ClubJZ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ใช้งานเครื่องยนต์ JZ ทุกรุ่น เพื่อที่จะใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เราหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล และผู้ที่มีปัญหาในการ ใช้งาน เครื่อง JZ ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกๆคนจะได้จาก ClubJZ นี้นั่นคือ มิตรภาพที่เรามีให้กับทุกๆท่านครับ.
|
ประชาสัมพันธ์ ClubJZ! |
1. Login สีส้ม และสีฟ้าไม่อนุญาติให้มีลายเซ็นตั้งแต่วันที่ 07/09/09 เป็นต้นไป 2. ขอเชิญ ผู้ใช้งาน ที่ Login เป็นสีส้ม มาแนะนำตัว ( ชื่อ,รถ,เครื่องยนต์ และเบอร์ติดต่อ) เพื่อเปลี่ยนมาเป็น ClubJZ Member ที่นี่ ครับ 3. User ที่สมัครใหม่ รอ Activate ผ่าน Email ทีกรอกมาด้วยนะครับ User นั้นถึงจะใช้งานได้ ครับ |
ClubJZ! Useful Information คลังเก็บกระทู้ข้อมูล ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเครื่องยนต์ JZ! ครับ |
|
คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
29-11-2009, 00:24 | #1 | |
ClubJZ Old Full Member
วันที่สมัคร: Oct 2009
Car Brand: Toyota
Engine Type: 1JZ
ที่อยู่: Soi 20 Predeepanomyong Sukumvit 71 Rd. Kwang North Prakanong Kate Vattana Bkk 10110
กระทู้: 30
Thanks: 21
Thanked 143 Times in 16 Posts
คะแนน: 0
|
การทดสอบที่กรองอากาศคับ
สำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อ หรือว่าผู้ที่กำลังอยากจะเปลี่ยนนะคับ เอาไว้เป้นหนึ่งตัวเลือกในการตัดสินใจ
เข้าไปอ่านได้ในลิ้งค์นี้เลยคับ http://mkiv.com/techarticles/filters_test/2/ ขอขอบคุณ คุณ Jing นะคับที่หาความรู้มาเสริมให้คับ อ้างถึง:
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Buta_JZ : 02-12-2009 เมื่อ 01:23. |
|
The Following 51 Users Say Thank You to Buta_JZ For This Useful Post: | 2jbamboo (01-12-2009), 4d4wd (29-11-2009), A(RT131) (01-12-2009), amnat8 (01-12-2009), ancivic (01-03-2010), aom8817 (30-11-2009), Bank_td07 (29-11-2009), Bee-Boy (29-11-2009), bokyod (01-12-2009), boylpn (30-11-2009), cpservice (01-12-2009), dvm (29-11-2009), eightnine (08-03-2011), Godzela (29-11-2009), gotlaw (01-12-2009), IamArt (13-03-2010), idea_nova (02-12-2012), jing (29-11-2009), joe-civil@jz (25-08-2010), Kangk (04-02-2010), kkk (30-11-2009), kunsue (29-11-2009), l.lerson (30-11-2009), leo20088 (30-11-2009), ludwig_awsb (20-06-2010), M16_Vn (30-11-2009), mart (16-12-2009), Mightytode (30-11-2009), mos240d (05-03-2010), ms111 (11-12-2009), mungkorn2 (30-11-2009), nanid (13-04-2011), nona31 (29-11-2009), nonkubpom (29-11-2009), oat (29-11-2009), ord6859 (29-11-2009), pae604 (29-11-2009), parkpoom_p (30-11-2009), pzentrady (30-11-2009), Ragtop (30-11-2009), rider boy (29-11-2009), samasun_007 (30-11-2009), samulaiqoo (28-05-2011), sintorn (30-11-2009), soludeath (30-11-2009), Suttiphonphong (29-11-2009), tantan (02-12-2009), tidku61 (30-11-2009), trezetae (29-11-2009), wk7000 (29-11-2009), zain_72 (29-11-2009) |
30-11-2009, 01:39 | #2 |
ClubJZ Old Full Member
วันที่สมัคร: Oct 2009
Car Brand: Toyota
Engine Type: 1JZ
ที่อยู่: Soi 20 Predeepanomyong Sukumvit 71 Rd. Kwang North Prakanong Kate Vattana Bkk 10110
กระทู้: 30
Thanks: 21
Thanked 143 Times in 16 Posts
คะแนน: 0
|
อยากถามพี่ๆ ว่าแบบวัสดุต่างกันอย่างนี้ก็หมายความว่า product แต่ละชิ้นนี้ทำให้รถเราหายใจได้ไม่เท่ากันใช่มั้ยคับ อิอิ
แล้วก็มันช่วยเพิ่มแรงม้าจิงๆ เหรอ???? อันนี้สงสัยที่สู๊ดดดด |
30-11-2009, 09:04 | #3 | |
Super Moderator
|
อ้างถึง:
ถ้าสมมุตเราเป็นนักกีฬาวิ่งมาราทอน ตอนที่เราวิ่งสตาร์ทเริ่มต้นนั้น กำลังวังชากระปรี้กระเปร่า หายใจปกติ ได้สะดวก แต่พอเราวิ่งไปได้ 5 กม. ... 10 กม. เหงื่อเราเริ่มออกเยอะ ก็ต้องมีน้ำหรือเกลือแร่ผสมน้ำ เพื่อเข้าไประบายความร้อน และทดแทนเกลือแร่ที่เสียไปพร้อมกับเหงื่อ แต่มีส่วนหนึ่งที่เรามีปัญหาคือ หอบ หายใจแรงขึ้น รูจมูกแค่ 2 รู บางทีไม่พอให้หายใจ อาจจะต้องอ้าปากช่วยในการสูดอ๊อกซิเจน และคายคาร์บอนฯออกมา กำลังในร่างกาย จะถดถอย นี่เป็นเรื่องปกติของการออกกำลังกายหนักๆ แต่ถ้าเราไม่หอบล่ะ ถ้าเรายังหายใจอย่างสบาย ร่ายกายต้องการอ๊อกซิเจนแค่ไหน เราก็ส่งเข้าไปได้หมด และคายคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ได้ทัน คุณคิดว่า เราจะมีแรงเท่าเดิมเหมือนกับตอนที่สตาร์ทมั้ยครับและ ยิ่งถ้าเราควบคุมการระบายความร้อน และมีสิ่งทดแทนที่เสียไประหว่างออกแรงตลอดเวลา คุณคิดว่า เราจะมีกำลังสม่ำเสมอมั้ยครับ (กรณีที่เป็นนักกีฬานะครับ) เรามามองในแง่ตรงกันข้าม ถ้าสมมุตว่า เราเป็นหวัด คัดจมูก หายใจไม่ค่อยออก แล้วมีความจำเป็นที่จะต้องลงแข่งวิ่งมาราทอน ถึงแม้ว่า ร่างกายจะกระปรี้กระเปร่า แต่ถ้าคัดจมูกหายใจไม่ค่อยออก คุณคิดว่า จะวิ่งแข่งสู้เขาได้มั้ยครับ จมูกของคนเรา จะมี ขนจมูกและ น้ำเมือก เป็น ตัวกรองเชื้อโรค ในช่องปาก ก็จะมีน้ำลาย และต่อมต่างๆ เป็นตัวดักและทำลายเชื้อโรค ถ้าขาดสิ่งเหล่านี้ ร่างกายก็จะอยู่ไม่ได้นาน ในโพรงจมูก เมื่อขนจมูกดักสิ่งสกปรกเอาไว้มากๆ เป็นธรรมดาอยู่เองที่ พวกเราถึงได้ต้องแคะจมูก เอาขี้มูก ออกมา ให้เราหายใจได้คล่องขึ้น ******************** กรองอากาศ ของรถยนต์ก็เช่นกันครับ กรองอากาศที่ดี จะกรองสิ่งสกปรกที่เป็นอณูเล็กๆ เอาไว้ และปล่อยให้อากาศผ่านเข้าไปในเครื่องยนต์ได้ง่าย และได้ปริมาณมากพอที่จะสันดาบ แต่ว่า การที่กรองอากาศดีเกินไป ก็จะทำให้ ตันง่าย อากาศไหลผ่านเข้าเครื่องยนต์ได้ยากขึ้น การสันดาบก็จะไม่สมบูรณ์ กำลังเครื่องก็จะถดถอยลงครับ นี่คือสาเหตุที่ทำไม เราจึงต้องเปลี่ยนกรองอากาศ (กระดาษ) ทุกๆระยะที่ครบเวลา หรือ ทุกครั้งที่รู้สึกว่าเริ่มตันแล้ว แต่กรณีที่ กรองอากาศที่โล่ง ปล่อยอากาศเข้าไปได้ง่าย แน่นอนว่า การดักอณูสิ่งแปลกปลอม ก็ต้องด้อยประสิทธิภาพลง แต่เมื่ออากาศเข้าห้องเผาไหม้ที่มาก เครื่องยนต์ด็จะมีกำลังเครื่องที่สม่ำเสมอ แต่ว่า เครื่องยนต์อาจจะสึกหรอได้ง่าย เพราะว่า อณูสิ่งสกปรกนี้ เหมือนกระดาษทรายละเอียดขัดถูกันกับชิ้นส่วนเครื่องย นต์ (ในกรณีเช่นนี้ ใน Report ด้านบนไม่มีกล่าวถึงเลย) สำหรับผมแล้ว ถ้าจะใช้กรองเปลือย ถ้าอ่านตาม Report แล้ว ผมจะเลือก ชนิดที่มีคุณภาพกลางๆ เพื่อให้ได้อากาศที่พอเหมาะ และเครื่องยนต์ถูกทำลายน้อยที่สุด และอาศัยล้างกรองอากาศบ่อยๆ เพื่อให้เครื่องยนต์ได้กำลังม้าที่สม่ำเสมอครับ
__________________
JZM - 5
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moonlight : 30-11-2009 เมื่อ 09:49. |
|
The Following 25 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post: | A(RT131) (01-12-2009), amnat8 (01-12-2009), ancivic (01-03-2010), aom8817 (30-11-2009), Bank_td07 (30-11-2009), Bushido (04-08-2010), Buta_JZ (30-11-2009), chinjung (01-12-2009), cpservice (01-12-2009), dezxde (30-11-2009), Godzela (30-11-2009), gotlaw (01-12-2009), idea_nova (02-12-2012), jing (01-12-2009), JZ_P_MAYIM (01-12-2009), Kangk (04-02-2010), katop (30-11-2009), leo20088 (30-11-2009), ludwig_awsb (20-06-2010), Mightytode (30-11-2009), ms111 (11-12-2009), oat (30-11-2009), Ome-Jz (30-11-2009), rider boy (30-11-2009), samulaiqoo (28-05-2011) |
30-11-2009, 14:13 | #4 |
ClubJZ Old Full Member
วันที่สมัคร: Oct 2009
Car Brand: Toyota
Engine Type: 1JZ
ที่อยู่: Soi 20 Predeepanomyong Sukumvit 71 Rd. Kwang North Prakanong Kate Vattana Bkk 10110
กระทู้: 30
Thanks: 21
Thanked 143 Times in 16 Posts
คะแนน: 0
|
ขอบคุณมากคับ น้ามูน ตอบได้เข้าใจง่ายทีเดียว
ที่ผมเข้าใจก็คือ รถเราสามารถนำอากาศเข้ามาได้มากขึ้นแล้วก็ทำให้การจุ ดระเบิดดีขึ้น เมื่อจุดระเบิดดีขึ้นหรือแรงขึ้น นี่ก็ทำให้ มีแรงม้ามากขึ้น ใช่อย่างที่ผมเข้าใจรึเปล่า คับ อ้อแล้วอีกอย่าง อยากรู้ว่าพอเปลี่ยนมาเป็นกรองพวกนี้แล้วอะคับ ทำให้เรารู้สึกได้รึเปล่าคับ ว่ารถเราแรงขึ้น? แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moonlight : 09-12-2009 เมื่อ 10:38. |
The Following User Says Thank You to Buta_JZ For This Useful Post: | JZ_P_MAYIM (01-12-2009) |
30-11-2009, 22:26 | #5 | |||
Super Moderator
|
อ้างถึง:
ต้องแบ่งความเข้าใจ ให้ถูกต้องก่อนครับ ว่า เครื่องยนต์ที่เราใช้งานอยู่นั้น จะมีสเปคแรงม้า แรงบิด ที่ถูกกำหนดมาจากโรงงาน ซึ่ง สเปคที่กำหนดนั้น เป็น สเปคสูงสุดที่ผู้ผลิตทำได้ (กรณีไม่มีการเปลี่ยนขนาดกระบอกสูบ หรือ ไม่ได้เปลี่ยนขนาดหัวฉีด) ดังนั้น กาที่คุณบอกว่า อ้างถึง:
มันจึงเป็นไปไม่ได้ ครับ เพราะว่า ต่อให้ กรองอากาศดีที่สุดแค่ไหน คุณก็จะได้ แรงม้า แรงบิด สูงสุดก็เพียงแค่ตามสเปคโรงงานเท่านั้นครับ แต่เนื่องจากว่า กรองอากาศที่ดีที่สุดนั้น เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ คุณภาพก็จะต้องด้อยลงไปเรื่อยๆตามอายุการใช้งาน จึงทำให้ แรงม้าค่อยๆหดหายไปที่ละครึ่งตัวบ้าง ตัวหนึ่งบ้าง สองตัวบ้าง ครับผม แต่ถ้า กรองอากาศตันจริงๆ ม้าอาจจะหายไป 20 - 30 ตัวเลยก็ได้ครับ ดังนั้น ถ้าถามว่า ถ้าเปรียบเทียบระหว่าง กรองอากาศที่ถูกใช้งานจนตันแล้ว กับ กรองอากาศที่ใหม่เอี่ยม มีคุณภาพที่ปล่อยอากาศให้เข้าไปสันดาบได้เต็มที่นั้น อ้างถึง:
ที่ผมกล่าวด้านบนนั้น เป็นพื้นฐานของรถทั่วๆไปนะครับ แต่ก็สามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานของเครื่องยนต์เทอร์ โบได้เช่นกันครับ แต่ว่า เครื่องยนต์เทอร์โบมีปัจจัยร่วมอื่นๆด้วย ก็คือ เทอร์โบ ซึ่งแรงม้าอาจจะแปรผันไปตามขนาดของเทอร์โบได้ครับผม
__________________
JZM - 5
|
|||
The Following 11 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post: |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|