ClubJZ Forums

ClubJZ Forums (http://www.ClubJZ.net/index.php)
-   ClubJZ! Useful Information (http://www.ClubJZ.net/forumdisplay.php?f=14)
-   -   แก้ความร้อนไม่จบครับ (http://www.ClubJZ.net/showthread.php?t=71550)

CHAI-ENERGY-DEDE 27-06-2013 00:04

ขอเดาว่าแอร์ท่านก็ไม่เย็นเท่าที่ควร
อย่างแรกย้ายแผงแอร์ไว้ใต้ท้องเลยครับ เอาพัดลมแรง ๆ เป่าระบายดี ๆ แอร์จะเย็นขึ้น
แล้วจะเหลือพื้นที่ให้หม้อน้ำได้มีที่ว่างระบายความร ้อน หรือได้ติดพัดลมเพิ่มได้ครับ
ถ้าไม่หายจริง ๆ อีกทางสุดท้ายก็ต้องเป็นหม้อน้ำสองช่องอย่างว่าแหละค รับ
แต่คงไม่ถึงขั้นทำมู่เล่ปั้มน้ำให้น้ำวนเร็วขึ้นนะคร ับซึ่งนั่นก็อีกวิธีหนึ่งครับ

Khun_Thian 27-06-2013 11:01

ลองอ่านดูเล่นๆครับ :emo_toon01:

http://clubjz.net/showthread.php?p=23982#post23982

nontiyud 28-06-2013 13:05

จากประสบการณ์ที่ผมเจอมากับตัว เป็นเครื่อง1uz-fe ในรถjeep cherokee แก้ความร้อนยังไงก็ไม่จบเปลี่ยนวาล์วน้ำก็แล้ว เพิ่มพัดลมก็แล้ว แต่แปลกคือเวลารถจอดนิ่งความร้อนนิ่งที่86 พอรถวิ่งนี้ขึ้นยาวยันร้อน สุดท้ายเอาแผงแอร์ย้ายไปใต้ท้อง แฮปปี้ครับสรุปวิ่งนี้ไม่มีเกิน90องศา ส่วนใหญ่นิ่งๆที่88 90มาตอนรถติดครับ ลองเอาไปพิจารฝรา:)

Mr.Bjz 28-06-2013 13:26

อย่าลืมคิดถึงท่อไอเสียด้วยนะครับ เครื่องเทอร์โบ ถ้าไอเสียไหลไม่ทัน ร้อนกระจายครับ เคยโดนมาแล้วเหมือนกันครับ หม้อพักล่ะตัวดี 1JZ-GTE VVT-i แนะนำว่า ท่อขนาด 2.5 บวกหม้อพักไส้ตรง 2 ใบ ย้ำว่าต้องไส่ตรงเท่านั้นนะครับ อย่าได้ไปใช้ไส้แบบอื่นนะ ไม่งั้นร้อนแน่ๆ

se278 28-06-2013 19:42

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Khun_Thian (872868 กระทู้)
เอ่่อ...ที่ก๊อปมาให้ดูเพื่อจะบอกว่ายังมีข้อมูลที่ห ลายๆคนยังไม่เคยได้เห็นได้อ่านเท่านั้นครับอยากให้ลอ งเข้าไปศึกษาดูเพื่อปรับใช้กับรถของตัวเอง จริงๆแล้วข้อมูลตรงนี้ก็ใช้ไม่ได้จริงกับรถทุกๆคันคร ับเพราะเป็นรถวางเครื่องซึ่งด้วยขนาดห้องเครื่องของร ถแต่ละคันไม่เท่ากันทำให้วางออกมาแล้วเจอปัญหาคล้ายๆ กันแต่ไม่ได้มาจากจุดเดียวกันก็มีเยอะครับ "การที่ช่วยๆกันแชร์ความรู้ที่พบเจอก็เป็นทางช่วยแก้ป ัญหาได้ครับ" ตรงที่ผมก๊อปมามันคือหลักการตามทฤษฎีครับต้องไปปรับใ ช้กับรถตัวเองอีก อย่างผมหม้อน้ำเนียม2ช่องจุไม่ถึง8ลิตรตามสเปกโรงงาน พัดลม3+1แอร์ วาล์วน้ำ76 ซัดๆยัง100กว่าเลยครับ ;)


ขอลบครับ

Dimensions 28-06-2013 23:52

ผมหม้อน้ำกันแผงแอร์ห่างกันแค่เซ็นเดียว หน้าแผงแอร์มีพัดลมตัวใหญ่ๆ 1 ตัว เวลาเปิดแอร์พัดลมหม้อน้ำแทบไม่ทำงาน เมือก่อนยังไม่เจาะฝาหน้า แช่นานๆมีถึง 110 180+ นะครับ พอเจาะมาไม่เคยเกิน 100 อีกเลย

ลุงเหน่ง 29-06-2013 16:30

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Dimensions (872145 กระทู้)
ผมหม้อน้ำกันแผงแอร์ห่างกันแค่เซ็นเดียว หน้าแผงแอร์มีพัดลมตัวใหญ่ๆ 1 ตัว เวลาเปิดแอร์พัดลมหม้อน้ำแทบไม่ทำงาน เมือก่อนยังไม่เจาะฝาหน้า แช่นานๆมีถึง 110 180+ นะครับ พอเจาะมาไม่เคยเกิน 100 อีกเลย

เจาะแบบไหนครับอยากเห็นรูป

Nhong_RY 01-07-2013 17:13

พอดีเข้าสวนหลายวัน เลยไม่ได้อ่านกระทู้
Pong79 ผมไช้เกียรเดิม 5L ยาง31หม้อน้ำสามชั้นเปลียนพัดลมดูดของ นิสสัน2สปีดมาใส่ดูดแรงกว่าเดิมเยอะครับ ส่วนด้านหน้ารถได้ย้ายป้ายออก สรุปว่าความร้อนลดลง แต่ยังแช่ที่ 130_140ไม่ได้ ร้อน 100_105ครับ

Nhong_RY 01-07-2013 17:54

tunjo หม้อน้ำเท่าของเดิม ฝาทองแดง วาสว็ปกติดีแต่เกย็ไม่ค่อยดีเท่าที่ควน ส่านแผงแอร็เกือบจะชิดหม้อน้ำแล้วครับ P borancar แน่นมาก P tom.4wd ความร้อนขึ้น ตอนแช่130-140ครับ วิ่งปกติความร้อนขึ้นปกติชุดแก็ส หัวฉีด เอจี ไม่เคยวิ่งจมไม เพราะช่างตัดโชคกันสะบัดออก วิ่งเร็วแล้วผวงมาลัยมันไว (ติดอ่างล้างเลยตัดออก) แอร์เย็นดีครับพี่ CHAI เดียว ส ค นี้จะไป มุกดาหารจะลองเอาขึ้นเขาปักดูก่อน ถ้าเอาความร้อนไม่อยู่จริงๆ คงต้องย้ายแผงแอร์แน่นๆ

Nhong_RY 01-07-2013 18:01

Mr.bjz ผมเดินท่อ สแตนเลด 2.5''ทั่งเส้น ส่วนหม้อพัก หนื่งใบ ใส้ตรงหรือเยื่องไม่แน่ใจครับ

Nhong_RY 01-07-2013 18:56

พัดลมดูดไฟฟ้าผมต่อแบบนี้ครับ พอบิดกุณแจ พัดลมทำงานสปีด 1 พอแอร์ทำงานพัดลมจะทำที่สปีด 2 พอร้อนได้ที่ พัดลมก็ดูดแรงขื้นอีก พี่ๆว่าต่ออย่างนี้ดีมั้ย

bellcorp 01-07-2013 20:07

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Nhong_RY (872491 กระทู้)
พัดลมดูดไฟฟ้าผมต่อแบบนี้ครับ พอบิดกุณแจ พัดลมทำงานสปีด 1 พอแอร์ทำงานพัดลมจะทำที่สปีด 2 พอร้อนได้ที่ พัดลมก็ดูดแรงขื้นอีก พี่ๆว่าต่ออย่างนี้ดีมั้ย

ผมเคยต่อแบบนี้เลย ปรากฎว่าเดินเมากลับมาถึงรถได้ บิดกุญแจเพื่อสะต้าทรถ แต่หลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ประมาณ4ชม. ตื่นมาเรียบร้อยแบตหมดเกลี้ยง เลยตัดสินใจนอนต่อถึงเช้า เพราะว่าอากาศเย็นกะลังดี แหะๆๆๆ :biggrin:

khwan1j 01-07-2013 20:15

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ bellcorp (872497 กระทู้)
ผมเคยต่อแบบนี้เลย ปรากฎว่าเดินเมากลับมาถึงรถได้ บิดกุญแจเพื่อสะต้าทรถ แต่หลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ ประมาณ4ชม. ตื่นมาเรียบร้อยแบตหมดเกลี้ยง เลยตัดสินใจนอนต่อถึงเช้า เพราะว่าอากาศเย็นกะลังดี แหะๆๆๆ :biggrin:

ดีไม่เปิดประตูไว้ด้วย ไม่งั้นมีหวังยุงหามไปแน่:rolleyes:

se278 02-07-2013 07:51

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Khun_Thian (872868 กระทู้)
เอ่่อ...ที่ก๊อปมาให้ดูเพื่อจะบอกว่ายังมีข้อมูลที่ห ลายๆคนยังไม่เคยได้เห็นได้อ่านเท่านั้นครับอยากให้ลอ งเข้าไปศึกษาดูเพื่อปรับใช้กับรถของตัวเอง จริงๆแล้วข้อมูลตรงนี้ก็ใช้ไม่ได้จริงกับรถทุกๆคันคร ับเพราะเป็นรถวางเครื่องซึ่งด้วยขนาดห้องเครื่องของร ถแต่ละคันไม่เท่ากันทำให้วางออกมาแล้วเจอปัญหาคล้ายๆ กันแต่ไม่ได้มาจากจุดเดียวกันก็มีเยอะครับ "การที่ช่วยๆกันแชร์ความรู้ที่พบเจอก็เป็นทางช่วยแก้ป ัญหาได้ครับ" ตรงที่ผมก๊อปมามันคือหลักการตามทฤษฎีครับต้องไปปรับใ ช้กับรถตัวเองอีก อย่างผมหม้อน้ำเนียม2ช่องจุไม่ถึง8ลิตรตามสเปกโรงงาน พัดลม3+1แอร์ วาล์วน้ำ76 ซัดๆยัง100กว่าเลยครับ ;)


ขอลบครับ

pattapong 02-07-2013 08:43

[quote=se278;872541]พี่ไม่ลองเปลี่ยนเป็น
สเตปหนึ่งสั่งจากคอมแอร์
สเตปสองสั่งจากเทอร์โมสวิทช์


:p[/QUOTE

ผมก็ต่อ แบบท่านนะครับ

HS9KRM 02-07-2013 16:19

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Nhong_RY (869417 กระทู้)
ผมใช้รถไทเกอร์ 4X4 วางเครื่อง1JZ GTE VVTI Turbo มาปีกว่าแล้วแต่ยังแก้ไขความร้อนไม่จบ โดยใช้หม้อน้ำเดิม 3 ชั้น พัดลมดูด ไฟฟ้า2สปีด 2ตัว แต่ความร้อนก้อยังไม่หาย ท่านกูรูช่วยแนะนำด้วยครับ/Nhong_RY

welcome ช่วยสรุปมาเป็นข้อๆทีครับว่าได้แก้ไขอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อนๆจะได้แนะนำถูก

Nhong_RY 02-07-2013 20:40

สรุป ผมได้เปลี่ยนพัดลมของนิสันมาใส่ใหม่1คู่ ดูด แผงแอร์อยู่ที่เดิม วิ่งไม่เกิน 110 ความร้อนไม่เกิน 96แต่ถ้าแช่ที่ 130-140 ความร้อนอยู่ที่ ประมาณ 105ครับ สงสัยคงต้องย้ายแผงแอร์ครับถึงจะจบ

Nhong_RY 02-07-2013 20:52

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ se278 (872541 กระทู้)
พี่ไม่ลองเปลี่ยนเป็น
สเตปหนึ่งสั่งจากคอมแอร์
สเตปสองสั่งจากเทอร์โมสวิทช์


:p

เมื่อกอนก็ต่อแบบนี้แหละครับ แต่ตอนที่ไม่ได้เปิดแอร์ สเตปหนื่งก็จะไม่ทำงาน ความร้อนก็จะขึ้นไปคอยที่สเตปสองเลยนะครับ

Khun_Thian 03-07-2013 11:25

นี่คือข้อมูลเล็กๆน้อยๆในบ้านหลังนี้หรือหอสมุดเครื่ องJZก็ว่าได้...คุณเคยได้เข้าไปอ่านหรือยังครับ... :smile:
*ที่มา..."สารบัญการสืบค้นข้อมูล" ซึ่งสต๊าฟชื่อ"Moonlight"ได้ทำไว้ครับ welcome

หมวดว่าเรื่องการระบายความร้อนของเครื่องยนต์
มีสมาชิกท่านหนึ่งตั้งกระทู้ถามไว้ เกี่ยวกับเรื่องการระบายความร้อน ซึ่งผมก็ตอบไปตามสาระข้างล่างนี้ แต่มีสมาชิกท่านอื่นๆ ถามต่อยอดเป็นการส่วนตัว ซึ่งผมก็รับปากว่า จะค่อยๆแจกแจงรายละเอียดไปเป็นส่วนๆ ดังนั้น ผมจึงขอยก บทความที่ผมเขียนเอาไว้เป็นบทนำ ให้คนทั้วๆไปได้มีโอกาสอ่านก่อน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ผมจะค่อยๆเขียนลงไปรวมไว้ในกระทู้นี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับสมาชิกทุกท่านที่สนใจนะครับ และขอให้ท่านสมาชิกท่านใดที่มีข้อมูลที่จะเสริม หรือ ติเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผมรู้ผิดๆ เข้ามาต่อยอดได้เลยนะครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ

************************************

อาการนี้ บ่งถึงว่า ระบบระบายความร้อนยังไม่ดีพอครับ

หม้อน้ำ 3 ช่อง ก็เป็นตัวช่วยระบายความร้อนตัวหนึ่ง (น้ำมากขึ้น) แต่ความห่างของครีบระบายก็จะน้อยลงด้วย จึงแทนที่จะเป็นตัวระบายความร้อน ก็อาจจะเป็นตัวสะสมความร้อนมากขึ้นไปอีกก็ได้ครับ ถ้าช่องระหว่างครีบหม้อมน้ำหนีบติดกันมาก หรือ ระหว่างช่องมีสิ่งสกปรกครับ มันจะเป็นสะสมความร้อนอย่างดีเลยครับ จึงต้องหมั่นดูแลให้ดีดีด้วยครับ
ระหว่างหม้อน้ำทองแดง กับอลูมิเนียม ก็เป็นตัวช่วยระบายความร้อนทั้งคู่ แต่ว่าอลูมิเนียมเป็นโลหะที่ระบายความร้อนได้ดีกว่าท องแดง และดูสวยงามกว่า แต่ว่าเนื้อโลหะจะนิ่มกว่าทองแดงและเวลาแตกรั่วจะซ่อ มปะยาก จนไม่คุ้มซ่อม ส่วนทองแดงจะระบายความร้อนได้น้อยกว่าอลูมิเนียม แต่ซ่อมบำรุงง่ายกว่า และราคาซื้อก็ถูกกว่าด้วยครับ จึงแล้วแต่ผู้ใช้จะเลือกใช้กันครับ (เขียนเผื่อไว้ เพราะคิดว่าจะต้องมีคนถามแน่ครับ)
คอยล์ร้อนของระบบแอร์ก็เป็นอีกตัวหนึ่งครับ ที่อาจจะปิดกั้นระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ เพราะว่า รถบางคันเอามาวางไว้หน้าหม้อน้ำ ซึ่งถ้าพัดลมระบายความร้อนของคอยล์ร้อนทำงานได้ดี ก็คิดว่าหมดปัญหาครับ แต่บางครั้ง นอกจากพัดลมระบายความร้อนของคอยล์ร้อนทำงานไม่ดีแล้ว ครีบระบายความร้อนของคอยล์ร้อย ยังอาจจะหนีบติดกันมากๆ กระทั่งไปปิดปังอากาศที่จะระบายความร้อนหม้อน้ำได้คร ับ

ระบบพัดลมระบายความร้อน ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ช่วยระบายความร้อนครับ ตัวบังลมก็เช่นกันครับ คุณแน่ใจมั้ยว่าพัดลมระบายความร้อนทำงานได้เต็มประสิ ทธิภาพของระบบระบายความร้อน (ไม่ใช่เต็มประสิทธิภาพของพัดลมนะครับ) วิธีดูว่าพัดลมระบายความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพมั้ยน ั้น ให้ดูดังนี้ครับ
ขับรถใช้ความเร็วจนกระทั่งเข็มความร้อนขึ้นถึงระดับป กติที่เคยขึ้น จากนั้นให้หยุดรถ อย่าดับเครื่อง ให้เครื่องยนต์เดินเบาเช่นนั้นไปประมาณ ครึ่งชม. ดูที่เข็มวัดความร้อนว่า เลื่อนขึ้นจากเดิมมั้ย ถ้านิ่งอยู่ที่เดิม ก็แสดงว่า พัดลมระบายความร้อนของรถเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพค รับ

การไหลเวียนของอากาศ ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ช่วยให้ระบบสะสมความร้อนลดลง ก็เท่ากับเป็นตัวระบายความร้อนทางอ้อมครับ ธรรมชาติของอุณหภูมิแล้ว ความร้อนจะเบากว่าความเย็น จึงมักจะลอยตัวสูงขึ้น แผ่นโลหะเป็นตัวซับและคายความร้อนได้เร็ว แผ่นยางโดยเฉพาะภายในยางมีรูๆนั้นนอกจากจะกันความร้อ นได้ดีแล้ว แต่ก็อาจจะเป็นตัวปิดกั้นการไหลเวียนของอุณหภูมิได้ค รับ
ที่เกริ่นเช่นนี้ ก็เพราะจะอธิบายว่า เวลาเครื่องยนต์ทำงาน ก็จะเกิดความร้อน อากาศที่ร้อนจะเบาจึงจะลอยตัวสูงขึ้น ไปสะสมอยู่ที่บริเวณฝากระโปรงรถซึ่งเป็นโลหะ โลหะก็จะซับความร้อนและด้านบนของฝากระโปรงก็จะปะทะอา กาศเย็นที่รถวิ่งผ่าน เป็นตัวช่วยระบายความร้อนออกไปอย่างรวดเร็ว อากาศเย็นกว่าด้านล่างเครื่องยนต์ก็จะเข้ามาแทนที่ ทำให้การไหลเวียนของอากาศจึงเป็นตัวช่วยระบายความร้อ นทางอ้อม แต่ว่า ผู้ใช้รถบางคน (รวมทั้งผมด้วย) ก็มีอีกทฤษฎีหนึ่งคือว่า ฝากระโปรงที่เป็นโลหะก็จริง เป็นตัวซับและระบายความร้อนได้เร็วก็จริงครับ แต่การที่ซับความร้อนไว้ตลอดเวลาตอนกลางวัน ซึ่งมีแดดเปรี้ยงๆสาดลงมาที่ฝากระโปรงด้วย อาจจะทำให้สีของรถเสื่อมสภาพเร็วขึ้น จึงทำการหายางฟองน้ำมาปิดไว้ที่ด้านหลังฝากระโปรง ก็เท่ากับป้องกันความร้อนไม่ให้โลหะซับความร้อนไปครั บ แต่หลายคนลืมนึกไปว่า แบบนี้มันก็สะสมความร้อนนะสิครับ จะปล่อยให้ลำพังหม้อน้ำและพัดลมเป็นตัวช่วยระบายนั้น ไม่พอหรอกครับ ความร้อนสะสมตัวนี้เองครับ เมื่อสะสมมากๆ การระบายความร้อนของเครื่องยนต์ก็จะลดลง น้ำในหม้อพักก็อาจจะมีแรงดันสูงขึ้น บางครั้งขนาดดันทิ้งไปเลยก็มีครับ บางคนก็แก้ที่ปลายเหตุ (รวมทั้งผมด้วยครับ) โดยการ แง้มฝากระโปรงขึ้นนิดนึง เพื่อให้ยางฝองน้ำห่างจากขอบรอบๆฝากระโปรง ให้มีช่องว่างระบายความร้อนออกไป ส่วนผมเอง ไม่อยากทำเช่นนั้น มันดูไม่สวยครับ เลยเจาะช่องระบายลมออกทางข้างแก้มเป็นครีบระบายลมทั้ งซ้ายขวาครับ การสะสมความร้อนใต้ฝากระโปรงก็หมดไปได้ครับ ช่วยให้การไหลเวียนของอากาศไหลเวียนได้ดีครับ

ฝาหม้อน้ำ ก็เป็นตัวช่วยกันแรงดันน้ำเวลาความร้อนขึ้นสูงๆด้วยค รับ เครื่องยนต์ที่ใช้เทอร์โบ จะใช้ฝาหม้อน้ำที่รับแรงดันได้ถึง 0.9 บาร์ บางคันก็ใช้ 1.0 หรือ 1.1 บาร์ แต่ก็ต้องดูแลท่อยางต่างๆให้ได้คุณภาพอยู่เสมอด้วยคร ับ เพราะว่าแรงดันมากๆ เมื่อออกที่ฝาหม้อน้ำไม่ได้ มันก็จะไปดันหาจุดอ่อนที่สุดครับ (เหมือนลูกโป่งที่ถูกบีบเอาไว้ครับ ตรงไหนที่อ่อนกว่าก็จะปลิ้นโป่งที่ตรงนั้นครับ)

น้ำยากันสนิมหม้อน้ำ ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ช่วยระบบระบายความร้อนเครื่องยน ต์ ทำไมผมจึงกล่าวเช่นนั้น ก็เพราะว่า น้ำยากันสนิมปัจจุบัน มีผสมสารเคมีที่ช่วยในการทำให้จุดเดือดของน้ำช้าลง (ทำให้แรงดันน้ำลดช้าลงระดับหนึ่ง) บางคนต้องการประหยัดตัวนี้ จึงทำให้ส่วนผสมระหว่างน้ำยากันสนิมกับน้ำไม่ได้สัดส ่วนตามสูตรของผู้ผลิตน้ำยากำหนดไว้ครับ (ส่วนผสมของน้ำให้ดูที่ข้างกระป๋องมีเขียนไว้) แต่เดี๋ยวนี้ บางบริษัทรู้ถึงนิสัยของผู้ใช้ และอาจจะคิดว่า บางคนคงไม่ได้อ่านเสปคข้างกระป๋อง จึงใช้วิธีผสมสำเร็จเอามาขายเลย น้ำยาประเภทนี้ ให้เทใส่ลงหม้อน้ำเพียวๆ ไม่ต้องผสมใดใดทั้งสิ้นครับ แค่บางคนก็ยังอยากประหยัด ผสมน้ำลงไปอีกก็มีครับ ทำให้คุณสมบัตินี้เสียไปครับ
อายุการใช้งานของน้ำยากันสนิมนี้ก็เช่นกันครับ บางคนใช้ 2 ปี ยังไม่คิดจะเปลี่ยนเลยครับ เพราะคิดว่าสีของน้ำยา ยังไม่เปลี่ยน คุณสมบัติของมันก็ต้องคงที่ ซึ่งเข้าใจผิดครับ จริงๆแล้ว ไม่ว่าอะไรในโลกนี้ มีเกิดแก่เจ็บตายทั้งนั้นครับ ไม่มีจีรังยั่งยืนหรอกครับ ไม่เว้นแม้แต่น้ำยาหม้อน้ำครับ มันจะเสื่อมคุณภาพไปเรื่อยๆตั้งแต่ถูกความร้อนครับ อายุการใช้งานที่เหมาะสมของมัน อยู่ที่ 6 เดือนขึ้นไปถึง 1 ปีครับ

วาล์วน้ำก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ช่วยระบายความร้อนครับ แต่หน้าที่หลักของวาล์วน้ำจริงๆแล้วคือ ตัวควบคุมความร้อนให้คงที่ครับ อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้ในกระทู้อื่นมาแล้ว ว่า เครื่องยนต์จะทำงานได้ดีเต็มที่ จะต้องมีความร้อนระดับหนึ่ง วาล์วน้ำตัวนี้จึงเป็นตัวทำให้ที่เก็บกักน้ำเอาไว้ให ้สะสมความร้อนจนถึงระดับที่เครื่องยนต์ต้องการ (โรงงานจะระบุสเปคความร้อนเอาไว้ครับ) พออุณหภูมิความร้อนสูงได้ระดับแล้ว วาล์วน้ำก็จะค่อยๆเปิด เพื่อระบายเอาความร้อนของน้ำเข้าหม้อน้ำ ไประบายความร้อนอีกที และใช้ความร้อนที่เข้าไปในหม้อน้ำนี้ดันเอาความเย็นก ว่าของน้ำ (อยู่ด้านล่างหม้อน้ำ)ไหลเวียนเข้ากลับเข้าไปช่วยผสม ระบายความร้อนของเครื่อง เมื่อไหร่ที่อุณหภูมิเครื่องลดลง วาล์วน้ำก็จะค่อยๆหรี่ลงเรือยๆจนกระทั่งปิด วนไปวนมาเช่นนี้ตลอดครับ
แต่วาล์วน้ำก็เป็นสสารตัวหนึ่งของโลกนี้เช่นกัน มีเกิดแก่เจ็บตาย ไม่จีรังเช่นกันครับ บางทีมันอาจจะแค่เจ็บ (เปิดวาล์วไม่เต็มที่ หรือปิดวาล์วไม่สนิท) หรือบางทีมันอาจจะตายก็ได้ครับ (เปิดแล้วไม่ปิดเลย หรือ ปิดแล้วไม่ยอมเปิดเลย) ฉะนั้นจึงต้องควรดูแลรักษาหรือเปลี่ยนใหม่บ้างนะครับ

*************************

บทความระบบระบายความร้อนด้านบนนี้ เป็นบทความสรุปย่อๆแบบทั่วๆไปครับ

Khun_Thian 03-07-2013 11:42

แนะนำตัวแล้ว รอสต๊าฟปรับเป็นตัวฟ้าครับ นานไหม...ไม่รู้เพราะผมไม่ใช่สต๊าฟครับ :smile:


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:40

Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels