลี่ยนถ่ายตามอายุระยะเวลาหรือระยะการใช้งานสม่ ำเสมอ
  2. อย่าทำให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ร้อนเกินไป (สูงกว่า 100 องศานานๆ)
  3. สตาร์ทเครื่องเย็น ให้อุ่นเครื่องหรือ ถ้าต้องการนีบขับเคลื่อนออกรถ ต้องค่อยๆออก ขับในความเร็วไม่เกิน 40 กม./ช.ม. (รอบเครื่องไม่เกิน 2000 รอบ) จนกระทั่งเครื่องยนต์ร้อนถึง 80 องศาเซลเซียส จึงจะใช้ความเร็วได้ปกติ
  4. หมั่นตรวจรักษาระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับปริม าณปลอดภัยต่อการใช้งาน (ระหว่างขีด Min. - Max.)
มีแค่ 4 ข้อนี้เอง ถ้าทำได้ ก็เท่ากับเครื่องยนต์มีภูมิคุ้มกันที่ดีแล้วครับ
__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 4 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post:
golf2765 (13-12-2009), nibley (02-11-2009), pookza (12-12-2009), vongsarod (25-12-2009)
เก่า 23-08-2009, 11:40   #5
cho_1
ClubJZ Old Full Member
 
รูปส่วนตัว cho_1
 
วันที่สมัคร: May 2008
Car Brand: D-MAX
Engine Type: 1JZ-GTE + LPG
ที่อยู่: Nakornpathom
อายุ: 39
กระทู้: 115
Thanks: 1
Thanked 36 Times in 22 Posts
คะแนน: 18 cho_1 is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง cho_1
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Moonlight อ่านกระทู้
  1. ใช้น้ำมันเครื่องที่คุณภาพดี ต้องเปลี่ยนถ่ายตามอายุระยะเวลาหรือระยะการใช้งานสม่ ำเสมอ
  2. อย่าทำให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ร้อนเกินไป (สูงกว่า 100 องศานานๆ)
  3. สตาร์ทเครื่องเย็น ให้อุ่นเครื่องหรือ ถ้าต้องการนีบขับเคลื่อนออกรถ ต้องค่อยๆออก ขับในความเร็วไม่เกิน 40 กม./ช.ม. (รอบเครื่องไม่เกิน 2000 รอบ) จนกระทั่งเครื่องยนต์ร้อนถึง 80 องศาเซลเซียส จึงจะใช้ความเร็วได้ปกติ
  4. หมั่นตรวจรักษาระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับปริม าณปลอดภัยต่อการใช้งาน (ระหว่างขีด Min. - Max.)
มีแค่ 4 ข้อนี้เอง ถ้าทำได้ ก็เท่ากับเครื่องยนต์มีภูมิคุ้มกันที่ดีแล้วครับ

อย่าทำให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ร้อนเกินไป สูงกว่า 100 องศานานๆ
ดูที่ เกจ์วัดความร้อนน้ำใช้ป่าวครับ หรือใช้เกจ์ วัดความร้อนน้ำมันเครื่องครับ และสมควรมี ออยเครื่องหรือป่าวครับ
cho_1 is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 23-08-2009, 11:58   #6
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 20 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ cho_1 อ่านกระทู้
อย่าทำให้อุณหภูมิเครื่องยนต์ร้อนเกินไป สูงกว่า 100 องศานานๆ
ดูที่ เกจ์วัดความร้อนน้ำใช้ป่าวครับ หรือใช้เกจ์ วัดความร้อนน้ำมันเครื่องครับ และสมควรมี ออยเครื่องหรือป่าวครับ
ถ้าคุณไม่ได้โมดิฟายเครื่องยนต์ ไม่ได้ขับรถให้เครื่องยนต์โหลดกำลังสูงสุดประจำนานๆ เกจ์วัดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง และ ออยคูลเลอร์น้ำมันเครื่องแยกนั้น ไม่จำเป็นต้องมีครับ ทำไมหรือครับ?

ก็เพราะว่า อุณหภูมิน้ำในเครื่องยนต์ (THW) ซึ่งส่งสัญญาณแจ้งระดับอุณหภูมิมาที่เกจ์วัดความร้อน ที่หน้าปัดรถนั้น จะแจ้งอุณหภูมิความร้อน ไปในทิศทางเดียวกันกับ อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องยนต์อยู่แล้ว จึงไม่จำเป็น

ส่วน ออยคูลเลอร์แยก นั้น มีไว้สำหรับรถที่ใช้กำลังเครื่องยนต์สูงๆ เพื่อลดและระบายความร้อนของน้ำมันเครื่องให้ลดลงอย่า งรวดเร็ว ซึ่งจริงๆแล้วสำหรับรถยนต์ที่ผู้ขับรถทั่วๆไปใช้งานป กตินั้น ไม่จำเป็นเพราะว่าในเครื่องยนต์ มีออยคูลเลอร์ อยู่แล้วครับ แค่นั้นก็เพียงพอแล้วครับ

มีอีกอุปกรณ์หนึ่งที่คุณไม่ได้ถาม แต่ว่า สมาชิกท่านอื่นอาจจะถาม นั่นคือ เกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง มีความจำเป็นมั้ย ขอตอบว่า เกจ์ตัวนี้ จริงๆแล้ว เดิมเป็นเกจ์มาตราฐานของรถยนต์ทั่วๆไปครับ เอาไว้วัดคุณภาพ และ ปริมาณของน้ำมันเครื่อง ถ้าคุณภาพน้ำมันเครื่องลดลง จากอายุการใช้งาน หรือจากความร้อนเครื่องยนต์ที่ทำให้ความหนืดน้ำมันเค รื่องลดลง แรงดันน้ำมันเครื่องก็ลดลงกว่าปกติด้วย และถ้าปริมาณน้ำมันเครื่องต่ำกว่าปกติ แรงดันน้ำมันเครื่องก็หายได้ครับ แต่เนื่องเพราะว่า ปัจจุบัน น้ำมันเครื่องมีคุณภาพที่สูงมากระดับหนึ่ง อายุการใช้งานก็ยาวนานขึ้น ความจำเป็นของเกจ์ตัวนี้ จึงลดลง อีกทั้งโรงงานผลิตคิดลดต้นทุนการผลิต สิ่งไหนที่จำเป็นน้อยลง จึงไม่ได้ติดตั้งมาให้ครับ ดังนั้น ถ้าถามว่า จำเป็นต้องมีมั้ย? ผมขอตอบว่า ถ้าคุณทำตาม 4 ข้อ ที่ผมบอกไว้ โดยเฉพาะข้อที่ 1 แล้ว เกจ์ตัวนี้ก็ไม่มีความจำเป็นเลยครับ
__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following User Says Thank You to Moonlight For This Useful Post:
nibley (02-11-2009)
เก่า 23-08-2009, 21:58   #7
Bee-Boy
Senior Member
 
รูปส่วนตัว Bee-Boy
 
วันที่สมัคร: Dec 2007
อายุ: 43
กระทู้: 91
Thanks: 135
Thanked 97 Times in 59 Posts
คะแนน: 18 Bee-Boy is on a distinguished road
ของผมก็ดังครับตอนสตาทร์แรกๆ อุ่นเครื่องซักพักก็หายครับ แบบนี้ปกติไหมครับ
Bee-Boy is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
ตอบกลับ



กฎการส่งข้อความ
คุณไม่สามารถเริ่มหัวข้อใหม่ได้
คุณไม่สามารถตอบกระทู้ได้
คุณไม่สามารถแนบไฟล์ได้
คุณไม่สามารถแก้ไขกระทู้ของคุณเองได้

โค้ด vB ใช้ได้
[IMG] โค้ด ใช้ได้
โค้ด HTML ใช้ได้
กระโดดไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:48


Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2025, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels