ดูแบบคำตอบเดียว
เก่า 01-09-2009, 22:48   #10
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 19 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ apinui อ่านกระทู้
ขอบคุณครับลุงมูน

ถามเพิ่มเิติมครับ ..

เนื่องจากว่า การวอล์ม นั้น ผมรู้สึกว่า มันใช้เวลานานเกินไปครับ ซึ่งถ้าเที่ยบกับรถยนต์ที่ผลิตในไทยแล้ว ใช้เวลาวอล์มสั้นมาก

ไม่ทราบว่าเนื่องจาก Jz ดั้งเดิมมันเป็นเครื่องเมืองหนาวหรือเปล่าเค้าถึงได้ ตั้งให้มันวอล์มนานขนาดนั้น

ส่วนเรื่องวาล์วน้ำ ผมใส่แน่นอนครับ เพราะพึ่งไปเปลี่ยนมาพร้อมกับเปลี่ยนน้ำในหม้อน้ำด้ว ยเมื่อไม่นานมานี้เอง

เราจะสามารถทำให้มันวอล์มสั้นกว่านี้หน่อยได้ไหมครับ หรือว่า เครื่องเค้าถูก Set มาอย่างนี้แล้วเลยแก้ไขไม่ได้ ??
ระยะเวลาการวอร์มนั้น จะช้าจะเร็วแค่ไหน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลาครับผม มันขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของน้ำที่ระบายความร้อนในเครื ่องยนต์ครับ คุณว่าแค่ไหนนานครับ ถ้าคุณอยู่ลำลูกกา ใช้เวลาวอร์ม 3 นาทีกว่า เครื่องจะร้อนถึง 80 องศา คุณลองไปอยู่ที่ดอยอ่างขาง คุณอาจจะวอร์มนานถึง 5 นาที กว่าจะร้อนขึ้นมาถึง 80 องศาก็ได้ครับ

คุณเคยเห็นนักกีฬา วอร์มร่างกายก่อนลงแข่งมั้ยครับ เขาไม่ได้ใช้เวลาเป็นตัวกำหนดการวอร์มหรอกนะครับ อขาดูที่อุณหภูมิร่างกาย เหงื่อที่ออกมา ความคล่องตัวของร่างกาย กล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่น ทำไมนักฟุตบอลอังกฤษ เตะฟุตบอลที่เมืองเขา จึงลงเล่นได้นานๆ เล่นเป็นพระเอกเลย แต่พอมาเตะเมืองไทย ทำไมจึงหอบเหนื่อยง่าย ทั้งหมด ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิอากาศ เหงื่อที่ออกมามากน้อยนั่นเองครับ


อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ ake_209 อ่านกระทู้
ลุงมูน ครับ แล้วถ้ารถวิ่งแล้ว จอดไว้ อุณหภูมิจะเริ่มลดลง แล้วถ้าเราสตาร์ท(ด้วยแ ก๊ส)ใหม่ อุณหภูมิอยู่ประมาณ 50 องศา เราเหยียบได้เลยหรือเปล่าครับ หรือต้องรอให้ถึง 80 องศา ก่อนถึงจะโลดได้ครับ
ขอบคุณลุง ล่วงหน้าครับ


ตามทฤษฎีแล้ว เราจะวอร์มเครื่องยนต์ ช่วงเช้า ครั้งเดียวเท่านั้นครับ นอกนั้น ลุยได้ตลอดครับ แม้ว่า อุณหภูมิน้ำในเครื่องยนต์จะลดลงมาแล้วก็ตามครับ

คงจะถามผมว่า ทำไม? แน่ๆเลย

สาเหตุเป็นเพราะว่า ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ยังไม่หดตัวครับ น้ำมันเครื่องที่แทรกตัวหล่อลื่นเป็นฟิล์มกั้นอยู่ระ หว่างโลหะนั้น ยังถูกโลหะกดกั้น (กีดขวาง) ไม่ให้ไหลลงก้นแคร้งได้ง่ายๆหรอกครับ ความร้อนในเครื่องยนต์ ก็ยังลดลงไม่มากครับ ถ้าจอดเฉยๆหลังจากวิ่งรถมาแล้ว ไม่มากกว่า 5 ชั่วโมง ในสถานที่เย็นๆ ก็ไม่ต้องวอร์มแล้วครับ วิ่งใช้ได้เลยครับ แต่มีข้อแม้ว่า ต้องใช้น้ำมันเครื่องคุณภาพดีๆ เช่นน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% นะครับ

บทความก่อนๆ ผมเขียนไว้ ในเชิงความรู้ก็จริงครับ แต่นั่น ผมเว้นวรรคเรื่องหนึ่งไว้ เพื่อป้องกันความสับสนของผู้รับข้อมูลครับ

นั่นคือ เรื่องคุณภาพน้ำมันเครื่อง ครับ น้ำมันเครื่องปัจจุบัน มีการพัฒนาในทางที่ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากๆครับ มีความห่างของความหนืดกว้างมากครับ โดยเฉพาะน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 100% จะมีส่วนผสมของ Additive เอาไว้ ซึ่งทำให้ มีสารเคลือบโลหะ เหมือนแผ่นฟิล์มครับ ดังนั้น เวลาเครื่องยนต์เย็นตัว ความเครียดที่เกิดจากการสตาร์ทเครื่องโดยไม่มีน้ำมัน เครื่องหล่อลื่นนั้น ฟิล์มนี้จะช่วยป้องกันการสึกหรอครับ ทำให้การสตาร์ทติดง่าย และไม่เกิดการสั่นในช่วงสตาร์ทเย็นครับ (การสั่นนั้นเกิดจากความฝืดที่อยู่ระหว่างโลหะเสียดสี กัน ยิ่งสั่นมากยิ่งสึกหรอมากครับ) อีกทั้ง ช่วงความกว้างของความหนืดของน้ำมันเครื่อง เช่น 0W - 40 หรือ 5W - 50 เป็นต้น ให้ดูที่เลขตัวหน้านั้น จะบอกถึงความใสของน้ำมัน ทำให้ น้ำมันเครื่องไหลเข้าไปหล่อลื่นได้ง่าย ขณะเดียวกัน ตัวเลขหลัง คือ การคงสภาพความหนืดไว้ได้ ในระดับ 40 หรือ 50 ที่อุณหภูมิความร้อน 210 องศาฟาเรนไฮท์ หรือ 99 องศาเซลเซียส (ถ้าสนใจข้อมูล ก็หาอ่านรายละเอียดบทความเรื่องน้ำมันเครื่องหล่อลื่ นได้ ที่ Forum Technical ครับ) เรื่องอุณหภูมินี้เอง ผมจึงจะกล่าวเสมอๆ ว่า ถ้าความร้อนของเครื่องยนต์ขึ้นถึง ระดับเกือบๆ 100 องศา ให้พึงระวัง เพราะว่า มันจะเริ่มเข้าไปทำลายความหนืดของน้ำมันหล่อลื่น จะกระทั่งสูญเสียความหนืด และระเหยไปได้ครับ
__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 2 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post:
Juomaru (06-06-2010), nanid (28-11-2010)