ถามเรื่อง ฝาหม้อน้ำครับ

[Moonlight]

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Bird-RedZone

ขอบคุณทุกท่านเลยครับ เมื่อวานตอนเย็นข้องใจครับ ไปซื้อฝาหม้อน้ำทนแรงดันประมาณ 1.1 มาใหม่เมื่อช่วงเย็นครับ เนื่องจากของเดิมใส่ไปแล้วมีการคลายล็อคเองเกิดขึ้น ผลปรากฎว่าใส่ของใหม่ไป ได้ลุ้นระทึกกับตัวเลยความร้อน OBD1 ตลอดเวลาเลยครับ ระยะทางในการทดสอบก็คือ จากบ้านที่ถนนนิมิตใหม่ไปJetใหม่โดยวิ่งเส้น รามอินทรา เวลาประมาณ 20.00 OBD1 แสดงอยู่ประมาณ 86-87-88-90 แสดงอยู่แบบนี้พักนึงครับ ขณะที่ขับไปผมก็สังเกตุไป พอมาเจอรถติดช่วง กม.8 กม.7 ความร้อนก็บขึ้นไปที่ 92-90 กว่าจะลงมาที่ 88 เล่นเอาใจหายเลยครับ นานมากกว่าจะลง พอไปถึง Jetใหม่ ผมก็จอดนิ่งพักนึงครับประมาณ 10 นาที และก็เดินทางกลับบ้าน ขากลับเนี้ยหนักกว่าไปอีกครับ เพราะเนื่องจาก ความร้อนเลขมันแช่อยู่ที่ 90-92 แช่แบบนานๆเลยครับ ผมก็ลุ้นตลอดทางเลย พอกลับถึงบ้านผมก็จอด รอดูตอนเช้า ซึ่งเช้านี้ผมได้มาดูแล้วครับ น้ำไม่หาย แต่ทำไมพอใส่ ฝาแรงดันขนาด 1.1 ความร้อนจึงไม่ค่อยลงครับ งงหนักกว่าเดิมอีก ช่วยผมทีกำลัง งง ครับ

ถ้าทุกคนลุ้นความร้อนของน้ำในเครื่องยนต์ที่ตัวเลข 90 - 92 แล้ว ผมเชื่อว่า มีการลงแดงตายคาถนนเกลื่อนเมืองเลยครับ

ช่วงความร้อนที่ดีที่สุดสำหรับเครื่องยนต์ (หมายถึงเครื่องยนต์ทำงานได้ พีค ที่สุด) จะอยู่ที่ช่วง 90 - 95 องศาครับ จึงไม่ใช่เรื่องอะไรที่ต้องกังวลเลยครับ

มาถึงที่มาที่ไปของ ฝาหม้อน้ำ ที่รับแรงดัน 0.9 ต่างจาก 1.0 หรือ 1.1 อย่างไร?

จุดต่างของฝาหม้อน้ำแต่ละตัวนั้นต่างกันที่ ความสามารถของการรับแรงดันน้ำ เมื่อน้ำได้รับความร้อนแล้วขยายตัวครับ ซึ่งมีหน่วยเป็น บาร์ (1 Bar = 14.504 psi (pound per square inch)) ซึ่งการขยายตัวนี้ เป็นการช่วยลดแรงดันลง เมื่อแรงดันน้ำถูกผลักดันออกไป ผสมกับ น้ำที่เย็นกว่าในถังพักน้ำ จึงเกิดส่วนต่างของแรงดัน ระหว่างน้ำในถังพักน้ำกับน้ำในหม้อน้ำ (แรงดันในถังพักน้ำเมื่อได้รับแรงดันสูงเข้ามาผสม) จนกระทั่งเกิดแรงดันที่สูงกว่า ในถังพักน้ำ จึงเกิดการถ่ายเทน้ำที่เย็นกว่าเข้าไปในหม้อน้ำ ทำให้มีส่วนที่น้ำในหม้อน้ำจะถูกลดอุณหภูมิลงกระทันห ัน เป็นตัวช่วยลดการทำงานระบายความร้อนของพัดลมด้วยครับ

นี่แหละครับ ที่มาที่ไปของ อุณหภูมิที่ว่า ทำไมคุณใช้ฝาหม้อน้ำแรงดัน 1.1 บาร์แล้ว จึงได้รับตัวเลขความร้อนขึ้นมาถึง 90 - 92 องศา นั่นเป็นเพราะว่า แรงดันของน้ำยังขึ้นไม่ถึง 1.1 บาร์ ทำให้ไม่มีแรงดันเพียงพอที่จะให้เกิดการถ่ายเทระหว่า งน้ำในหม้อน้ำกับน้ำในถังพักน้ำครับ จึงเป็นหน้าที่ของพัดลมระบายความร้อนโดยตรงให้ทำงานร ะบายความร้อนครับ

ต่อไป คุณก็จะมีคำถามว่า เมื่อเราต้องการช่วยการทำงานของพัดลมระบายความร้อน แล้วแบบนี้ สู้หาฝาหม้อน้ำตัวเลขต่ำๆ มาใช้ไม่ดีกว่าหรือ?

เราต้องอย่าลืมว่า เครื่องยนต์เราจะทำงาน พีค ที่สุด ที่กี่องศา (อ่านย่อหน้าที่ 2) ดังนั้นการที่เอาฝาที่ตัวเลขต่ำกว่านี้ นอกจากไม่มีประโยชน์แล้ว ยังเป็นการทำร้ายเครื่องยนต์ด้วยครับ (ไม่น่าจะมีขายด้วยครับ) เพราะว่าความร้อนที่ต่ำๆ ทำให้ชิ้นส่วนโลหะในเครื่องยนต์ขยายตัวไม่เต็มที่ จึงจะเกิดความฝืดในการทำงานครับ

ในคิดสูตรง่ายๆ (ไม่ใช่ตัวเลขจริง แต่ต้องการเพิ่มความเข้าใจ) ดังนี้ครับ

• 0.9 บาร์ ช่วยน้ำในเครื่องยนต์ได้รับความร้อนสูงสุดที่ 90 องศา
• 1.0 บาร์ ช่วยน้ำในเครื่องยนต์ได้รับความร้อนสูงสุดที่ 100 องศา
• 1.1 บาร์ ช่วยน้ำในเครื่องยนต์ได้รับความร้อนสูงสุดที่ 110 องศา

ซึ่ง ถ้าดูตามตารามข้างบน คุณอาจจะบอกว่า งั้น 1.0 และ 1.1 บาร์ ก็ไม่ดีสิ? จริงๆแล้วไม่ใช่เลยครับ เพราะอะไร? ก็เพราะว่า 1.0 และ 1.1 มันทนรับความร้อนได้สูง จึงต้องเป็นหน้าที่ของพัดลมระบายความร้อนโดยตรงที่ช่ วยระบายความร้อน (ถ้าเป็นพัดลมไฟฟ้า ก็จะมีสวิทช์พัดลมหม้อน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้สเปค 90 องศา) ซึ่งในระดับ 100 องศา และ 110 องศา เครื่องยนต์ก็ยังพอทนไหวครับ (แต่อุปกรณ์อื่นๆจะทนไหวหรือเปล่าไม่ทราบครับ) ถ้าคิดในทางกลับกันแล้ว ถ้าเราใช้ฝาหม้อน้ำ 0.9 บาร์ โดยให้ ถังพักน้ำเป็นที่พึ่งช่วยพัดลมระบายความร้อน และฝาหม้อน้ำนี้ มีจุดอ่อนก็คือ เมื่อปิด/เปิดบ่อย ก็มีโอกาสชำรุดง่ายกว่า ถ้าสมมุตว่า เครื่องยนต์ประเภทที่ใช้งานหนัก เช่นเครื่องยนต์เทอร์โบ ซึ่งได้รับความร้อนสูงบ่อยๆตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ฝาหม้อน้ำยิ่งทำงานหนัก ภายในถังพักน้ำ ถูกใช้งานตลอดเวลา จนกระทั่งแรงดันในถังพักน้ำขึ้นลงถี่จนพอๆกับหม้อน้ำ (น้ำในถังพักน้ำจะถูกระบายออก) จึงทำให้ไม่มีน้ำพอที่จะช่วยระบายความร้อนหม้อน้ำ ตอนนี้ ปัญหาทั้งหมดก็จะตกอยู่กับ พัดลมระบายความร้อนตัวเดียว อีกทั้งฝาหม้อน้ำ ก็จะ ดันระบายน้ำออกตลอดเวลา คราวนี้แหละครับ ความร้อนจะขึ้นสูงเร็วมาก จนกระทั่งเครื่องยนต์ฮีทได้เลยครับ

จริงๆแล้ว ถ้าตามวิชาการแล้ว ผมต้องอธิบายยืดยาวกว่านี้มากๆ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดครับ แต่ว่า ในนี้เป็นเพียงการอธิบายคร่าวๆ เท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเพียงพอต่อการเข้าใจนะครับ ที่เหลือคุณต้องจินตนาการต่อยอดความเข้าใจเองครับ แต่ถ้าสงสัย สามารถถามกลับมาได้ทุกเวลาครับ ถ้าผมพบเจอแล้วผมจะตอบให้ครับผม