อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ max71
ความคิดผมนะ โอกาสน้ำมันเครื่องหาย ออยเพรส ตกเนี่ยจนชาร์ทละลายมันน้อยยยมาก
มันจะรั่วทะลักขนาดนั้นเลยเหรอ
โอกาสที่เป็นไปได้มากกว่านี้ เครื่องร้อนจัด
oil temp อยู่ระดับ 120+ อันนี้น่ากลัวกว่า
รถปรกติวิ่งเล่นๆในเมืองก็เฉียด 100 รถติดหน่อยก็แปะ 100 ซัดแป๊บๆ 120
น้ำมันเครื่องทนได้ 120 กดแช่อีกสัก 2 -3 รอบ กร๊อบบ
|
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ T.N.P.K.
--- บ้างที การละลาย ก็ไม่ได้เกี่ยวกับตัว น้ำมันเครื่อง / ปั๊มน้ำมันเครื่อง แต่เกิดขึ้นจากตัว ชาร์ป เองที่หมดอายุการใช้งาน ( ชาร์ปห่อ / ชาร์ปแดง ) เนื่องมาจากเครื่องตัวนี้ผ่านการใช้งานมาอย่างหนัก หรือ ขาดการบำรุงดูแลในด้านของเหลว และ ความสะอาดของกรองอากาศที่ใช้งาน ทำให้ความสะอาดของเครื่องยนต์หดหายไป และ แทนทีด้วยขี้ฝุ่น ที่ผสมเข้าไปกับกรองอากาศ บวกกับการที่ไม่ได้ดูแลของเหลวเลย อันนี้ ก็ส่งผลทำให้อายุการใช้งานของตัวชาร์ปสั้นลง .... ไม่ว่าจะเป็นชาร์ปแต่ง หรือ ชาร์ป โรงงานก็ไม่รอด ละลายสถานเดียว ---
--- แต่การที่เลือกใช้น้ำมันเครื่องดีๆๆ นั้นมีผลต่อการหมุนลื่นของเครื่องยนต์อย่างมาก เพราะการสตาร์เครื่องทุกครั้ง โลหะทุกชิ้นในเครื่องจะลอยอยู่บนฟิล์มของตัวน้ำมันเค รื่องเท่านั้น ---
--- ยิ่งเครื่องที่ทำทั้งตัว จะเห็นผลอย่างมากเกี่ยวกับ รายละเอียดของตัวน้ำมันเครื่อง ที่เลือกใช้ ---
--- เคยเจอกันไหมล่ะครับ เครื่องทำตัวละสองแสน สามแสน ทำได้ แต่เลือกซื้อนำมันเครื่องดีๆๆ หมดแค่ เจ็ด-แปด พัน จ่ายไม่ได้ ..... สุดท้ายเครื่องพังเพราะ น้ำมันเครื่อง มันคุ้มไหมล่ะ ---
--- ความเห็นส่วนตัวนะครับ ---
|
ผมสนับสนุน 2 เหตุผลนี้ครับ
เจ้าของกระทู้ ถามว่า "สาเหตุของ ชาร์ปละลายมาจากอะไรบ้างครับ" ซึ่งถ้าตอบแบบต้นเหตุที่แท้จริง ก็คือ "ความร้อน" ครับ
แล้วอะไรที่ทำให้เกิดความร้อน ล่ะครับ
- ใช้งานมันหนักๆ แต่ใช้น้ำมันเครื่อง ห่วยๆ หรือ หมดอายุ หรือเปล่า ? (น้ำมันเครื่องนอกจากเป็นตัวช่วยหล่อลื่นแล้ว ยังเป็นตัวช่วยระบายความร้อนด้วย)
- ขาดการบำรุงรักษาที่ดี หรือเปล่า ? (การใช้น้ำมันเครื่องที่ดีๆ ก็ใช่ว่าชาปจะไม่สึกนะครับ ถ้าขาดการบำรุงรักษาที่ดี เช่น ไม่มีการตรวจเช็คระดับน้ำมันเครื่องเลย, อายุน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ที่ได้มาตราฐานการรักษาเ ครื่องนั้น อยู่ที่ 10000 กม. แต่เราขออีกสักนิด สัก 12000 - 15000 กม. ค่อยถ่าย เป็นต้น)(ชาปคงไม่ได้ละลายให้เห็นคาเท้าหรอกครับ แต่มันจะค่อยๆสึกแล้วจะไปละลายในอีกไม่นานหลังจากที่ คุณเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ก็ได้)
- ขาดการสนใจเกจ์วัดต่างๆ ระหว่างขับรถหรือเปล่า ? (ปล่อยให้ความร้อนขึ้นสูงๆ กว่าจะรู้ ก็ ชาปละลาย+ ฝาสูบโก่ง คาเท้าไปแล้ว หรือ ถ้าชาปยังไม่ละลายก็จริง แต่ % ที่จะละลายในเวลาต่อมามีสูงขึ้น)
ทั้งหมดเป็นพฤกติกรรมการใช้งานของผู้ขับขี่เอง ที่จะถนอมเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานเท่าที่ควรจะ เป็นหรือไม่ ในโลกนี้ ไม่มีอะไรที่ มีเกิด แล้วไม่มีแก่ และไม่มีตาย หรอกครับ มันอยู่ที่ว่า เราจะถนอมมันให้ แก่และตายไปในเวลาอันสมควรที่มันควรจะเป็นหรือเปล่าเ ท่านั้นครับ