ผมมีปัญหาเกี่ยวกับเกียร์ครับ

**krirkkub** · 21-12-2008, 04:02

เรื่องผมมีอยู่ว่า รถใช้มานานแล้วครับ แต่เวลาตอนเช้าเราออกจากบ้านสตาร์ทรถแล้วออกมาอาการเ ป็นปกตินะครับ แต่ว่าถ้าออกมาได้ซักพักเจอลูกระนาดหรือชะลอจนถึงหยุ ด จะมีอาการคือ เมื่อเหยีบบคันเร่ง(ผมอาจจะป็นคนเท้าหนัก) รอบขึ้นครับ แต่รถไม่วิ่ง เหมือนว่ารถจะคิดได้อีกที ก็ออกตัวกระชากซึ่งจริงๆ น่าจะออกแบบนิ่มๆ แต่ถ้าผมทำใจเย็น ๆ คือ ค่อยๆ เหยียบคันเร่ง รถก้อออกได้นะ แต่ต้องทำใจว่ามันจะค่อยๆ วิ่งแบบช้า ช้า อาการอย่างนี้เป็นบ่อยบ้างไม่บ่อยบ้าง ไม่สามารถระบุเวลาได้ครับ ส่วนเกียร์อื่นทำงานปกติครับ ลักษณะอาการคล้ายกับเหมือนว่าเราเหยียบคลัทช์แล้วปล่ อยคลัทช์ยังไม่สุดนะครับ เหมือนมีจังหวะฟรีน่ะครับ ทำให้เหมือนรถไม่มีแรง ประมาณนี้น่ะครับ
ปล. รบกวนด้วยนะครับ(น้ำมันเกียร์เพิ่งเติมน่ะครับ แต่ของเก่านี่เหมือนจะขาด ดำด้วย ผมไม่ได้ล้างนะครับใช้เติมเอาครับ) ขอบคุณครับ

**SPEEDKILLS-940-1J-GTE** · 21-12-2008, 08:21

เกียร์ L นี่พุ่งปกติปะครับ

ถ้าวิ่งปกติ นี่อาการคล้ายๆผมเลย

Moonlight · 21-12-2008, 09:34

อาการคล้ายๆ ปลั๊กหรือสายไฟ จุดๆจุดหนึ่ง หลวมคลอน (เสียบไม่แน่น หรือสายไฟขาดข้างใน) เวลารถกระเทือน ทำให้แรงเคลื่อนของกระแสไฟหลุดหายไปช่วงหนึ่ง แต่พอหยุดกระเทือน แรงเคลื่อนของไฟก็เป็นปกติครับ ลักษณะแบบนี้ ถ้ามีเวลาทำเอง ก็ทำได้ครับ (ต้องใช้เวลาหน่อย เพราะว่าต้องสุ่มเลือกหาปลั๊กไฟครับ) โดยการไล่ขยับปลั๊กเสียบให้แน่น (กรณีที่คิดว่าเป็นที่เกียร์ ก็จะมีแค่ 4 จุดที่ควรจะเป็นครับ คือ

ใต้ท้องรถ ตรงเกียร์ ด้านขวา มีปลั๊ก 10 Pin อยู่ 1 ตัว
ใต้ท้องรถ ตรงเกียร์ด้านซ้าย มีปลั๊ก อยู่ 2 ถึง 4 ปลั๊ก
คอนโซลกลางตรงคันเกียร์ มีปลั๊ก อยู่ 2 ถึง 3 ปลั๊ก
ตรง ECU เอง จะมีปลั๊กอยู่ 2 ถึง 5 ปลั๊ก (แล้วแต่รุ่น)

หลังจากที่คิดว่าเสียบปลั๊กแน่นแล้ว ก็ลองขับรถใช้ดู ถ้าไม่มีปัญหาแล้ว ก็จบ แต่ถ้ายังมีปัญหาอยู่ ก็จะเริ่มยุ่งยากขึ้น (สายไฟอาจจะขาดในครับ) อาจจะต้องให้ช่างไฟ ไล่เช็คโอห์ม สายไฟทีละเส้น โดยการลองขยับสายไฟไปมา เพื่อดูว่าเส้นไหนขาด จึงจะได้ทำการตัดต่อหรือเปลี่ยนสายไฟใหม่ครับ (ลักษณะแบบนี้ เป็นเรื่องยุ่งยากของช่างไฟเสียเวลาช่างทำงานมากครับ ส่วนใหญ่ช่างจะปฏิเสธงาน หรือจะแนะนำให้ หาสายไฟทั้งชุดมาใหม่แล้ว วายริ่งใส่ลงไปให้ครับ)

**kai-ido** · 21-12-2008, 15:54

อาการคล้ายๆ ปลั๊กหรือสายไฟ จุดๆจุดหนึ่ง หลวมคลอน (เสียบไม่แน่น หรือสายไฟขาดข้างใน) เวลารถกระเทือน ทำให้แรงเคลื่อนของกระแสไฟหลุดหายไปช่วงหนึ่ง แต่พอหยุดกระเทือน แรงเคลื่อนของไฟก็เป็นปกติครับ ลักษณะแบบนี้ ถ้ามีเวลาทำเอง ก็ทำได้ครับ (ต้องใช้เวลาหน่อย เพราะว่าต้องสุ่มเลือกหาปลั๊กไฟครับ) โดยการไล่ขยับปลั๊กเสียบให้แน่น (กรณีที่คิดว่าเป็นที่เกียร์ ก็จะมีแค่ 4 จุดที่ควรจะเป็นครับ คือ

ใต้ท้องรถ ตรงเกียร์ ด้านขวา มีปลั๊ก 10 Pin อยู่ 1 ตัว
ใต้ท้องรถ ตรงเกียร์ด้านซ้าย มีปลั๊ก อยู่ 2 ถึง 4 ปลั๊ก
คอนโซลกลางตรงคันเกียร์ มีปลั๊ก อยู่ 2 ถึง 3 ปลั๊ก
ตรง ECU เอง จะมีปลั๊กอยู่ 2 ถึง 5 ปลั๊ก (แล้วแต่รุ่น)

หลังจากที่คิดว่าเสียบปลั๊กแน่นแล้ว ก็ลองขับรถใช้ดู ถ้าไม่มีปัญหาแล้ว ก็จบ แต่ถ้ายังมีปัญหาอยู่ ก็จะเริ่มยุ่งยากขึ้น (สายไฟอาจจะขาดในครับ) อาจจะต้องให้ช่างไฟ ไล่เช็คโอห์ม สายไฟทีละเส้น โดยการลองขยับสายไฟไปมา เพื่อดูว่าเส้นไหนขาด จึงจะได้ทำการตัดต่อหรือเปลี่ยนสายไฟใหม่ครับ (ลักษณะแบบนี้ เป็นเรื่องยุ่งยากของช่างไฟเสียเวลาช่างทำงานมากครับ ส่วนใหญ่ช่างจะปฏิเสธงาน หรือจะแนะนำให้ หาสายไฟทั้งชุดมาใหม่แล้ว วายริ่งใส่ลงไปให้ครับ)

แต่ถ้าไม่หายน่าจะเป็นที่ชุดครัชของเกียร์ออโต้ครับม ันน่าหมดหรือเขาเรียกว่าอาการครัชลื่น
จะเป็นอาการเหมือนเกียร์ธรรมดาที่ครัชลื่นครับเวลาเห ยียบคันเร่งรอบเครื่องจะขึ้นเหมือนอยู่เกียร์ว่างแต่ เวลาค่อยๆผ่อนคันเร่งรถก็จะเริ่มไปได้คือเหยียบคันเร ่งมากรถไม่ไปเหยียบคันเร่งน้อยรถไป

**krirkkub** · 25-12-2008, 20:45

ถ้าเกิดมันมีปัญหาที่คลัชจริงๆ แพงมั้งครับ กับการถ้ายังทันขับไปอยู่จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครั บ

แต่ตอนนี้ผมสงสัยอย่างนึงคับ แต่ยังไม่ได้แก้ไข คือ น้ำมันเกียร์ผมหาย เวลาเช็คต้องสตาร์ทรถให้เครื่องมันร้อนใช่มั้ยค ับ แล้วเช็คตอนนี้สตาร์ทอยู่ด้วย พอผมลองเช็คดู ปรากฎว่าน้ำมันดำนะครับ มีน้อยด้วย แต่ผมมีความรู้สึกว่าผมเพิ่งเติม แต่เท่าที่ผมถามว่าเห็นว่าน้ำมันเกียร์จะมีวิ่งไปตาม ท่อแล้วจะไปโผล่ที่หม้อน้ำ ปรากฎว่า ผมเห็นสายท่อเส้นหนึ่งเป็นเส้นล่างสุดที่มันวิ่งเข้า หม้อน้ำแตกครับ ไม่รู้มันเกี่ยวหรือเปล่า เพราะก่อนหน้าที่ผมเห็นว่ามีน้ำมันหยดแต่ไม่ไหลโจ๊กม าให้เห็นน่ะครับ ไม่แน่ใจเป็นสาเหตุนี้หรือเปล่า
ถ้าอย่างนี้ผมควรไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เลยดีหรือ เปล่า แล้วตัดต่อสายเองได้มั้ยครับ แล้วน้ำมันเกียร์ซื้อไปให้ร้านเอง หรือเอาที่ร้านที่เห็นเป็นถังใหญ่ ๆ แล้วขายเป็นลิตร หรือว่าเข้าพวกเชลล์ หรือยี่ห้ออื่น แล้วซื้อน้ำมันเป็นแกลลอนเลยดีครับ ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ ใครเคยเปลี่ยนบ้างครับ

ปล. ไม่ได้เชียร์เชลล์นะครับ แต่ผมใช้มันมันเครื่องของ ปตท. มันถูกดี หรือควรใช้ของอะไรดีครับ ขอบคุณครับ

**cpservice** · 25-12-2008, 21:49

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ krirkkub

ถ้าเกิดมันมีปัญหาที่คลัชจริงๆ แพงมั้งครับ กับการถ้ายังทันขับไปอยู่จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครั บ

แต่ตอนนี้ผมสงสัยอย่างนึงคับ แต่ยังไม่ได้แก้ไข คือ น้ำมันเกียร์ผมหาย เวลาเช็คต้องสตาร์ทรถให้เครื่องมันร้อนใช่มั้ยคับ แล้วเช็คตอนนี้สตาร์ทอยู่ด้วย พอผมลองเช็คดู ปรากฎว่าน้ำมันดำนะครับ มีน้อยด้วย แต่ผมมีความรู้สึกว่าผมเพิ่งเติม แต่เท่าที่ผมถามว่าเห็นว่าน้ำมันเกียร์จะมีวิ่งไปตาม ท่อแล้วจะไปโผล่ที่หม้อน้ำ ปรากฎว่า ผมเห็นสายท่อเส้นหนึ่งเป็นเส้นล่างสุดที่มันวิ่งเข้า หม้อน้ำแตกครับ ไม่รู้มันเกี่ยวหรือเปล่า เพราะก่อนหน้าที่ผมเห็นว่ามีน้ำมันหยดแต่ไม่ไหลโจ๊กม าให้เห็นน่ะครับ ไม่แน่ใจเป็นสาเหตุนี้หรือเปล่า
ถ้าอย่างนี้ผมควรไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เลยดีหรือ เปล่า แล้วตัดต่อสายเองได้มั้ยครับ แล้วน้ำมันเกียร์ซื้อไปให้ร้านเอง หรือเอาที่ร้านที่เห็นเป็นถังใหญ่ ๆ แล้วขายเป็นลิตร หรือว่าเข้าพวกเชลล์ หรือยี่ห้ออื่น แล้วซื้อน้ำมันเป็นแกลลอนเลยดีครับ ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ ใครเคยเปลี่ยนบ้างครับ

ปล. ไม่ได้เชียร์เชลล์นะครับ แต่ผมใช้มันมันเครื่องของ ปตท. มันถูกดี หรือควรใช้ของอะไรดีครับ ขอบคุณครับ

ลองเช็คตามลุงมูนบอกดูครับ เผื่อปลั๊กจะหลวมจริงๆ

ส่วนน้ำมันเกียร์ก็มีส่วน ที่คุณบอกมาว่าน้ำมันเกียร์สีดำๆ แสดงว่าคลัตช์คงไหม้หละครับ

น้ำมันเกียร์น้อยไป ก็มีผลทำให้คลัตช์ไหม้ด้วยครับ แก้ไขจุดที่มันรั่วซะเถอะ แล้วลองเปลี่ยนถ่าย

น้ำมันเกียร์ดู เอายี่ห้อไรก็ได้แต่ควรใช้เกรด dexron III ซื้อเป็นลิตรสัก 3 ลิตร ครับ เดิมและวัดดู

ให้พอดี จะเกินนิดๆหน่อยๆไม่เป็นไร แต่อย่าให้ขาดละกัน

**mornto** · 27-12-2008, 20:06

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ krirkkub

ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมรีบจัดการดีกว่า ปล่อยมานานก้อไม่ดี ยังไงขอบคุณมากนะครับ

อาการเดียวกับผมเลย แต่ผมเพิ่งจัดการเสร็จไป โดยการเปลี่ยนโซลินอยล์ไป3ตัวเลย

**SPEEDKILLS-940-1J-GTE** · 27-12-2008, 20:42

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ mornto

อาการเดียวกับผมเลย แต่ผมเพิ่งจัดการเสร็จไป โดยการเปลี่ยนโซลินอยล์ไป3ตัวเลย

3 ตัวนี้อยู่ตรงไหนอ่ะครับ

**wk7000** · 27-12-2008, 21:53

ของผมก็เป็นเหมือนกันครับแต่ไม่บ่อยนัก เวลาเป็นผมจะถอนคันเร่งหรือเปลี่ยนจาก D มา 2 หรือ L พอเปลี่ยนกับไป D ใหม่ก็วิ่งได้ปกติตอนที่มีอาการจะเป็นทางขรุขระไม่เร ียบเดี๋ยวจะไล่เช็คตามที่ลุงมูนบอกอีกที จะเป็นตอนช่วงเช้าไม่รู้ว่าอุณหภูมิน้ำมันเกียร์เย็น เกินไปมีผลหรือเปล่าครับ

**mornto** · 28-12-2008, 19:37

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ speedkills-940-1j-gte

3 ตัวนี้อยู่ตรงไหนอ่ะครับ

ต้องเปิดแคร้งเกียร์ออกมาครับ มันมีอยู่3ตัว ปกติใช้เปลี่ยนเกียร์มี2ตัว ไม่แน่ใจตัวไหนเลยให้ช่างเปลี่ยนเลย 3ตัว มีสายสีดำ สีเหลือง สีขาว เปลี่ยนแล้วหายเป็นปกติ ออกตัวแตะคันเร่งเหมือนเกียร์แอลแล้ว

**preaw** · 28-12-2008, 23:00

ถอดออกมาก็เช็คโอมเลยครับว่าค่าที่ใด้มันเพี้ยนหรือเ ปล่าถ้าใด้ก็จัดเลยหรือให้ท่านอื่นมาแนะนำ

21-12-2008, 04:02	#1
krirkkub ClubJZ Web Register วันที่สมัคร: Apr 2008 กระทู้: 25 Thanks: 0 Thanked 7 Times in 6 Posts คะแนน: 0	ผมมีปัญหาเกี่ยวกับเกียร์ครับ เรื่องผมมีอยู่ว่า รถใช้มานานแล้วครับ แต่เวลาตอนเช้าเราออกจากบ้านสตาร์ทรถแล้วออกมาอาการเ ป็นปกตินะครับ แต่ว่าถ้าออกมาได้ซักพักเจอลูกระนาดหรือชะลอจนถึงหยุ ด จะมีอาการคือ เมื่อเหยีบบคันเร่ง(ผมอาจจะป็นคนเท้าหนัก) รอบขึ้นครับ แต่รถไม่วิ่ง เหมือนว่ารถจะคิดได้อีกที ก็ออกตัวกระชากซึ่งจริงๆ น่าจะออกแบบนิ่มๆ แต่ถ้าผมทำใจเย็น ๆ คือ ค่อยๆ เหยียบคันเร่ง รถก้อออกได้นะ แต่ต้องทำใจว่ามันจะค่อยๆ วิ่งแบบช้า ช้า อาการอย่างนี้เป็นบ่อยบ้างไม่บ่อยบ้าง ไม่สามารถระบุเวลาได้ครับ ส่วนเกียร์อื่นทำงานปกติครับ ลักษณะอาการคล้ายกับเหมือนว่าเราเหยียบคลัทช์แล้วปล่ อยคลัทช์ยังไม่สุดนะครับ เหมือนมีจังหวะฟรีน่ะครับ ทำให้เหมือนรถไม่มีแรง ประมาณนี้น่ะครับ ปล. รบกวนด้วยนะครับ(น้ำมันเกียร์เพิ่งเติมน่ะครับ แต่ของเก่านี่เหมือนจะขาด ดำด้วย ผมไม่ได้ล้างนะครับใช้เติมเอาครับ) ขอบคุณครับ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย krirkkub : 21-12-2008 เมื่อ 04:04. เหตุผล: เพิ่มครับ

21-12-2008, 09:34	#3
Moonlight Super Moderator วันที่สมัคร: Oct 2006 Car Brand: My Brand Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T ที่อยู่: กรุงเทพฯ กระทู้: 1,768 Thanks: 633 Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts คะแนน: 19	อาการคล้ายๆ ปลั๊กหรือสายไฟ จุดๆจุดหนึ่ง หลวมคลอน (เสียบไม่แน่น หรือสายไฟขาดข้างใน) เวลารถกระเทือน ทำให้แรงเคลื่อนของกระแสไฟหลุดหายไปช่วงหนึ่ง แต่พอหยุดกระเทือน แรงเคลื่อนของไฟก็เป็นปกติครับ ลักษณะแบบนี้ ถ้ามีเวลาทำเอง ก็ทำได้ครับ (ต้องใช้เวลาหน่อย เพราะว่าต้องสุ่มเลือกหาปลั๊กไฟครับ) โดยการไล่ขยับปลั๊กเสียบให้แน่น (กรณีที่คิดว่าเป็นที่เกียร์ ก็จะมีแค่ 4 จุดที่ควรจะเป็นครับ คือ ใต้ท้องรถ ตรงเกียร์ ด้านขวา มีปลั๊ก 10 Pin อยู่ 1 ตัว ใต้ท้องรถ ตรงเกียร์ด้านซ้าย มีปลั๊ก อยู่ 2 ถึง 4 ปลั๊ก คอนโซลกลางตรงคันเกียร์ มีปลั๊ก อยู่ 2 ถึง 3 ปลั๊ก ตรง ECU เอง จะมีปลั๊กอยู่ 2 ถึง 5 ปลั๊ก (แล้วแต่รุ่น) หลังจากที่คิดว่าเสียบปลั๊กแน่นแล้ว ก็ลองขับรถใช้ดู ถ้าไม่มีปัญหาแล้ว ก็จบ แต่ถ้ายังมีปัญหาอยู่ ก็จะเริ่มยุ่งยากขึ้น (สายไฟอาจจะขาดในครับ) อาจจะต้องให้ช่างไฟ ไล่เช็คโอห์ม สายไฟทีละเส้น โดยการลองขยับสายไฟไปมา เพื่อดูว่าเส้นไหนขาด จึงจะได้ทำการตัดต่อหรือเปลี่ยนสายไฟใหม่ครับ (ลักษณะแบบนี้ เป็นเรื่องยุ่งยากของช่างไฟเสียเวลาช่างทำงานมากครับ ส่วนใหญ่ช่างจะปฏิเสธงาน หรือจะแนะนำให้ หาสายไฟทั้งชุดมาใหม่แล้ว วายริ่งใส่ลงไปให้ครับ) __________________ JZM - 5

21-12-2008, 15:54	#4
kai-ido Junior Member วันที่สมัคร: Mar 2008 กระทู้: 3 Thanks: 0 Thanked 0 Times in 0 Posts คะแนน: 0	อาการคล้ายๆ ปลั๊กหรือสายไฟ จุดๆจุดหนึ่ง หลวมคลอน (เสียบไม่แน่น หรือสายไฟขาดข้างใน) เวลารถกระเทือน ทำให้แรงเคลื่อนของกระแสไฟหลุดหายไปช่วงหนึ่ง แต่พอหยุดกระเทือน แรงเคลื่อนของไฟก็เป็นปกติครับ ลักษณะแบบนี้ ถ้ามีเวลาทำเอง ก็ทำได้ครับ (ต้องใช้เวลาหน่อย เพราะว่าต้องสุ่มเลือกหาปลั๊กไฟครับ) โดยการไล่ขยับปลั๊กเสียบให้แน่น (กรณีที่คิดว่าเป็นที่เกียร์ ก็จะมีแค่ 4 จุดที่ควรจะเป็นครับ คือ ใต้ท้องรถ ตรงเกียร์ ด้านขวา มีปลั๊ก 10 Pin อยู่ 1 ตัว ใต้ท้องรถ ตรงเกียร์ด้านซ้าย มีปลั๊ก อยู่ 2 ถึง 4 ปลั๊ก คอนโซลกลางตรงคันเกียร์ มีปลั๊ก อยู่ 2 ถึง 3 ปลั๊ก ตรง ECU เอง จะมีปลั๊กอยู่ 2 ถึง 5 ปลั๊ก (แล้วแต่รุ่น) หลังจากที่คิดว่าเสียบปลั๊กแน่นแล้ว ก็ลองขับรถใช้ดู ถ้าไม่มีปัญหาแล้ว ก็จบ แต่ถ้ายังมีปัญหาอยู่ ก็จะเริ่มยุ่งยากขึ้น (สายไฟอาจจะขาดในครับ) อาจจะต้องให้ช่างไฟ ไล่เช็คโอห์ม สายไฟทีละเส้น โดยการลองขยับสายไฟไปมา เพื่อดูว่าเส้นไหนขาด จึงจะได้ทำการตัดต่อหรือเปลี่ยนสายไฟใหม่ครับ (ลักษณะแบบนี้ เป็นเรื่องยุ่งยากของช่างไฟเสียเวลาช่างทำงานมากครับ ส่วนใหญ่ช่างจะปฏิเสธงาน หรือจะแนะนำให้ หาสายไฟทั้งชุดมาใหม่แล้ว วายริ่งใส่ลงไปให้ครับ) แต่ถ้าไม่หายน่าจะเป็นที่ชุดครัชของเกียร์ออโต้ครับม ันน่าหมดหรือเขาเรียกว่าอาการครัชลื่น จะเป็นอาการเหมือนเกียร์ธรรมดาที่ครัชลื่นครับเวลาเห ยียบคันเร่งรอบเครื่องจะขึ้นเหมือนอยู่เกียร์ว่างแต่ เวลาค่อยๆผ่อนคันเร่งรถก็จะเริ่มไปได้คือเหยียบคันเร ่งมากรถไม่ไปเหยียบคันเร่งน้อยรถไป

25-12-2008, 20:45	#5
krirkkub ClubJZ Web Register วันที่สมัคร: Apr 2008 กระทู้: 25 Thanks: 0 Thanked 7 Times in 6 Posts คะแนน: 0	ถ้าเปลี่ยนคลัชแพงมั้ยครับหรือทำยั ถ้าเกิดมันมีปัญหาที่คลัชจริงๆ แพงมั้งครับ กับการถ้ายังทันขับไปอยู่จะเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครั บ แต่ตอนนี้ผมสงสัยอย่างนึงคับ แต่ยังไม่ได้แก้ไข คือ น้ำมันเกียร์ผมหาย เวลาเช็คต้องสตาร์ทรถให้เครื่องมันร้อนใช่มั้ยค ับ แล้วเช็คตอนนี้สตาร์ทอยู่ด้วย พอผมลองเช็คดู ปรากฎว่าน้ำมันดำนะครับ มีน้อยด้วย แต่ผมมีความรู้สึกว่าผมเพิ่งเติม แต่เท่าที่ผมถามว่าเห็นว่าน้ำมันเกียร์จะมีวิ่งไปตาม ท่อแล้วจะไปโผล่ที่หม้อน้ำ ปรากฎว่า ผมเห็นสายท่อเส้นหนึ่งเป็นเส้นล่างสุดที่มันวิ่งเข้า หม้อน้ำแตกครับ ไม่รู้มันเกี่ยวหรือเปล่า เพราะก่อนหน้าที่ผมเห็นว่ามีน้ำมันหยดแต่ไม่ไหลโจ๊กม าให้เห็นน่ะครับ ไม่แน่ใจเป็นสาเหตุนี้หรือเปล่า ถ้าอย่างนี้ผมควรไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์เลยดีหรือ เปล่า แล้วตัดต่อสายเองได้มั้ยครับ แล้วน้ำมันเกียร์ซื้อไปให้ร้านเอง หรือเอาที่ร้านที่เห็นเป็นถังใหญ่ ๆ แล้วขายเป็นลิตร หรือว่าเข้าพวกเชลล์ หรือยี่ห้ออื่น แล้วซื้อน้ำมันเป็นแกลลอนเลยดีครับ ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ ใครเคยเปลี่ยนบ้างครับ ปล. ไม่ได้เชียร์เชลล์นะครับ แต่ผมใช้มันมันเครื่องของ ปตท. มันถูกดี หรือควรใช้ของอะไรดีครับ ขอบคุณครับ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย krirkkub : 25-12-2008 เมื่อ 20:45. เหตุผล: ให้สวยงามครับ

21-12-2008, 08:21	#2
SPEEDKILLS-940-1J-GTE Senior Member วันที่สมัคร: Oct 2006 อายุ: 43 กระทู้: 199 Thanks: 10 Thanked 15 Times in 13 Posts คะแนน: 18	เกียร์ L นี่พุ่งปกติปะครับ ถ้าวิ่งปกติ นี่อาการคล้ายๆผมเลย

27-12-2008, 21:53	#9
wk7000 ClubJZ Full Member 2556 วันที่สมัคร: Jan 2008 Car Brand: Toyota Sport Rider Engine Type: 2JZ-GTE AUTO 4x4, 1JZ-GE VVTI ที่อยู่: Suphanburi กระทู้: 821 Thanks: 1,304 Thanked 2,257 Times in 627 Posts คะแนน: 17	ของผมก็เป็นเหมือนกันครับแต่ไม่บ่อยนัก เวลาเป็นผมจะถอนคันเร่งหรือเปลี่ยนจาก D มา 2 หรือ L พอเปลี่ยนกับไป D ใหม่ก็วิ่งได้ปกติตอนที่มีอาการจะเป็นทางขรุขระไม่เร ียบเดี๋ยวจะไล่เช็คตามที่ลุงมูนบอกอีกที จะเป็นตอนช่วงเช้าไม่รู้ว่าอุณหภูมิน้ำมันเกียร์เย็น เกินไปมีผลหรือเปล่าครับ

28-12-2008, 23:00	#11
preaw Member วันที่สมัคร: Mar 2008 อายุ: 46 กระทู้: 33 Thanks: 0 Thanked 6 Times in 4 Posts คะแนน: 0	ถอดออกมาก็เช็คโอมเลยครับว่าค่าที่ใด้มันเพี้ยนหรือเ ปล่าถ้าใด้ก็จัดเลยหรือให้ท่านอื่นมาแนะนำ