สอบถามผู้ที่เดินออกต่างจังหวัด บ่อยๆ กับเครื่อง โบ กับ ไม่โบ

[Moonlight]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ tulip

คือ ตอนนี้ จะวางเครื่องอะคับ และผมยังไม่แน่ใจ ว่า แบบไหน จะมีปัญหา เรื่องความร้อน มากกว่ากัน

อยากได้คำแนะนำ สำหรับ การเดินทางออกต่างจังหวัด ด้วยครับ

จุดประสงค์ คือ

1. เรื่องความร้อนครับ เครื่องแบบไหน มีปัญหา มากกว่า กัน???

2. ถ้าเป็นเครื่องโบ แล้วเอาไป ใส่เทอร์โบ ใบ โตๆ จะมีปัญหาอะไร ไหมคับ กับการเดินทางไกล???

3. มีคนเค้าบอกว่า เครื่องโบ กดแช่นานๆ ไม่ได้ จริงหรือเปล่า??? คับ ควรขับยังไง??? คับ

4. มีคนบอก (อีกแล้ว) เครื่องที่ โมฯ มามากๆ จะออกทางไกลไม่ได้!!! จริงหรือเปล่า??? คับ

5. การพักเครื่องยนต์ ในการเดินทางไกล ควรพัก ตอนไหน??? ไม่พัก ได้ป่าว!!!

6. ไฟหน้า แบบ ซีนอล ควรใช้แบบไหนคับ??? เห็นเค้าบอก มี แบบ จับพื้น ไม่จับพื้น ควรใช้กี่ K ???

***7. อยากได้คำแนะนำ การพักเครื่องยนต์ ของเครื่องโบ กับ เครื่องไม่โบ คับ ว่า ควร พักนาน ไหม ใช้เวลาเท่าไร ในการพัก????

8. เฟืองท้ายแบบ สลิปลิมิเต๊ด ออกทางไกล แล้วไม่ควรใช้ความเร็วสูง และเข้าโค้ง ความเร็วสูงๆ จริงหรือเปล่า คับ????

9.เห็น น้าชาย เค้าเปิดฝาหม้อน้ำ แล้ว เอาสายยางยัดใส่ในหม้อน้ำตอน พักเครื่องที่ปั้ม ทั้งๆที่ ติดเครื่องอยู่ ( น้ำพุ่ง ปุดๆๆ เลย ) ถ้าทำยังงี้ มีผลดี ผลเสียยังไง คับ [ ทำกับเจ ได้ม่ะ


***10. ผมเดินทางไกล จาก กรุงเทพฯ ถึง ด่าน อ.แม่สาย บ่อยๆ ครับ ในการพักเครื่อง

ผมควรจะ!!! พักที่จังหวัด อะไร และ!!! ไม่พักได้ไหม

11. ควรใช้ความเร็วเท่าไรคับ

12. การออกเดินทาง ควร เช็ค อะไร มั้ง อ่ะคับ เช่น เครื่อง ช่วงล่าง ยาง ประมาณนี่ อะคับ เอาแบบ ยิบๆ เรยคับ

13. สุดท้าย เฟืองท้าย คับ ควรใช้แบบไหนคับ เต็ด ไม่ เต็ด ถ้าใช้งาน เดินทางไกล บ่อยๆ กับ เปรี้ยวในเมือง (นานๆที)



ใจจริงที่ผม อยากได้ คือ เครื่องโบ โมฯ เต็มอ่ะคับ แต่ไม่มีประสบการณ์ กับ โบ เลย

จุดหมายปลายทาง คือ กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ - เชียงราย - แม่สาย คร้าบบบบบ



คำแนะนำ ยิ่งละเอียดเท่าไร ยิ่งดีคับ " เป็นความรู้ ผู้ที่ไม่มี ประสบการณ์ ด้วยคับ " จากประสบการณ์ตรงได้ ละ แจ่ม คับ





ใครตอบขอให้รวย มี เมียสวย รวย น้องเมีย ดวงรุ่ง พุ่งกระฉูด เป็น พยาเทครัว ไปเรยยย


ขอบคุณคับ

จากที่อ่านหัวกระทู้และคำถามทั้งหมดแล้ว ทำให้คิดว่า ที่คุณถามๆมานั้น มีคำตอบทั้งหมดอยู่แล้วในเวปนี้ ซึ่งจริงๆแล้ว คุณควรที่จะใช้วิธีช่วยตนเองก่อน โดยค้นหาข้อมูลที่มีคนเขียนบทความลงไว้ หรือค้นหาความคิดเห็นจากท่านอื่นๆในกระทู้ต่างๆ จะทำให้คุณทราบข้อมูลในเชิงลึกขึ้นกว่านี้ หลังจากที่คุณค้นคว้ามาอ่านแล้ว มีข้อสงสัย คุณก็สามารถต่อยอดโดยตั้งกระทู้ถามได้ครับ แล้วคุณจะได้ความรู้แน่นพอที่จะออกไปใช้งานหรือหาประ สพการณ์จริงเพิ่มเติมครับ

คำถามที่ถามมา ถ้าจะให้ตอบละเอียดได้ความรู้จริงๆ จะยาวมากกว่า 3 หน้ากระดาษ A4 แน่ครับ ผมจึงคิดว่า ผมจะสรุปข้อมูลคำตอบทั้งหมดคร่าวๆ พอที่จะเข้าใจเป็นพื้นฐาน จากนั้น ให้คุณค้นคว้าหารายละเอียดเพิ่มเติมจากเวปนี้ได้ครับ (พิมพ์ "Key word" คำที่อยากรู้ ลงในช่องว่างด้านบนซ้ายสุด แล้วคลิ๊กที่คำว่า Google ครับ)

************************************************** *****

สรุปคำถามของคุณได้ 4 ประเด็นดังนี้ครับ

• เรื่องความร้อนของเครื่องยนต์ระหว่าง เครื่องที่มีเทอร์โบ กับ ไม่มีเทอร์โบ
• เรื่องการใช้รถวิ่งทางไกล การพักเครื่อง การใช้ความเร็ว
• เรื่องเฟืองท้ายลิมิตเต๊ดสลิป
• เรื่องการใช้งานเครื่องที่โมดิฟายเครื่องยนต์ และ การติดตั้งไฟซีนอน

เรื่องความร้อนเครื่องยนต์เทอร์โบ กับ ไม่มีเทอร์โบ อย่างไหนร้อนกว่ากัน ต้องตอบว่า เมื่อเทอร์โบทำงาน จะเป็นตัวสะสมและเพิ่มความร้อนครับ ดังนั้นต้องตอบว่า เครื่องยนต์เทอร์โบจะต้องร้อนกว่าเครื่องยนต์ที่ไม่ม ีเทอร์โบ ในระบบเครื่องยนต์แบบเดียวกันและจำนวนปริมาตรกระบอกส ูบเท่ากันครับ แต่ถึงกระนั้นก็ตาม มันไม่ใช่ประเด็นปัญหาของผู้ใช้รถ ถ้ารู้จักป้องกันที่ดีพอครับ เช่น การระบายความร้อนเครื่องยนต์ด้วยน้ำ (หม้อน้ำ) น้ำมันเครื่อง และอากาศ (พัดลมและวางตามหลักพละอกาศ) ที่ดีพอ (หาข้อมูลเรื่อง "การระบายความร้อน" อ่านเองครับ)

เรื่องการเดินทางไกล การพักเครื่อง และการใช้ความเร็วสำหรับเครื่องยนต์ 6 สูบ ในระดับการแบกน้ำหนักรถรวมไม่เกิน 2 ตัน และระดับระยะทางวิ่งรถ บริเวณ ประเทศไทย นั้น ต้องบอกว่า ถ้าใช้ความเร็วตามกฏหมายกำหนด คุณสามารถขับไปไหนก็ได้ โดยไม่ต้องพักเครื่องยนต์ ตราบเท่าที่ ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ, น้ำมันเครื่อง และอากาศดีพอ รวมทั้งเชื้อเพลิงในถังไม่หมด หรือถ้าคุณมีเครื่องบินแบบเติมน้ำมันเชื้อเพลิงได้ จะนำมาใช้ต่อเติมน้ำมันขณะขับรถอยู่ก็ได้ครับ ถ้าคุณไม่เหนื่อยกับการขับรถเสียก่อน รับรองว่าเครื่องยนต์ไม่พังแน่ครับ แต่ถ้าเชื้อเพลิงหมดแล้วต้องการเติมเชื้อเพลิง การเข้าไปในปั๊มเติมเชื้อเพลิง หรือขับถ่ายของเหลวของเสียในร่างกายออกมา หรือใส่ของดีลงไปในร่างกาย ก็จะเป็นการพักเครื่องไปในตัวอยู่แล้วครับ แต่สำหรับการพักเครื่องยนต์เทอร์โบ ที่ใช้งานหนักมานานๆ ก็สมควรพักความร้อนสะสมของแกนเทอร์โบ โดยการที่ให้เทอร์โบค่อยๆลดความร้อนลงในช่วงที่คุณทำ กิจกรรมดังกล่าวเบื้องต้น ด้วยการปล่อยให้รถเดินเบาระยะเวลาหนึ่ง(ไม่เกิน 3 นาที) เปิดฝากระโปรงหน้ารถเพื่อระบายความร้อนเร็วขึ้น จากนั้นจะดับเครื่องยนต์ก็ตามใจแล้วครับ เรื่องความเร็วรถนั้น อยู่ที่คนขับตัดสินใจครับ ถ้าขับตามกฏหมายกำหนดก็ดีครับ แต่ถ้าคิดว่า ต้องการถึงที่หมายเร็วๆ อาจจะต้องยอมฝืนกฏ และยอมเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม เช่น สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น (ยิ่งขับเร็วขึ้นเครื่องยนต์ยิ่งใช้เชื้อเพลิงมากขึ้น ตามอัตราสัดส่วนความเร็วครับ) หรือต้องยอมเสียค่าใช้จ่ายให้หลวงครับ

เรื่องเฟืองท้ายลิมิตเต็ดสลิป ก็ต้องบอกว่าแล้วแต่ผู้ใชรถต้องการใช้งานครับ ลิมิตเต็ดสลิปเหมาะกับการใช้งานบนทางขรุขระ หรือทางที่เป็นหลุมหรือหล่มโคลน ซึ่งสามารถเรียกกำลังลงที่ล้อหลังข้างใดข้างหนึ่งได้ เต็มที่เพื่อให้หลุดจากจุดนั้นได้ง่าย แต่จะนำมาใช้กับทางเรียบก็ได้ ไม่มีปัญหาอะไร (แต่แรงฝืดของเฟืองท้ายจะมีมากกว่าเฟืองธรรมดานิดหน่อ ยนะครับ ดังนั้น ก็ต้องบอกว่า กินพลังเชื้อเพลิงมากกว่าเฟืองปกตินิดหนึ่ง) ส่วนเรื่องการเข้าโค้งสำหรับรถที่ใช้เฟืองท้ายลิมิตเ ต็ดสลิปนั้น ก็ควรระมัดระวังเรื่องอัตราเร่งความเร็วครับ เพราะว่าเวลาเข้าโค้งล้อทั้ง 2 ข้างจะหมุมไม่เท่ากัน ถ้ามีการใช้ความเร็วสูงมากๆ อาจจะมีโอกาศชสท้ายปัดจนเกิดอุบัติเหตุได้ครับ ส่วนเวลาเข้าโค้งมากๆ จะมีเสียงคล้ายเสียงเบรคทั้งๆที่เราไม่ได้เหยียบเบรค นั้น ไม่ต้องตกใจครับ นั่นคือการทำงานของลิมิตเต็ดสลิปครับ

เรื่องใช้รถที่มีการโมดิฟายเครื่องยนต์และการติดตั้ง ไฟซีนอน เราต้องทราบก่อนอยู่แล้วว่าเครื่องยนต์ที่โมดิฟายนั้ น ต้องการรีดกำลังเครื่องยนต์ออกมาให้มากเท่าเราต้องกา ร ดังนั้น การที่จะโมดิฟายเครื่องยนต์นั้น ต้องอยู่ในระดับที่ตัวเครื่องยนต์รับได้ด้วย และอยู่ที่ตัวเราเอง เซทใส่อะไรป้องกันเครื่องยนต์ไว้เป็นอย่างดีหรือเปล่ าด้วยครับ ถ้าทำไว้ดีจริง การใช้รถ ก็เหมือนกับการใช้งานรถปกติทั่วไปครับ จะขับเร็วก็ตามใจครับ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลไปขับไปครับ ส่วนเรื่องไฟซีนอนนั้น ถ้าเอามาใส่แทนไฟฉาโลเจนเดิม ก็ต้องระมัดระวังว่าจะไปแยงเข้าตาคนขับที่วิ่งรถสวนม าครับ หรืออย่าติดตั้งไฟสูงจนไปสะท้อนกระจกเข้าตาคนขับรถคั นหน้าครับ เรื่องอุณหภูมิสีแสงไฟนั้น แล้วแต่คนชอบครับ แต่ผมจะบอกว่า อุณหภูมิสีของแสงแดดธรรมชาติในโลกเรานี้ อยู่ที่ 6500 เควิ่น เพราะฉะนั้น ถ้าต้องการให้ได้อุณหภูมิสีเป็นธรรมชาติ ก็จะอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 5500 ถึง 6500 เควิ่นครับ นอกนั้นแล้วแต่ผู้ใช้รถเลือกใช้ครับ