ClubJZ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ใช้งานเครื่องยนต์ JZ ทุกรุ่น เพื่อที่จะใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เราหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล และผู้ที่มีปัญหาในการ ใช้งาน เครื่อง JZ ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกๆคนจะได้จาก ClubJZ นี้นั่นคือ มิตรภาพที่เรามีให้กับทุกๆท่านครับ.

Loading
Search In ClubJZ.net


กลับไป   ClubJZ Forums > ClubJZ ! Main Forums > ClubJZ! Useful Information
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน ค้นหา กระทู้ใหม่วันนี้ ทำสัญลักษณ์ว่าอ่านแล้ว
ประชาสัมพันธ์ ClubJZ!

1. Login สีส้ม และสีฟ้าไม่อนุญาติให้มีลายเซ็นตั้งแต่วันที่ 07/09/09 เป็นต้นไป

2. ขอเชิญ ผู้ใช้งาน ที่ Login เป็นสีส้ม มาแนะนำตัว ( ชื่อ,รถ,เครื่องยนต์ และเบอร์ติดต่อ) เพื่อเปลี่ยนมาเป็น ClubJZ Member ที่นี่ ครับ

3. User ที่สมัครใหม่ รอ Activate ผ่าน Email ทีกรอกมาด้วยนะครับ User นั้นถึงจะใช้งานได้ ครับ



ClubJZ! Useful Information คลังเก็บกระทู้ข้อมูล ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเครื่องยนต์ JZ! ครับ

ตอบกลับ
 
คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
เก่า 29-11-2009, 00:24   #1
Buta_JZ
ClubJZ Old Full Member
 
รูปส่วนตัว Buta_JZ
 
วันที่สมัคร: Oct 2009
Car Brand: Toyota
Engine Type: 1JZ
ที่อยู่: Soi 20 Predeepanomyong Sukumvit 71 Rd. Kwang North Prakanong Kate Vattana Bkk 10110
กระทู้: 30
Thanks: 21
Thanked 143 Times in 16 Posts
คะแนน: 0 Buta_JZ is on a distinguished road
Talking การทดสอบที่กรองอากาศคับ

สำหรับผู้ที่กำลังจะซื้อ หรือว่าผู้ที่กำลังอยากจะเปลี่ยนนะคับ เอาไว้เป้นหนึ่งตัวเลือกในการตัดสินใจ

เข้าไปอ่านได้ในลิ้งค์นี้เลยคับ http://mkiv.com/techarticles/filters_test/2/




ขอขอบคุณ คุณ Jing นะคับที่หาความรู้มาเสริมให้คับ

อ้างถึง:
กรองเปลือยเป็นอุปกรณ์แต่งเครื่องยนต์ชิ้นแรก ที่นักแต่งรถนิยมหาซื้อมาใส่กัน แบบที่ว่าเปิดห้องเครื่องขึ้นมาต้องเห็นเกือบทุกคัน บางคนเปลี่ยนเพื่อหวังให้รถแรงขึ้น สวยงามขึ้น ไม่ต้องเปลี่ยนกรองอากาศบ่อยๆ ประหยัดน้ำมันขึ้น หรือบางคนเปลี่ยนตามๆเขาไป แต่จริงๆ แล้วเจ้าอุปกรณ์ตัวนี้เป็นที่ถกเถียงกันมานมนาน ว่าใส่แล้วแรงขึ้น หรือแรงตกกันแน่ ขอตอบได้อย่างเดียวว่าทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้ถ้ามี ... ก็อะไรล่ะครับ ก็ตั้งแต่การเลือกซื้อ ความต้องการของเครื่องยนต์ การติดตั้ง การดูแลรักษา ถ้าถูกวิธีแล้วไม่เห็นต้องกลัวเลยครับว่าจะแรงตก พังเร็ว หรือกินน้ำมัน ก่อนที่จะรู้จักกรองเปลือยเรามารู้จักหน้าที่ของกรอง อากาศกันก่อนดีกว่า

กรองอากาศ Air filters
กรองอากาศหรือ Air filters เป็นส่วนสำคัญในระบบประจุอากาศให้กับเครื่องยนต์ มีหน้าที่กรองเอาอนุภาคต่างๆที่ปะปนมากับอากาศ เช่นพวกฝุ่น หิน ดิน ทราย ฯลฯ ตั้งแต่ขนาดใหญ่จนถึงขนาดเล็ก ให้ติดอยู่ปล่อยเพียงอากาศริสุทธิเข้าเครื่องยนต์เท่ านั้น เพื่อป้องกันเศษฝุ่นละอองต่างๆ เข้าไปทำลายชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ เพราะเศษฝุ่นแข็งๆ สามารถเข้าไปทำลายได้ตั้งแต่ ใบพัดหน้าเทอร์โบ ระบบรีดอากาศในซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ ลิ้นปีผีเสื้อ เซนเซอร์ควบคุมอากาศ จับตัวกับน้ำมันเกาะรอบคอไอดี และพอร์ตไอดีทำให้ไอดีไหลช้าลง จับตัวกับหัวฉีด วาล์วและบ่าวาล์ว แหวนสูบ และกระบอกสูบ จับหัวเทียน ฝุ่นละอองที่สามารถเล็ดลอดลงห้องเผาไหม้ไปได้จะปะปนก ับน้ำมันเครื่อง ไปทำลายชิ้นส่วนทุกชิ้นที่น้ำมันเครื่องเข้าไปหล่อลื ่น ปะปนมากับท่อไอเสียจับตัวทำลายใบพัดหลังเทอร์โบ แคตตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ และหม้อพักไอเสียให้ตันก่อนกำหนด โดยดักจับฝุ่นละอองให้ติดอยู่ตามเส้นใยไส้กรอง

ชนิดของกรองอากาศ มี 2 ชนิดคือ
1. แบบเปียก เป็นแบบโบราณที่เคยนิยมใช้กัน แต่สมัยก่อนนิยมมาก กรองอากาศมักจะทำด้วยตาข่ายแตนเลส เป็นรูพรุน ติดตั้งอยู่ในหม้อกรองอากาศแบบปิดภายในจะมีน้ำมันหล่ ออยู่รอบๆไส้กรอง น้ำมันมีหน้าที่ดักจับฝุ่นระอองให้ตกลงไป ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไส้กรอง แต่เปลี่ยนน้ำมันและล้างบ่อยๆ แบบนี้มีประสิทธิภาพมากแต่ได้รับความนิยมน้อยลงคงด้ว ยเหตุผลการตลาด จะเห็นตามรถยนต์รุ่นเก่าๆใครอยากเห็นคงต้องขอดูกับผู ้ที่รักรถมินิคงต้องรู้จักกันดี
2. แบบแห้ง เป็นแบบที่เราเห็นทั่วไป ไส้กรองนิยมทำจาก กระดาษหลายแผ่นซ้อนกัน ใยสังเคราะห์ชนิดต่างๆ บรรจุอยู่ให้หม้อกรองอากาศแบบปิดที่ได้รับการออกแบบม าหลายแบบ ทำหน้าที่ลดเสียงดังของเครื่องยนต์ มีท่อต่อไปรับอากาศนอกห้องเครื่อง สามารถเปิดมาทำความสะอาด และเปลี่ยนไส้กรองได้ง่าย แบบนี้เป็นที่รถโรงงานใช้กันอยู่

ทฤษฏี
การกรองอากาศ สามารถใช้เครื่องมือในการตรวจคุณภาพ จำพวก Manometer ใช้ทดสอบค่าต่างๆดังต่อไปนี้
1. ประสิทธิภาพ (Efficiency) ในการกำจัดฝุ่นละอองที่จะผ่านเข้าไปในห้องเผาไหม้ ว่าสามารถกรองอากาศได้ขนาดเท่าไหร่ ตั้งแต่ 0.5 – 1 ไมคอน ยิ่งสามารถกรองอากาศได้เล็กมากยิ่งดีกว่า
2. ความสามารถในการเก็บฝุ่น (Dust Holding Capacity) ว่าสามารถดักเก็บฝุ่นละอองได้มากเท่าไหร่ แบบที่เก็บฝุ่นได้มากจะทำให้ไส้กรองตันช้าลง
3. ความเสียดทานของกระแสลม (Air Flow Resistance) คือค่าความดันตก (Static Pressure Drop) ที่อากาศไหลผ่านว่าไหลได้เร็วแค่ไหน อากาศไหลเร็วกว่าย่อมทำให้เครื่องทำงานดีขึ้น ไหลช้ากว่าเครื่องจะแรงตกลง

กรองเปลือย Hi-Performance Air Filters
ที่ต้องเรียกว่า Hi-Performane Air Filters ก็เพราะว่าไม่รู้ว่าจะทับศัพท์ยังไง อย่างเราๆก็ติดเรียกกันว่ากรองเปลือย ก็ใช่สิครับบ้านเราเห็นอะไรวับๆแวมๆเข้าหน่อยก็เรียก โป๊วเรียกเปลือยกันทั้งนั้น ก็กรองอากาศแบบนี้ส่วนมากแล้วมักจะติดตั้งอยู่ภายนอก หม้อกรองอากาศ ชนิดเปิดห้องเครื่องขึ้นมาก็เห็นตัวกันปั๊ป หรือบางรุ่นก็ทำมาติดตั้งแทนกรองอากาศเดิมได้เลย กรองเปลือยนั้นก็เป็นกรองอากาศแบบแห้งชนิดหนึ่ง พวกนี้จะได้รับการออกแบบ และใช้วัสดุที่ดีกว่าเช่น Cotton , ฟองน้ำ , สแตนเลส มาทำเสียเป็นส่วนใหญ่เพื่อจุดประสงค์คือ ยอมให้อากาศไหลผ่านได้มากกว่า รวดเร็วกว่า ดักจับฝุ่นระอองได้มากกว่า ใช้งานได้นานขึ้น ทำให้ต้นทุนสูงกว่ากรองกระดาษหรือพวกใยสังเคราะห์อยู ่มาก

การเลือกซื้อกรองเปลือย
กรองเปลือยส่วนมากจะมีการออกแบบและใช้วัสดุการผลิต ขนาด และการติดตั้งที่ไม่เหมือนกัน ดั้งนั้นเราต้องทราบความต้องการในการใช้งานของเราก่อ นเลือกซื้อคือ
1. วัสดุ กรองเปลือยใช้วัสดุหลายชนิด แบบที่ใช้ฟองน้ำ , ผ้า cotton หรือ สแตนเลส แต่ละยี่ห้อจะมีคุณภาพแตกต่างกันแม้จะใช้วัสดุแบบเดี ยวกัน ต้องเลือกที่ ความสามารถในการกรองฝุ่นละออง ความสามารถในการเก็บฝุ่น และความเสียดทานอากาศ
2. ขนาด ในเครื่องที่มีขนาดเล็กหรือ ซีซีต่ำไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดใหญ่มากเท่าไหร่ แต่ในเครื่องที่มีขนาดใหญ่หรือได้รับการโมดิฟลายแล้ว ต้องเลือกแบบที่มีขนาดใหญ่ เพราะอาจทำให้เครื่องดูดอากาศเข้าไม่ทันได้
3. การติดตั้ง ในรถทีมีเนื้อที่ติดตั้งแบบจำกัด อาจต้องใช้แบบที่สามารถเปลี่ยนใส่แทนของเดิมได้เลยจะ ได้ประสิทธิภาพดีกว่า ส่วนที่มีเนื้อที่ขนาดใหญ่จะสามารถใช้กรองขนาดที่ใหญ ่ได้และพอที่จะทำห้องกั้นอากาศ

การติดตั้งกรองเปลือย
เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการที่จะเปลี่ยนมาใช้กรองอาก าศแบบเปลือย เพราะต้องคำนึงถึงเนื้อที่จะติดตั้งว่ามีขนาดมากน้อย เพียงใด ส่วนใหญ่ในรถแบบ NA ไม่มีเทอร์โบควรใช้แบบที่สามารถเปลี่ยนแทนของเดิมได้ เลย เพราะสะดวกกว่า ลดปัญหาการทำ airbox หรือห้องกั้นอากาศ ในเครื่องยนต์เทอร์โบที่ได้รับการโมดิฟลายนิยม ใส่กรองเปลือยลูกใหญ่ เพราะเครื่องต้องการอากาศที่มากขึ้น อาจต้องมีการย้ายแบตเตอร์รี่เพิ่มพื้นที่ ทำห้องกั้น และต่อท่ออากาศที่รับลมดูดจากภายนอกมายังห้องกั้นจะไ ด้ผลดีที่สุด
ปํญหาต่างๆหลังการติดตั้ง และเปลี่ยนไปใช้กรองเปลือย

1. เครื่องแรงตกในรอบต้น ส่วนมากมักเกิดจาก การไหลของอากาศที่ดีและเร็วเกินไป มีผลทำให้ ส่วนผสมของน้ำมันบาง อากาศเข้ามากน้ำมันเข้าน้อย (ส่วนมากรถโรงงานจะปรับน้ำมันมาให้เหมาะกับกรองอากาศ เดิม) อากาศที่ไหลเข้าได้เร็วกว่าในรอบต่ำส่งผลให้เครื่องย นต์สูญเสียกำลัง (เครื่องยนต์จะมีแรงบิดดีในรอบต่ำต้องอาศัยการรีดไอด ีให้ผ่านได้ช้ากว่า ขนาดของท่อไอดี และความยาวของที่ไอดี)
2. แรงตกในรอบปลายกินน้ำมัน ส่วนมากเกิดจากการติดตั้ง เช่นติดตั้งในจุดที่รับอากาศร้อน ไม่มีกล่องดักอากาศ Airbox ไม่มีช่องต่ออากาศเย็นมาให้กับกล่องดักอากาศ (อากาศที่เย็นกว่าย่อมมีความหนาแน่นมากว่า การเผาไหม้ดีกว่า) การใช้กรองอากาศลูกเล็กเกินไป เครื่องจะดูดอากาศเข้าไม่ทัน ส่วนผสมน้ำมันจะหนาทันที เมื่อได้รับการเปลี่ยนกรองต้องได้รับการจูนส่วนผสมน้ ำมันให้เหมาะสมขึ้นด้วย
3. เครื่องยนต์กำลังตกลงเรื่อยๆ มักเกิดจากใส้กรองเริ่มอุดตัน ต้องถอดมาทำความสะอาด หรือเปลี่ยนใหม่ ใส้กรองที่ขาด หมดอายุจะทำให้ฝุ่นละอองที่เล็ดรอดเข้าไป จับตัวกับคราบน้ำมันหนาตัวขึ้น ขัดขวางการไหลของอากาศเช่น จับตัวหน้าปากเทอร์โบ ใบเทอร์โบ ท่ออินเตอร์ ติดสะสมในอินเตอร์คูลเลอร์ ท่อไอดี พอร์ตไอดี พอร์ตไอเสีย โข่งเทอร์โบ แคต หม้อพักไอเสีย ถ้าเป็นอย่างนี้มีหวังต้องถอดทั้งชุดมาล้างกันยกยวง แต่ทางที่ดีแนะนำให้เช็คไส้กรอง และทำความสะอาดบ่อยๆจะดีกว่า
4. กรองฉีกขาด เกิดจากการผลิตของกรองอากาศ การถอดมาทำความสะอาดที่รุนแรงไม่ถูกวิธี การติดตั้งไปเสียดสีกับอุปกรณ์อื่นๆ และกรองอุดตันมากจนแรงดูดอากาศทำให้กรองฉีกขาดได้ ต้องรีบเปลี่ยนใหม่ทันที

การดูและรักษา
กรองแบบกระดาษหรือใยสังเคราะห์แบบโรงงาน ต้องได้รับการเป่าทำความสะอาดทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่าย น้ำมันเครื่อง หรือถ้าใช้งานหนัก เส้นทางการใช้งานทุรกันดารฝุ่นละอองมาก ต้องตรวจเช็คและเปลี่ยนเร็วกว่ากำหนด ประมาณ 10,000 – 20,000 กิโลเมตร
กรองแบบฟองน้ำ เมื่อตันหรือสีเริ่มเปลี่ยน สามารถล้างด้วยน้ำยาล้างจาน ผึ่งให้แห้ง หรือหาน้ำมันเคลือบดักจับฝุ่นพ่นเคลือบอีกชั้นหนึ่ง แบบนี้ถ้าเริ่มสังเกตว่าฟองน้ำเริ่มขาด บีบดูแล้วไม่ค่อยคืนตัว หดตัวเสียรูปให้รีบเปลี่ยนทันที ถ้าเป็นของ HKS จะแนะนำให้เปลี่ยนทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
กรองแบบผ้า Cotton เมื่อเห็นว่ามีฝุ่นผงติดอยู่มาก ต้องทำการล้างด้วยน้ำให้ชุ่ม ฉีดสเปรย์ล้างให้ทั่ว ล้างน้ำจนสะอาด ผึ่งแดดให้แห้ง แล้วจึงใช้น้ำยาเคลือบจับฝุ่นพ่นให้รอบไส้กรอง แบบนี้สามารถล้างได้หลายครั้ง อายุการใช้งานยาวนานนับแสนโลกันเลย
กรองแบบ สแตนเลส แบบนี้จะตันไวกว่าแบบอื่นมาก แต่การทำความสะอาดง่าย ไม่ต้องถนุถนอมมาก ล้างด้วยน้ำยาล้างจาน ตากให้แห้ง แล้วใช้สเปย์ดักจับฝุ่นพ่นเคลือบทั้งตัว แบบนี้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก

ตัวอย่างในยี่ห้อในการเลือกซื้อ
การทดสอบนี้ผมได้หยิบยืมมาจากประเทศญี่ปุ่น ในการทดสอบค่าการกรองอากาศ และการทดสอบด้วยการวัดแรงม้า รถที่ใช้ทดสอบเป็น Toyota Supra JZA80 เครื่องยนต์ 2JZGTE วัดแรงม้าขณะใช้กรองอากาศเดิมได้ 304 แรงม้า

SARD เป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่นิยมกัน วัสดุใช้ผ้าก๊อส cotton ปั้มขึ้นรูปเป็นลอน ด้านนอกเป็นโครงเหล็กมีความแข็งแรงมาก ความสามารถในการกรองถือว่าสูงกว่าของเดิมโรงงาน อากาศไหลได้เร็วขึ้น แบบนี้การทำความสะอาดข้างยากว่า เพราะติดตะแกรงด้านนอก
จากการทดสอบจะเห็นว่า ให้แรงม้าเพิ่มขึ้น 11 แรงม้า ปริมาณฝุ่นละอองที่เล็ดลอดถือว่าทำได้ดีปานกลาง

K&N ต้องถือว่ายี่ห้อนี้เป็นที่คุ้นหูและมีชื่อที่สุดในเ รื่องกรองเปลือยจริงๆ วัสดุใช้ผ้าก๊อส cotton ปั้มขึ้นรูปแบบเดียวกับของ Sard แต่เรื่องวัสดุถือว่าเชื่อถือได้ในเรื่องการโฟว์อากา ศได้ดี ดักจับฝุ่นได้มาก และปริมาณฝุ่นที่รับได้สูง
จากการทดสอบจะเห็นว่า ให้แรงม้าเพิ่มขึ้น 13 แรงม้า ฝุ่นละอองที่เล็ดรอดอยู่ในระดับที่ดีปานกลาง

HKS Super power flow วัสดุทำจากฟองน้ำ 3 ชั้น กลมๆวางอยู่บนโครงแบบปากแตรขนาดใหญ่ มีตะแกรงเหล็กรูปรังผึ้งครอบอยู่ด้านนอก แบบนี้ยอมรับว่าอากาศไหลได้เร็วมาก
จากการทดสอบจะเห็นว่า แรงม้าเพิ่มขึ้น 13 แรงม้า ปริมาณฝุ่นที่เล็ดรอดอยู่ในระดับที่มากที่สุด

BLITZ สำหรับยี่ห้อนี้มีลักษณะแตกต่างกว่าใครโดยใช้ ตะแกรงสแตนเลสแบบละเอียด ปั้มเป็นลอนขึ้นรูป แบบนี้มีความทนทานสูงและอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก แต่เรื่องปริมาณการรับฝุ่นน้อย ต้องหมั่นล้างบ่อยๆ จากการทดสอบจะเห็นว่า ให้แรงม้าเพิ่มขึ้น 13.9 แรงม้า ความสามารถในการกรองถือว่าไม่ดีเท่าไหร่ แต่ยังดีกว่า ของ HKS

APEX เป็นสำนักหนึ่งที่ได้ผลิตกรองเปลือยมานาน ด้วยการออกแบบที่ทันสมัย ให้เสียงในการดูดอากาศที่ไม่เหมือนใคร วัสดุใช้เป็นผ้าก๊อส cotton ขึ้นรูปมีตะแกรงสแตนเลสขนาดเล็กๆขึ้นรูปเป็นลอนหุ้มผ ้ากรอง
จากการทดสอบจะเห็นว่า แรงม้าเพิ่มขึ้น 14 แรงม้า ความสามารถในการกรองฝุ่นถือว่าทำได้ดีที่สุด
.
.
.
อ้างอิง http://jiraw.multiply.com/journal/item/22/22

อาจจะพอสนับสนุนบทความด้านบนได้บ้าง ไม่มากก็น้อยครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Buta_JZ : 02-12-2009 เมื่อ 01:23.
Buta_JZ is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 51 Users Say Thank You to Buta_JZ For This Useful Post:
2jbamboo (01-12-2009), 4d4wd (29-11-2009), A(RT131) (01-12-2009), amnat8 (01-12-2009), ancivic (01-03-2010), aom8817 (30-11-2009), Bank_td07 (29-11-2009), Bee-Boy (29-11-2009), bokyod (01-12-2009), boylpn (30-11-2009), cpservice (01-12-2009), dvm (29-11-2009), eightnine (08-03-2011), Godzela (29-11-2009), gotlaw (01-12-2009), IamArt (13-03-2010), idea_nova (02-12-2012), jing (29-11-2009), joe-civil@jz (25-08-2010), Kangk (04-02-2010), kkk (30-11-2009), kunsue (29-11-2009), l.lerson (30-11-2009), leo20088 (30-11-2009), ludwig_awsb (20-06-2010), M16_Vn (30-11-2009), mart (16-12-2009), Mightytode (30-11-2009), mos240d (05-03-2010), ms111 (11-12-2009), mungkorn2 (30-11-2009), nanid (13-04-2011), nona31 (29-11-2009), nonkubpom (29-11-2009), oat (29-11-2009), ord6859 (29-11-2009), pae604 (29-11-2009), parkpoom_p (30-11-2009), pzentrady (30-11-2009), Ragtop (30-11-2009), rider boy (29-11-2009), samasun_007 (30-11-2009), samulaiqoo (28-05-2011), sintorn (30-11-2009), soludeath (30-11-2009), Suttiphonphong (29-11-2009), tantan (02-12-2009), tidku61 (30-11-2009), trezetae (29-11-2009), wk7000 (29-11-2009), zain_72 (29-11-2009)
เก่า 30-11-2009, 01:39   #2
Buta_JZ
ClubJZ Old Full Member
 
รูปส่วนตัว Buta_JZ
 
วันที่สมัคร: Oct 2009
Car Brand: Toyota
Engine Type: 1JZ
ที่อยู่: Soi 20 Predeepanomyong Sukumvit 71 Rd. Kwang North Prakanong Kate Vattana Bkk 10110
กระทู้: 30
Thanks: 21
Thanked 143 Times in 16 Posts
คะแนน: 0 Buta_JZ is on a distinguished road
อยากถามพี่ๆ ว่าแบบวัสดุต่างกันอย่างนี้ก็หมายความว่า product แต่ละชิ้นนี้ทำให้รถเราหายใจได้ไม่เท่ากันใช่มั้ยคับ อิอิ
แล้วก็มันช่วยเพิ่มแรงม้าจิงๆ เหรอ???? อันนี้สงสัยที่สู๊ดดดด
Buta_JZ is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
เก่า 30-11-2009, 09:04   #3
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 20 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Buta_JZ อ่านกระทู้
อยากถามพี่ๆ ว่าแบบวัสดุต่างกันอย่างนี้ก็หมายความว่า product แต่ละชิ้นนี้ทำให้รถเราหายใจได้ไม่เท่ากันใช่มั้ยคับ อิอิ
แล้วก็มันช่วยเพิ่มแรงม้าจิงๆ เหรอ???? อันนี้สงสัยที่สู๊ดดดด
ผมขอยกตัวอย่างเปรียบเทียบ จะได้เข้าใจนะครับ

ถ้าสมมุตเราเป็นนักกีฬาวิ่งมาราทอน ตอนที่เราวิ่งสตาร์ทเริ่มต้นนั้น กำลังวังชากระปรี้กระเปร่า หายใจปกติ ได้สะดวก แต่พอเราวิ่งไปได้ 5 กม. ... 10 กม. เหงื่อเราเริ่มออกเยอะ ก็ต้องมีน้ำหรือเกลือแร่ผสมน้ำ เพื่อเข้าไประบายความร้อน และทดแทนเกลือแร่ที่เสียไปพร้อมกับเหงื่อ แต่มีส่วนหนึ่งที่เรามีปัญหาคือ หอบ หายใจแรงขึ้น รูจมูกแค่ 2 รู บางทีไม่พอให้หายใจ อาจจะต้องอ้าปากช่วยในการสูดอ๊อกซิเจน และคายคาร์บอนฯออกมา กำลังในร่างกาย จะถดถอย นี่เป็นเรื่องปกติของการออกกำลังกายหนักๆ

แต่ถ้าเราไม่หอบล่ะ ถ้าเรายังหายใจอย่างสบาย ร่ายกายต้องการอ๊อกซิเจนแค่ไหน เราก็ส่งเข้าไปได้หมด และคายคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ ได้ทัน คุณคิดว่า เราจะมีแรงเท่าเดิมเหมือนกับตอนที่สตาร์ทมั้ยครับและ ยิ่งถ้าเราควบคุมการระบายความร้อน และมีสิ่งทดแทนที่เสียไประหว่างออกแรงตลอดเวลา คุณคิดว่า เราจะมีกำลังสม่ำเสมอมั้ยครับ (กรณีที่เป็นนักกีฬานะครับ)

เรามามองในแง่ตรงกันข้าม ถ้าสมมุตว่า เราเป็นหวัด คัดจมูก หายใจไม่ค่อยออก แล้วมีความจำเป็นที่จะต้องลงแข่งวิ่งมาราทอน ถึงแม้ว่า ร่างกายจะกระปรี้กระเปร่า แต่ถ้าคัดจมูกหายใจไม่ค่อยออก คุณคิดว่า จะวิ่งแข่งสู้เขาได้มั้ยครับ

จมูกของคนเรา จะมี ขนจมูกและ น้ำเมือก เป็น ตัวกรองเชื้อโรค ในช่องปาก ก็จะมีน้ำลาย และต่อมต่างๆ เป็นตัวดักและทำลายเชื้อโรค ถ้าขาดสิ่งเหล่านี้ ร่างกายก็จะอยู่ไม่ได้นาน ในโพรงจมูก เมื่อขนจมูกดักสิ่งสกปรกเอาไว้มากๆ เป็นธรรมดาอยู่เองที่ พวกเราถึงได้ต้องแคะจมูก เอาขี้มูก ออกมา ให้เราหายใจได้คล่องขึ้น

********************

กรองอากาศ ของรถยนต์ก็เช่นกันครับ กรองอากาศที่ดี จะกรองสิ่งสกปรกที่เป็นอณูเล็กๆ เอาไว้ และปล่อยให้อากาศผ่านเข้าไปในเครื่องยนต์ได้ง่าย และได้ปริมาณมากพอที่จะสันดาบ แต่ว่า การที่กรองอากาศดีเกินไป ก็จะทำให้ ตันง่าย อากาศไหลผ่านเข้าเครื่องยนต์ได้ยากขึ้น การสันดาบก็จะไม่สมบูรณ์ กำลังเครื่องก็จะถดถอยลงครับ

นี่คือสาเหตุที่ทำไม เราจึงต้องเปลี่ยนกรองอากาศ (กระดาษ) ทุกๆระยะที่ครบเวลา หรือ ทุกครั้งที่รู้สึกว่าเริ่มตันแล้ว

แต่กรณีที่ กรองอากาศที่โล่ง ปล่อยอากาศเข้าไปได้ง่าย แน่นอนว่า การดักอณูสิ่งแปลกปลอม ก็ต้องด้อยประสิทธิภาพลง แต่เมื่ออากาศเข้าห้องเผาไหม้ที่มาก เครื่องยนต์ด็จะมีกำลังเครื่องที่สม่ำเสมอ แต่ว่า เครื่องยนต์อาจจะสึกหรอได้ง่าย เพราะว่า อณูสิ่งสกปรกนี้ เหมือนกระดาษทรายละเอียดขัดถูกันกับชิ้นส่วนเครื่องย นต์ (ในกรณีเช่นนี้ ใน Report ด้านบนไม่มีกล่าวถึงเลย)

สำหรับผมแล้ว ถ้าจะใช้กรองเปลือย ถ้าอ่านตาม Report แล้ว ผมจะเลือก ชนิดที่มีคุณภาพกลางๆ เพื่อให้ได้อากาศที่พอเหมาะ และเครื่องยนต์ถูกทำลายน้อยที่สุด และอาศัยล้างกรองอากาศบ่อยๆ เพื่อให้เครื่องยนต์ได้กำลังม้าที่สม่ำเสมอครับ
__________________
JZM - 5

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moonlight : 30-11-2009 เมื่อ 09:49.
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 25 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post:
A(RT131) (01-12-2009), amnat8 (01-12-2009), ancivic (01-03-2010), aom8817 (30-11-2009), Bank_td07 (30-11-2009), Bushido (04-08-2010), Buta_JZ (30-11-2009), chinjung (01-12-2009), cpservice (01-12-2009), dezxde (30-11-2009), Godzela (30-11-2009), gotlaw (01-12-2009), idea_nova (02-12-2012), jing (01-12-2009), JZ_P_MAYIM (01-12-2009), Kangk (04-02-2010), katop (30-11-2009), leo20088 (30-11-2009), ludwig_awsb (20-06-2010), Mightytode (30-11-2009), ms111 (11-12-2009), oat (30-11-2009), Ome-Jz (30-11-2009), rider boy (30-11-2009), samulaiqoo (28-05-2011)
เก่า 30-11-2009, 14:13   #4
Buta_JZ
ClubJZ Old Full Member
 
รูปส่วนตัว Buta_JZ
 
วันที่สมัคร: Oct 2009
Car Brand: Toyota
Engine Type: 1JZ
ที่อยู่: Soi 20 Predeepanomyong Sukumvit 71 Rd. Kwang North Prakanong Kate Vattana Bkk 10110
กระทู้: 30
Thanks: 21
Thanked 143 Times in 16 Posts
คะแนน: 0 Buta_JZ is on a distinguished road
ขอบคุณมากคับ น้ามูน ตอบได้เข้าใจง่ายทีเดียว
ที่ผมเข้าใจก็คือ รถเราสามารถนำอากาศเข้ามาได้มากขึ้นแล้วก็ทำให้การจุ ดระเบิดดีขึ้น
เมื่อจุดระเบิดดีขึ้นหรือแรงขึ้น นี่ก็ทำให้ มีแรงม้ามากขึ้น
ใช่อย่างที่ผมเข้าใจรึเปล่า คับ
อ้อแล้วอีกอย่าง อยากรู้ว่าพอเปลี่ยนมาเป็นกรองพวกนี้แล้วอะคับ ทำให้เรารู้สึกได้รึเปล่าคับ ว่ารถเราแรงขึ้น?

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moonlight : 09-12-2009 เมื่อ 10:38.
Buta_JZ is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following User Says Thank You to Buta_JZ For This Useful Post:
JZ_P_MAYIM (01-12-2009)
เก่า 30-11-2009, 22:26   #5
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 20 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Buta_JZ อ่านกระทู้
ขอบคุณมากคับ น้ามูน ตอบได้เข้าใจง่ายทีเดียว
ที่ผมเข้าใจก็คือ รถเราสามารถนำอากาศเข้ามาได้มากขึ้นแล้วก็ทำให้การจุ ดระเบิดดีขึ้น
เมื่อจุดระเบิดดีขึ้นหรือแรงขึ้น นี่ก็ทำให้ มีแรงม้ามากขึ้น
ใช่อย่างที่ผมเข้าใจรึเปล่า คับ
อ้อแล้วอีกอย่าง อยากรู้ว่าพอเปลี่ยนมาเป็นกรองพวกนี้แล้วอะคับ ทำให้เรารู้สึกได้รึเปล่าคับ ว่ารถเราแรงขึ้น?
จากที่คุณเข้าใจนั้น คล้ายๆว่าจะใช่ แต่ว่า ไม่ใช่ครับ

ต้องแบ่งความเข้าใจ ให้ถูกต้องก่อนครับ ว่า เครื่องยนต์ที่เราใช้งานอยู่นั้น จะมีสเปคแรงม้า แรงบิด ที่ถูกกำหนดมาจากโรงงาน ซึ่ง สเปคที่กำหนดนั้น เป็น สเปคสูงสุดที่ผู้ผลิตทำได้ (กรณีไม่มีการเปลี่ยนขนาดกระบอกสูบ หรือ ไม่ได้เปลี่ยนขนาดหัวฉีด)

ดังนั้น กาที่คุณบอกว่า
อ้างถึง:
รถเราสามารถนำอากาศเข้ามาได้มากขึ้นแล้วก็ทำให้การจุ ดระเบิดดีขึ้น
เมื่อจุดระเบิดดีขึ้นหรือแรงขึ้น นี่ก็ทำให้ มีแรงม้ามากขึ้น

มันจึงเป็นไปไม่ได้ ครับ เพราะว่า ต่อให้ กรองอากาศดีที่สุดแค่ไหน คุณก็จะได้ แรงม้า แรงบิด สูงสุดก็เพียงแค่ตามสเปคโรงงานเท่านั้นครับ แต่เนื่องจากว่า กรองอากาศที่ดีที่สุดนั้น เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ คุณภาพก็จะต้องด้อยลงไปเรื่อยๆตามอายุการใช้งาน จึงทำให้ แรงม้าค่อยๆหดหายไปที่ละครึ่งตัวบ้าง ตัวหนึ่งบ้าง สองตัวบ้าง ครับผม

แต่ถ้า กรองอากาศตันจริงๆ ม้าอาจจะหายไป 20 - 30 ตัวเลยก็ได้ครับ

ดังนั้น ถ้าถามว่า ถ้าเปรียบเทียบระหว่าง กรองอากาศที่ถูกใช้งานจนตันแล้ว กับ กรองอากาศที่ใหม่เอี่ยม มีคุณภาพที่ปล่อยอากาศให้เข้าไปสันดาบได้เต็มที่นั้น
อ้างถึง:
ทำให้เรารู้สึกได้รึเปล่าคับ ว่ารถเราแรงขึ้น?
ต้องตอบว่า รู้สึกได้ทันทีครับผม การสตาร์ทรถ ก็จะติดง่ายขึ้นด้วยครับ

ที่ผมกล่าวด้านบนนั้น เป็นพื้นฐานของรถทั่วๆไปนะครับ แต่ก็สามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานของเครื่องยนต์เทอร์ โบได้เช่นกันครับ แต่ว่า เครื่องยนต์เทอร์โบมีปัจจัยร่วมอื่นๆด้วย ก็คือ เทอร์โบ ซึ่งแรงม้าอาจจะแปรผันไปตามขนาดของเทอร์โบได้ครับผม
__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 11 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post:
amnat8 (01-12-2009), Buta_JZ (01-12-2009), cpservice (01-12-2009), gotlaw (01-12-2009), IamArt (13-03-2010), idea_nova (02-12-2012), JZ_P_MAYIM (01-12-2009), mazda4 (30-11-2009), ms111 (11-12-2009), Ragtop (01-12-2009), wk7000 (30-11-2009)
ตอบกลับ


คำสั่งเพิ่มเติม
เรียบเรียงคำตอบ
แบบตามยาว แบบตามยาว

กฎการส่งข้อความ
คุณไม่สามารถเริ่มหัวข้อใหม่ได้
คุณไม่สามารถตอบกระทู้ได้
คุณไม่สามารถแนบไฟล์ได้
คุณไม่สามารถแก้ไขกระทู้ของคุณเองได้

โค้ด vB ใช้ได้
[IMG] โค้ด ใช้ได้
โค้ด HTML ใช้ได้
กระโดดไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:01


Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels