ClubJZ Forums

ClubJZ Forums (http://www.ClubJZ.net/index.php)
-   ClubJZ! Useful Information (http://www.ClubJZ.net/forumdisplay.php?f=14)
-   -   แก้ความร้อนไม่จบครับ (http://www.ClubJZ.net/showthread.php?t=71550)

joe-civil@jz 03-07-2013 11:52

ใจเย็นๆครับ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป อ่านเยอะๆครับ แล้วมาแชร์เมื่อการแก้ไขปัญหานั้นๆได้ลงมือปฏิบัติไป เรียบร้อยแล้ว

Nhong_RY 03-07-2013 20:29

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Khun_Thian (872773 กระทู้)
นี่คือข้อมูลเล็กๆน้อยๆในบ้านหลังนี้หรือหอสมุดเครื่ องJZก็ว่าได้...คุณเคยได้เข้าไปอ่านหรือยังครับ... :smile:
*ที่มา..."สารบัญการสืบค้นข้อมูล" ซึ่งสต๊าฟชื่อ"Moonlight"ได้ทำไว้ครับ welcome

หมวดว่าเรื่องการระบายความร้อนของเครื่องยนต์
มีสมาชิกท่านหนึ่งตั้งกระทู้ถามไว้ เกี่ยวกับเรื่องการระบายความร้อน ซึ่งผมก็ตอบไปตามสาระข้างล่างนี้ แต่มีสมาชิกท่านอื่นๆ ถามต่อยอดเป็นการส่วนตัว ซึ่งผมก็รับปากว่า จะค่อยๆแจกแจงรายละเอียดไปเป็นส่วนๆ ดังนั้น ผมจึงขอยก บทความที่ผมเขียนเอาไว้เป็นบทนำ ให้คนทั้วๆไปได้มีโอกาสอ่านก่อน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ผมจะค่อยๆเขียนลงไปรวมไว้ในกระทู้นี้ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับสมาชิกทุกท่านที่สนใจนะครับ และขอให้ท่านสมาชิกท่านใดที่มีข้อมูลที่จะเสริม หรือ ติเพื่อแก้ไขสิ่งที่ผมรู้ผิดๆ เข้ามาต่อยอดได้เลยนะครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ

************************************

อาการนี้ บ่งถึงว่า ระบบระบายความร้อนยังไม่ดีพอครับ

หม้อน้ำ 3 ช่อง ก็เป็นตัวช่วยระบายความร้อนตัวหนึ่ง (น้ำมากขึ้น) แต่ความห่างของครีบระบายก็จะน้อยลงด้วย จึงแทนที่จะเป็นตัวระบายความร้อน ก็อาจจะเป็นตัวสะสมความร้อนมากขึ้นไปอีกก็ได้ครับ ถ้าช่องระหว่างครีบหม้อมน้ำหนีบติดกันมาก หรือ ระหว่างช่องมีสิ่งสกปรกครับ มันจะเป็นสะสมความร้อนอย่างดีเลยครับ จึงต้องหมั่นดูแลให้ดีดีด้วยครับ
ระหว่างหม้อน้ำทองแดง กับอลูมิเนียม ก็เป็นตัวช่วยระบายความร้อนทั้งคู่ แต่ว่าอลูมิเนียมเป็นโลหะที่ระบายความร้อนได้ดีกว่าท องแดง และดูสวยงามกว่า แต่ว่าเนื้อโลหะจะนิ่มกว่าทองแดงและเวลาแตกรั่วจะซ่อ มปะยาก จนไม่คุ้มซ่อม ส่วนทองแดงจะระบายความร้อนได้น้อยกว่าอลูมิเนียม แต่ซ่อมบำรุงง่ายกว่า และราคาซื้อก็ถูกกว่าด้วยครับ จึงแล้วแต่ผู้ใช้จะเลือกใช้กันครับ (เขียนเผื่อไว้ เพราะคิดว่าจะต้องมีคนถามแน่ครับ)
คอยล์ร้อนของระบบแอร์ก็เป็นอีกตัวหนึ่งครับ ที่อาจจะปิดกั้นระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ได้ เพราะว่า รถบางคันเอามาวางไว้หน้าหม้อน้ำ ซึ่งถ้าพัดลมระบายความร้อนของคอยล์ร้อนทำงานได้ดี ก็คิดว่าหมดปัญหาครับ แต่บางครั้ง นอกจากพัดลมระบายความร้อนของคอยล์ร้อนทำงานไม่ดีแล้ว ครีบระบายความร้อนของคอยล์ร้อย ยังอาจจะหนีบติดกันมากๆ กระทั่งไปปิดปังอากาศที่จะระบายความร้อนหม้อน้ำได้คร ับ

ระบบพัดลมระบายความร้อน ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ช่วยระบายความร้อนครับ ตัวบังลมก็เช่นกันครับ คุณแน่ใจมั้ยว่าพัดลมระบายความร้อนทำงานได้เต็มประสิ ทธิภาพของระบบระบายความร้อน (ไม่ใช่เต็มประสิทธิภาพของพัดลมนะครับ) วิธีดูว่าพัดลมระบายความร้อนได้เต็มประสิทธิภาพมั้ยน ั้น ให้ดูดังนี้ครับ
ขับรถใช้ความเร็วจนกระทั่งเข็มความร้อนขึ้นถึงระดับป กติที่เคยขึ้น จากนั้นให้หยุดรถ อย่าดับเครื่อง ให้เครื่องยนต์เดินเบาเช่นนั้นไปประมาณ ครึ่งชม. ดูที่เข็มวัดความร้อนว่า เลื่อนขึ้นจากเดิมมั้ย ถ้านิ่งอยู่ที่เดิม ก็แสดงว่า พัดลมระบายความร้อนของรถเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพค รับ

การไหลเวียนของอากาศ ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ช่วยให้ระบบสะสมความร้อนลดลง ก็เท่ากับเป็นตัวระบายความร้อนทางอ้อมครับ ธรรมชาติของอุณหภูมิแล้ว ความร้อนจะเบากว่าความเย็น จึงมักจะลอยตัวสูงขึ้น แผ่นโลหะเป็นตัวซับและคายความร้อนได้เร็ว แผ่นยางโดยเฉพาะภายในยางมีรูๆนั้นนอกจากจะกันความร้อ นได้ดีแล้ว แต่ก็อาจจะเป็นตัวปิดกั้นการไหลเวียนของอุณหภูมิได้ค รับ
ที่เกริ่นเช่นนี้ ก็เพราะจะอธิบายว่า เวลาเครื่องยนต์ทำงาน ก็จะเกิดความร้อน อากาศที่ร้อนจะเบาจึงจะลอยตัวสูงขึ้น ไปสะสมอยู่ที่บริเวณฝากระโปรงรถซึ่งเป็นโลหะ โลหะก็จะซับความร้อนและด้านบนของฝากระโปรงก็จะปะทะอา กาศเย็นที่รถวิ่งผ่าน เป็นตัวช่วยระบายความร้อนออกไปอย่างรวดเร็ว อากาศเย็นกว่าด้านล่างเครื่องยนต์ก็จะเข้ามาแทนที่ ทำให้การไหลเวียนของอากาศจึงเป็นตัวช่วยระบายความร้อ นทางอ้อม แต่ว่า ผู้ใช้รถบางคน (รวมทั้งผมด้วย) ก็มีอีกทฤษฎีหนึ่งคือว่า ฝากระโปรงที่เป็นโลหะก็จริง เป็นตัวซับและระบายความร้อนได้เร็วก็จริงครับ แต่การที่ซับความร้อนไว้ตลอดเวลาตอนกลางวัน ซึ่งมีแดดเปรี้ยงๆสาดลงมาที่ฝากระโปรงด้วย อาจจะทำให้สีของรถเสื่อมสภาพเร็วขึ้น จึงทำการหายางฟองน้ำมาปิดไว้ที่ด้านหลังฝากระโปรง ก็เท่ากับป้องกันความร้อนไม่ให้โลหะซับความร้อนไปครั บ แต่หลายคนลืมนึกไปว่า แบบนี้มันก็สะสมความร้อนนะสิครับ จะปล่อยให้ลำพังหม้อน้ำและพัดลมเป็นตัวช่วยระบายนั้น ไม่พอหรอกครับ ความร้อนสะสมตัวนี้เองครับ เมื่อสะสมมากๆ การระบายความร้อนของเครื่องยนต์ก็จะลดลง น้ำในหม้อพักก็อาจจะมีแรงดันสูงขึ้น บางครั้งขนาดดันทิ้งไปเลยก็มีครับ บางคนก็แก้ที่ปลายเหตุ (รวมทั้งผมด้วยครับ) โดยการ แง้มฝากระโปรงขึ้นนิดนึง เพื่อให้ยางฝองน้ำห่างจากขอบรอบๆฝากระโปรง ให้มีช่องว่างระบายความร้อนออกไป ส่วนผมเอง ไม่อยากทำเช่นนั้น มันดูไม่สวยครับ เลยเจาะช่องระบายลมออกทางข้างแก้มเป็นครีบระบายลมทั้ งซ้ายขวาครับ การสะสมความร้อนใต้ฝากระโปรงก็หมดไปได้ครับ ช่วยให้การไหลเวียนของอากาศไหลเวียนได้ดีครับ

ฝาหม้อน้ำ ก็เป็นตัวช่วยกันแรงดันน้ำเวลาความร้อนขึ้นสูงๆด้วยค รับ เครื่องยนต์ที่ใช้เทอร์โบ จะใช้ฝาหม้อน้ำที่รับแรงดันได้ถึง 0.9 บาร์ บางคันก็ใช้ 1.0 หรือ 1.1 บาร์ แต่ก็ต้องดูแลท่อยางต่างๆให้ได้คุณภาพอยู่เสมอด้วยคร ับ เพราะว่าแรงดันมากๆ เมื่อออกที่ฝาหม้อน้ำไม่ได้ มันก็จะไปดันหาจุดอ่อนที่สุดครับ (เหมือนลูกโป่งที่ถูกบีบเอาไว้ครับ ตรงไหนที่อ่อนกว่าก็จะปลิ้นโป่งที่ตรงนั้นครับ)

น้ำยากันสนิมหม้อน้ำ ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ช่วยระบบระบายความร้อนเครื่องยน ต์ ทำไมผมจึงกล่าวเช่นนั้น ก็เพราะว่า น้ำยากันสนิมปัจจุบัน มีผสมสารเคมีที่ช่วยในการทำให้จุดเดือดของน้ำช้าลง (ทำให้แรงดันน้ำลดช้าลงระดับหนึ่ง) บางคนต้องการประหยัดตัวนี้ จึงทำให้ส่วนผสมระหว่างน้ำยากันสนิมกับน้ำไม่ได้สัดส ่วนตามสูตรของผู้ผลิตน้ำยากำหนดไว้ครับ (ส่วนผสมของน้ำให้ดูที่ข้างกระป๋องมีเขียนไว้) แต่เดี๋ยวนี้ บางบริษัทรู้ถึงนิสัยของผู้ใช้ และอาจจะคิดว่า บางคนคงไม่ได้อ่านเสปคข้างกระป๋อง จึงใช้วิธีผสมสำเร็จเอามาขายเลย น้ำยาประเภทนี้ ให้เทใส่ลงหม้อน้ำเพียวๆ ไม่ต้องผสมใดใดทั้งสิ้นครับ แค่บางคนก็ยังอยากประหยัด ผสมน้ำลงไปอีกก็มีครับ ทำให้คุณสมบัตินี้เสียไปครับ
อายุการใช้งานของน้ำยากันสนิมนี้ก็เช่นกันครับ บางคนใช้ 2 ปี ยังไม่คิดจะเปลี่ยนเลยครับ เพราะคิดว่าสีของน้ำยา ยังไม่เปลี่ยน คุณสมบัติของมันก็ต้องคงที่ ซึ่งเข้าใจผิดครับ จริงๆแล้ว ไม่ว่าอะไรในโลกนี้ มีเกิดแก่เจ็บตายทั้งนั้นครับ ไม่มีจีรังยั่งยืนหรอกครับ ไม่เว้นแม้แต่น้ำยาหม้อน้ำครับ มันจะเสื่อมคุณภาพไปเรื่อยๆตั้งแต่ถูกความร้อนครับ อายุการใช้งานที่เหมาะสมของมัน อยู่ที่ 6 เดือนขึ้นไปถึง 1 ปีครับ

วาล์วน้ำก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่ช่วยระบายความร้อนครับ แต่หน้าที่หลักของวาล์วน้ำจริงๆแล้วคือ ตัวควบคุมความร้อนให้คงที่ครับ อย่างที่ผมเคยกล่าวไว้ในกระทู้อื่นมาแล้ว ว่า เครื่องยนต์จะทำงานได้ดีเต็มที่ จะต้องมีความร้อนระดับหนึ่ง วาล์วน้ำตัวนี้จึงเป็นตัวทำให้ที่เก็บกักน้ำเอาไว้ให ้สะสมความร้อนจนถึงระดับที่เครื่องยนต์ต้องการ (โรงงานจะระบุสเปคความร้อนเอาไว้ครับ) พออุณหภูมิความร้อนสูงได้ระดับแล้ว วาล์วน้ำก็จะค่อยๆเปิด เพื่อระบายเอาความร้อนของน้ำเข้าหม้อน้ำ ไประบายความร้อนอีกที และใช้ความร้อนที่เข้าไปในหม้อน้ำนี้ดันเอาความเย็นก ว่าของน้ำ (อยู่ด้านล่างหม้อน้ำ)ไหลเวียนเข้ากลับเข้าไปช่วยผสม ระบายความร้อนของเครื่อง เมื่อไหร่ที่อุณหภูมิเครื่องลดลง วาล์วน้ำก็จะค่อยๆหรี่ลงเรือยๆจนกระทั่งปิด วนไปวนมาเช่นนี้ตลอดครับ
แต่วาล์วน้ำก็เป็นสสารตัวหนึ่งของโลกนี้เช่นกัน มีเกิดแก่เจ็บตาย ไม่จีรังเช่นกันครับ บางทีมันอาจจะแค่เจ็บ (เปิดวาล์วไม่เต็มที่ หรือปิดวาล์วไม่สนิท) หรือบางทีมันอาจจะตายก็ได้ครับ (เปิดแล้วไม่ปิดเลย หรือ ปิดแล้วไม่ยอมเปิดเลย) ฉะนั้นจึงต้องควรดูแลรักษาหรือเปลี่ยนใหม่บ้างนะครับ

*************************

บทความระบบระบายความร้อนด้านบนนี้ เป็นบทความสรุปย่อๆแบบทั่วๆไปครับ

welcome

se278 03-07-2013 20:43

ผมไม่ทราบว่าเขามีกระทู้เฉพาะอยู่แล้ว เลยให้ความเห็นไป ต้องขออภัยอย่างสูง เดี๋ยวมีเวลาจะตามลบให้ ครับ welcome

Nhong_RY 03-07-2013 20:56

รถของเพื่อนผมก็เคยแก้ปัณหาความร้อนไม่จบครับ ทั้งย้ายแผงแอร์ก็แล้ว แต่มาจบตรงเปลี่ยนหม้อเป็น 2 ช่องพร้อมทั้งขยายหม้อน้ำออกด้านข้างอีก (เดิมเป็นสามช่อง) หน้อน้ำของผมยังไม่อยากเปลี่ยนเลย เพื่งเปลี่ยนตอนวางเครื่องเองครับ ลูกนึงหลายตังอยู่ แต่อยากถามพี่ๆว่า ระหว่างเปลี่ยนหม้อน้ำเป็น สองช่อง กับย้ายแผงแอร์ไปไว้ใต้รถ ผมควรจะทำแบบไหน่ดีกว่า เพราะอะไร ขอบคุณร่วงหน้าครับ

Pong79 03-07-2013 22:01

หม้อน้ำตัวขับเคลื่อนสี่ล้อมันยาวถึงคานล่างนะครับ ถ้าเอารุ่นตัวขับสองล้อมาใส่มันจะสั้นกว่า ผมตอนได้รถมาใหม่ๆเจ้าของเดิมก็ใส่ลูกสั้นมาทำให้จุน ้ำได้น้อย ตอนนั้นยังใช้เกียร์เดิม5L ด้วย ขับเกิน 120 อาการไม่ดีเหมือนกัน ยิ่งเปลี่ยนมาเป็นเกียร์ A/T ยิ่งหนักร้อนหนักกว่าเดิม แต่ผมคิดว่าหม้อน้ำของคุณไม่น่าจะผิดมา

ต่อในเรื่องความร้อน จริงครับในรถบางคันถึงย้ายแผงแอร์ก็ใช่ว่าจะจบเสมอไป ผมเองคันหนึ่งก็ย้ายแผงแอร์ไปไว้ใต้ท้อง ความร้อนก็ลดแต่ก็ยังไม่ได้ดังตั้งใจ หาวิธีอื่นมาเสริมอีกตอนนี้ก็ค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว

อีกคันไม่ย้ายแผงแอร์ติดตั้งมาจากโรงงานอย่างไงอย่าง นั้น แต่หน้ารถพอมีพื้นที่บ้าง ใส่พัดลมดูด 3 ตัว เป่าหน้าแบบดีๆหน่อยอีก1ตัวก็เอาอยู่เหมือนกัน

แผงแอร์ถ้าเป็นแบบรุ่นเก่าและแบบหลอดกลมๆ 2 แถวซ้อนกันอยู่ด้วยนี่ตัวบังทางลมเลย เทียบกับแบบหลอดแบนๆนี่ดีกว่า แต่ดีที่สุดก็แบบลามิเนทเหมือนรถรุ่นใหม่ๆซึ่งไม่หนา มาก ลมผ่านได้ดี

ถ้าตั้งใจจะย้ายแผงแอร์จริง ผมขอให้ความเห็นว่า ถอดกระจังหน้า ทดลองวิ่งแบบไม่มีแผงร้อนแอร์ขวางอยู่ แล้วดูอาการว่ามันดีขึ้นไหม? ถ้ามันไม่ดีขึ้นการย้ายไปก็อาจไม่เกิดประโยชน์มากนัก อาจต้องมองหาวิธีอื่นเช่น เพิ่มพัดลมเป่า / ใช้พัดลมไฮโดรลิค หรือ ใช้หม้อน้ำสองลูกแล้วใช้ปั้มน้ำไฟฟ้าช่วย / เจาะกระโปรงใส่สคูปดักลม / เพิ่มออยเครื่องยนต์

* ผมสงสัยอยู่อย่างหนึ่งว่าใช้พัดลมดูด 2 ตัวของนิสสันซึ่งพื้นที่หลังหม้อน้ำน่าจะไม่พอ หรือว่ารถคันนี้ขยับเครื่องถอยหลัง

มาตั้งไกลแล้วอีกนิดเดียวผมว่าน่าจะจบได้นะ ใจเย็นๆค่อยๆทำไป เอาใจช่วยครับ...

Khun_Thian 03-07-2013 22:07

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ se278 (872851 กระทู้)
ผมไม่ทราบว่าเขามีกระทู้เฉพาะอยู่แล้ว เลยให้ความเห็นไป ต้องขออภัยอย่างสูง เดี๋ยวมีเวลาจะตามลบให้ ครับ welcome

เอ่่อ...ที่ก๊อปมาให้ดูเพื่อจะบอกว่ายังมีข้อมูลที่ห ลายๆคนยังไม่เคยได้เห็นได้อ่านเท่านั้นครับอยากให้ลอ งเข้าไปศึกษาดูเพื่อปรับใช้กับรถของตัวเอง จริงๆแล้วข้อมูลตรงนี้ก็ใช้ไม่ได้จริงกับรถทุกๆคันคร ับเพราะเป็นรถวางเครื่องซึ่งด้วยขนาดห้องเครื่องของร ถแต่ละคันไม่เท่ากันทำให้วางออกมาแล้วเจอปัญหาคล้ายๆ กันแต่ไม่ได้มาจากจุดเดียวกันก็มีเยอะครับ "การที่ช่วยๆกันแชร์ความรู้ที่พบเจอก็เป็นทางช่วยแก้ป ัญหาได้ครับ" ตรงที่ผมก๊อปมามันคือหลักการตามทฤษฎีครับต้องไปปรับใ ช้กับรถตัวเองอีก อย่างผมหม้อน้ำเนียม2ช่องจุไม่ถึง8ลิตรตามสเปกโรงงาน พัดลม3+1แอร์ วาล์วน้ำ76 ซัดๆยัง100กว่าเลยครับ ;)

Nhong_RY 05-07-2013 16:13

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Pong79 (872865 กระทู้)
หม้อน้ำตัวขับเคลื่อนสี่ล้อมันยาวถึงคานล่างนะครับ ถ้าเอารุ่นตัวขับสองล้อมาใส่มันจะสั้นกว่า ผมตอนได้รถมาใหม่ๆเจ้าของเดิมก็ใส่ลูกสั้นมาทำให้จุน ้ำได้น้อย ตอนนั้นยังใช้เกียร์เดิม5L ด้วย ขับเกิน 120 อาการไม่ดีเหมือนกัน ยิ่งเปลี่ยนมาเป็นเกียร์ A/T ยิ่งหนักร้อนหนักกว่าเดิม แต่ผมคิดว่าหม้อน้ำของคุณไม่น่าจะผิดมา

ต่อในเรื่องความร้อน จริงครับในรถบางคันถึงย้ายแผงแอร์ก็ใช่ว่าจะจบเสมอไป ผมเองคันหนึ่งก็ย้ายแผงแอร์ไปไว้ใต้ท้อง ความร้อนก็ลดแต่ก็ยังไม่ได้ดังตั้งใจ หาวิธีอื่นมาเสริมอีกตอนนี้ก็ค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว

อีกคันไม่ย้ายแผงแอร์ติดตั้งมาจากโรงงานอย่างไงอย่าง นั้น แต่หน้ารถพอมีพื้นที่บ้าง ใส่พัดลมดูด 3 ตัว เป่าหน้าแบบดีๆหน่อยอีก1ตัวก็เอาอยู่เหมือนกัน

แผงแอร์ถ้าเป็นแบบรุ่นเก่าและแบบหลอดกลมๆ 2 แถวซ้อนกันอยู่ด้วยนี่ตัวบังทางลมเลย เทียบกับแบบหลอดแบนๆนี่ดีกว่า แต่ดีที่สุดก็แบบลามิเนทเหมือนรถรุ่นใหม่ๆซึ่งไม่หนา มาก ลมผ่านได้ดี

ถ้าตั้งใจจะย้ายแผงแอร์จริง ผมขอให้ความเห็นว่า ถอดกระจังหน้า ทดลองวิ่งแบบไม่มีแผงร้อนแอร์ขวางอยู่ แล้วดูอาการว่ามันดีขึ้นไหม? ถ้ามันไม่ดีขึ้นการย้ายไปก็อาจไม่เกิดประโยชน์มากนัก อาจต้องมองหาวิธีอื่นเช่น เพิ่มพัดลมเป่า / ใช้พัดลมไฮโดรลิค หรือ ใช้หม้อน้ำสองลูกแล้วใช้ปั้มน้ำไฟฟ้าช่วย / เจาะกระโปรงใส่สคูปดักลม / เพิ่มออยเครื่องยนต์

* ผมสงสัยอยู่อย่างหนึ่งว่าใช้พัดลมดูด 2 ตัวของนิสสันซึ่งพื้นที่หลังหม้อน้ำน่าจะไม่พอ หรือว่ารถคันนี้ขยับเครื่องถอยหลัง

มาตั้งไกลแล้วอีกนิดเดียวผมว่าน่าจะจบได้นะ ใจเย็นๆค่อยๆทำไป เอาใจช่วยครับ...

ใช้ตัดคานบนคานล่างแล้วเฉื่อนคัลซีออกข้างระครึ่ง จึงพอจะมีที่เอาลงได้ครับ

se278 05-07-2013 16:20

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Khun_Thian (872868 กระทู้)
เอ่่อ...ที่ก๊อปมาให้ดูเพื่อจะบอกว่ายังมีข้อมูลที่ห ลายๆคนยังไม่เคยได้เห็นได้อ่านเท่านั้นครับอยากให้ลอ งเข้าไปศึกษาดูเพื่อปรับใช้กับรถของตัวเอง จริงๆแล้วข้อมูลตรงนี้ก็ใช้ไม่ได้จริงกับรถทุกๆคันคร ับเพราะเป็นรถวางเครื่องซึ่งด้วยขนาดห้องเครื่องของร ถแต่ละคันไม่เท่ากันทำให้วางออกมาแล้วเจอปัญหาคล้ายๆ กันแต่ไม่ได้มาจากจุดเดียวกันก็มีเยอะครับ "การที่ช่วยๆกันแชร์ความรู้ที่พบเจอก็เป็นทางช่วยแก้ป ัญหาได้ครับ" ตรงที่ผมก๊อปมามันคือหลักการตามทฤษฎีครับต้องไปปรับใ ช้กับรถตัวเองอีก อย่างผมหม้อน้ำเนียม2ช่องจุไม่ถึง8ลิตรตามสเปกโรงงาน พัดลม3+1แอร์ วาล์วน้ำ76 ซัดๆยัง100กว่าเลยครับ ;)


ลบให้แล้ว ครับ และพยายามตามลบความเห็นที่เกี่ยวกับหม้อน้ำหรือระบบห ล่อเย็น ออกให้แล้ว อาจจะไม่หมด จะพยายามครับ หากพบยกให้ลบก็กรุณาแจ้งทาง PM ด้วยครับ

ที่ผมชอบให้ความเห็นเรื่องความร้อน ก็เพราะผมปล้ำกับมันมานับยี่สิบปี โดยเฉพาะสมัยเอาแซทเทริน 4G32 ไปกระโดดเล่น แข่งแรลลี่ สมัยเด็กที่บ้านเป็นอู่ ผมพ่อส่งให้เรียนโยธา ไม่อยากให้ลูกแย่งทางหากินกัน แต่แม้จะไม่ได้เรียนมาทางนี้แต่ก็พอได้จับมาบ้าง ก็เลยแสดงความเห็นไป โดยไม่ศึกษาก่อนว่ามีกระทู้เป็นการเฉพาะและมีผู้รู้ใ ห้ความเห็นไว้หมดแล้ว ก็ต้องขอกราบอภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ และจะระมัดระวังในการแสดงความเห็น ครับ

ผมอายุมากแล้ว อีกปีสองปีก็เกษียน เสียดายประสพการณ์ที่มีอยู่ อย่างแบ่งปันก็แค่นี้เอง ครับwelcome

Nhong_RY 05-07-2013 16:38

ตอนนี้มีเรื่องรบกวนพี่ๆอย่างครับ คือผมติดเครื่องรถตอนเช้า พอเครื่องเริ่มร้อน จะมีเสี่ยงดัง ก็องๆๆๆๆที่เครื่อง ดังๆ แล้วหาย แล้วก็ดัง ก็องๆๆๆๆอีก จะเป็นที่รอบเดินเบาเท่านั้น พอเร่งเครื่องจะไม่ได้ยินเสี้ยง ให้ช่างอู่ที่1ดูบอกว่าเสี่ยงดังมาจากในเครื่องตรงข้ อเหวี่ยง ต้องทำใจ ช่าง
อู่ที่2ดูบอกว่าดังมาจากตรงฝาหน้า อาจจะเป็นที่สายพานหรือมูเล่ หย่อนหรือหลวม ต้องรื้อดู รบกวนพี่ๆช่วยวิเคราห์ทีครับ ทุกวันนี้เสื่ยงดังๆหายๆอยู่ครับ(คอยคิวที่อู่2อยู่) welcome

Nhong_RY 05-07-2013 20:41

ต้องขอขอบคุณ คุณอา se278 ครับที่แนะนำและให้ความรู้เพื่ม กับคนที่เข้ามาใช้เครื่อง เจแซด มือไหม่ได้มีความรู้เพื่มครับ (รถมีปัญหาก็ต้องถามผู้รู้ทุกๆท่านครับ จะได้ซ่อมให้ตรงจุด ขอบคุณอีกครังครับ)

Apple JZ Power 05-07-2013 21:01

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ se278 (873077 กระทู้)
ลบให้แล้ว ครับ และพยายามตามลบความเห็นที่เกี่ยวกับหม้อน้ำหรือระบบห ล่อเย็น ออกให้แล้ว อาจจะไม่หมด จะพยายามครับ หากพบยกให้ลบก็กรุณาแจ้งทาง PM ด้วยครับ

ที่ผมชอบให้ความเห็นเรื่องความร้อน ก็เพราะผมปล้ำกับมันมานับยี่สิบปี โดยเฉพาะสมัยเอาแซทเทริน 4G32 ไปกระโดดเล่น แข่งแรลลี่ สมัยเด็กที่บ้านเป็นอู่ ผมพ่อส่งให้เรียนโยธา ไม่อยากให้ลูกแย่งทางหากินกัน แต่แม้จะไม่ได้เรียนมาทางนี้แต่ก็พอได้จับมาบ้าง ก็เลยแสดงความเห็นไป โดยไม่ศึกษาก่อนว่ามีกระทู้เป็นการเฉพาะและมีผู้รู้ใ ห้ความเห็นไว้หมดแล้ว ก็ต้องขอกราบอภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ และจะระมัดระวังในการแสดงความเห็น ครับ

ผมอายุมากแล้ว อีกปีสองปีก็เกษียน เสียดายประสพการณ์ที่มีอยู่ อย่างแบ่งปันก็แค่นี้เอง ครับwelcome

สังคมแห่งการแบ่งปันครับน้า...(ขออนุญาตเรียกน้านะคร ับ) ข้อมูลจากประสบการณ์มีประโยชน์ที่สุดแล้วครับ

เพื่อนใหม่ๆมากมายที่เข้ามา และน่าจะมีเพื่อนเก่าๆมากมายที่หายไป ข้อมูลมันไม่มีวันจบสิ้นหรอกครับ

สมาชิกใหม่ค้นหาข้อมูลจากกระทู้เก่า สักวันมันก็ต้องมีคนตั้งกระทู้ถามใหม่ๆขึ้นมาอีก เราจะแบ่งปันแชร์ลิงค์ แชร์ประสบการณ์ผมว่าเป็นประโยชน์ทุกทางเลยครับ

สมาชิกค้นหาข้อมูลเก่าๆดูก่อนไม่เจอหรือไม่ตรงทั้งหม ดก็จะได้กล้าโพสถาม น้าทราบตรงส่วนไหนก็ช่วยหลานๆ เยี่ยมแล้วละครับ welcome

A(RT131) 08-10-2013 10:41

--- Update ---


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:26

Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels