ClubJZ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ใช้งานเครื่องยนต์ JZ ทุกรุ่น เพื่อที่จะใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เราหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล และผู้ที่มีปัญหาในการ ใช้งาน เครื่อง JZ ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกๆคนจะได้จาก ClubJZ นี้นั่นคือ มิตรภาพที่เรามีให้กับทุกๆท่านครับ.

Loading
Search In ClubJZ.net


กลับไป   ClubJZ Forums > ClubJZ ! Main Forums > ClubJZ! Useful Information
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน กระทู้ใหม่วันนี้
ประชาสัมพันธ์ ClubJZ!

1. Login สีส้ม และสีฟ้าไม่อนุญาติให้มีลายเซ็นตั้งแต่วันที่ 07/09/09 เป็นต้นไป

2. ขอเชิญ ผู้ใช้งาน ที่ Login เป็นสีส้ม มาแนะนำตัว ( ชื่อ,รถ,เครื่องยนต์ และเบอร์ติดต่อ) เพื่อเปลี่ยนมาเป็น ClubJZ Member ที่นี่ ครับ

3. User ที่สมัครใหม่ รอ Activate ผ่าน Email ทีกรอกมาด้วยนะครับ User นั้นถึงจะใช้งานได้ ครับ



ClubJZ! Useful Information คลังเก็บกระทู้ข้อมูล ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเครื่องยนต์ JZ! ครับ

ตอบกลับ
 
คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
เก่า 21-01-2010, 15:13   #1
traitap
Member
 
วันที่สมัคร: Jun 2008
Car Brand: Corolado
Engine Type: 1 JZ VVTi
ที่อยู่: นนทบุรี
กระทู้: 29
Thanks: 5
Thanked 28 Times in 11 Posts
คะแนน: 0 traitap is on a distinguished road
ถามเรื่องการใช้งานเกียร์ออโต้ เมื่อขึ้นเขาสูงชันครับ

ผมใช้รถ โคโรลาโด 4 ประตู วางเครื่อง 1 เจ วีวีทีไอ (ไม่โบ) พัดลมระบายความร้อนแบบไฟฟ้า 2 ตัว และใช้เฟืองท้ายขนาด 4.56 (41/9) ขอรถกวนถามน้าว่าเมื่อปีใหม่ขับรถไปเชียงใหม่มาครับต อนขับเส้นทางแม่มาลัย-ปายรถวิ่งได้สบายมากไม่มีอาการตัวร้อนใด ๆ ทั้งสิ้น แต่พอแยกเข้าสวนป่าวัดจันทร์ รถวิ่งบนเขามาแล้วประมาณ 90 กิโลเมตรไม่หยุดพัก ทางก็ขึ้นเขาแต่เหมือนช่วงขึ้นเขาบางช่วงชันและช่วงข ึ้นจะยาวเสียหน่อย (ปกติทางบนเขาทั่วไปจะมีช่วงโค้งหักศอกบ้างไม่หักศอก บ้างให้เครื่องรถได้ปรับกำลังตามจังหวะ) ขอถามคุณน้าดังนี้
1. ตอนขึ้นเขาช่วงชันรถมันปรับเปลี่ยนเกียร์ลงจนถึงเกีย ร์ 1 เลยแต่มันก็ไต่ขึ้นไปเรื่อย แต่ทำไมผมกดคันเร่งลงต่อไปขณะที่เกียร์ 1 อยู่ที่รอบเครื่องไม่ถึง 3000 รอบ แต่กดคันเร่งเพิ่มกำลังเครื่องอีกไม่ได้ เป็นเพราะอะไรครับ
2. ขณะที่ใช้งานบนเขา ทุกสภาพความร้อนไม่ขึ้น แต่พัดลมระบายความร้อนทำงานช่วงนั้นนานมากแทบไม่หยุด เลย (รถผมไม่มีตัวเลขบอกอุณหภูมิ) แต่เกจ์วัดอยู่ระดับปกติ แต่คิดว่าเครื่องคงร้อนไม่ต่ำกว่า 82 องศาตลอดแน่ อุณหภูมิในห้องเกียร์ออโต้จะร้อนจนส่งผลให้กำลังรถตก ลงด้วยหรือไม่ และอาจเป็นอันตรายกับเกียร์หรือไม่
3. ถ้าผมอยากต่อ A/T Temp จะต้องฝังเซ็นเซอร์ได้บริเวณไหนหรือเครื่องเจมีอยู่แ ล้วหรือไม่ เพราะมิเตอร์ผมมีไฟบอกสถานะความร้อนของเกียร์อยู่

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณน้า และขอให้มีความสุขตลอดปีใหม่ครับ
traitap is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 2 Users Say Thank You to traitap For This Useful Post:
Lucky (03-06-2011), tfr_jz (06-06-2011)
เก่า 21-01-2010, 15:43   #2
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 19 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
  1. เวลาขึ้นเขาสูงชัน เราต้องมีเทคนิคการใช้เกียร์(ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ M/T หรือ A/T ก็ตามครับ) เพื่อเรียกกำลังเครื่องยนต์, ช่วยให้เกียร์เสื่อมสภาพน้อยที่สุด และช่วยเรื่องระบบเบรคได้ระดับหนึ่งด้วยครับ สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ กด O/D off และลำดับต่อไป ถ้าเห็นว่า ชันมาก ให้กดสวิทช์ Power และลำดับต่อไปถ้ายังเห็นว่า ชันมากกว่านั้นอีก ให้เลื่อนคันเกียร์มาที่ 2 และถ้าต้องเริ่มเคลื่อนตัวรถในระดับที่ชันมากๆ ก็ต้องเลื่อนคันเกียร์มาที่ L ครับ และสิ่งที่ควรจำก็คือ เวลาขึ้นใช้เกียร์อะไร เวลาลงก็ให้ใช้เกียร์นั้นๆครับผม เนื้อหาเกี่ยวกับการใช้งานสวิทช์ Power ดังนั้นขอตอบคำถามข้อนี้ว่า เป็นเพราะว่า คุณใช้ระดับเกียร์ไม่ถูกต้องครับ
  2. การที่พัดลมระบายความร้อนทำงานตลอดเวลานั้น ถือว่า ถูกต้องดีแล้วครับ เนื่องจากว่า เวลาขึ้นเขา ความกดอากาศเปลี่ยน เครื่องยนต์ทำงานหนักมาก แต่กลับวิ่งด้วยความเร็วต่ำ ความร้อนต้องสูงขึ้นแน่ครับ การที่พัดลมช่วยระบายความร้อนดีๆนั้น ก็เป็นตัวช่วยถนอมเครื่องยนต์ได้ระดับหนึ่งครับ และถ้า ออยคูลเลอร์เกียร์ อยู่ในหม้อน้ำ ก็ยิ่งทำให้ การระบายความร้อนของเกียร์ เป็นไปด้วยดีระดับหนึ่งด้วยครับ แต่ว่า ถ้าเป็นออยคูลเลอร์แยก ก็ไม่ต้องกังวลอะไรมาก ถ้าเราใช้เทคนิคการใช้เกียร์เมื่อขึ้นลงเขาสูงชันได้ ถูกต้อง ก็เท่ากับว่า เราได้ถนอมเกียร์ได้ระดับหนึ่งแล้วครับ
  3. การจะติดตั้งเซนเซอร์เช็คความร้อนของน้ำมันเกียร์ สามารถติดตั้งได้ที่ แคร้งน้ำมันเกียร์ หรือที่ท่อที่บำบัดความร้อนแล้วของน้ำมันเกียร์ครับผ ม
__________________
JZM - 5

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moonlight : 21-01-2010 เมื่อ 15:48.
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 12 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post:
chakkrapad (20-05-2013), idea_nova (05-01-2015), krupree (16-04-2010), Lucky (03-06-2011), pae604 (22-01-2010), pookza (22-01-2010), sompol (25-05-2011), tfr_jz (06-06-2011), toei (21-01-2010), vampire258 (21-01-2010), VcoopeR (28-06-2011), wk7000 (21-01-2010)
เก่า 21-01-2010, 16:01   #3
traitap
Member
 
วันที่สมัคร: Jun 2008
Car Brand: Corolado
Engine Type: 1 JZ VVTi
ที่อยู่: นนทบุรี
กระทู้: 29
Thanks: 5
Thanked 28 Times in 11 Posts
คะแนน: 0 traitap is on a distinguished road
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Moonlight อ่านกระทู้
  1. เวลาขึ้นเขาสูงชัน เราต้องมีเทคนิคการใช้เกียร์(ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ M/T หรือ A/T ก็ตามครับ) เพื่อเรียกกำลังเครื่องยนต์, ช่วยให้เกียร์เสื่อมสภาพน้อยที่สุด และช่วยเรื่องระบบเบรคได้ระดับหนึ่งด้วยครับ สิ่งแรกที่ควรทำก็คือ กด O/D off และลำดับต่อไป ถ้าเห็นว่า ชันมาก ให้กดสวิทช์ Power และลำดับต่อไปถ้ายังเห็นว่า ชันมากกว่านั้นอีก ให้เลื่อนคันเกียร์มาที่ 2 และถ้าต้องเริ่มเคลื่อนตัวรถในระดับที่ชันมากๆ ก็ต้องเลื่อนคันเกียร์มาที่ L ครับ และสิ่งที่ควรจำก็คือ เวลาขึ้นใช้เกียร์อะไร เวลาลงก็ให้ใช้เกียร์นั้นๆครับผม เนื้อหาเกี่ยวกับการใช้งานสวิทช์ Power ดังนั้นขอตอบคำถามข้อนี้ว่า เป็นเพราะว่า คุณใช้ระดับเกียร์ไม่ถูกต้องครับ
  2. การที่พัดลมระบายความร้อนทำงานตลอดเวลานั้น ถือว่า ถูกต้องดีแล้วครับ เนื่องจากว่า เวลาขึ้นเขา ความกดอากาศเปลี่ยน เครื่องยนต์ทำงานหนักมาก แต่กลับวิ่งด้วยความเร็วต่ำ ความร้อนต้องสูงขึ้นแน่ครับ การที่พัดลมช่วยระบายความร้อนดีๆนั้น ก็เป็นตัวช่วยถนอมเครื่องยนต์ได้ระดับหนึ่งครับ และถ้า ออยคูลเลอร์เกียร์ อยู่ในหม้อน้ำ ก็ยิ่งทำให้ การระบายความร้อนของเกียร์ เป็นไปด้วยดีระดับหนึ่งด้วยครับ แต่ว่า ถ้าเป็นออยคูลเลอร์แยก ก็ไม่ต้องกังวลอะไรมาก ถ้าเราใช้เทคนิคการใช้เกียร์เมื่อขึ้นลงเขาสูงชันได้ ถูกต้อง ก็เท่ากับว่า เราได้ถนอมเกียร์ได้ระดับหนึ่งแล้วครับ
  3. การจะติดตั้งเซนเซอร์เช็คความร้อนของน้ำมันเกียร์ สามารถติดตั้งได้ที่ แคร้งน้ำมันเกียร์ หรือที่ท่อที่บำบัดความร้อนแล้วของน้ำมันเกียร์ครับผ ม
น้ามูนครับ จากข้อ 1.ผมเปลี่ยนเกียร์ตามที่น้ามูนเขียนไว้ เริ่มจาก o/d แล้วเพาเวอร์ และเป็นเกียร์ 2 จนถึง L ครับ แต่ที่ผมสงสัยคือทำไมขณะรถอยู่เกียร์ L แล้วรอบเครื่องสร้างแรงอยู่ที่ไม่เกิน 3000 รอบขณะขึ้นเขา ผมกดคันเร่งต่อจนเมื่อยแต่เครื่องยนต์ไม่เพิ่มกำลังข ึ้นตามไปอีกครับ ไม่ทราบเพราะอะไรครับ
traitap is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 3 Users Say Thank You to traitap For This Useful Post:
Lucky (03-06-2011), sompol (25-05-2011), tfr_jz (06-06-2011)
เก่า 21-01-2010, 16:20   #4
wk7000
ClubJZ Full Member 2556
 
รูปส่วนตัว wk7000
 
วันที่สมัคร: Jan 2008
Car Brand: Toyota Sport Rider
Engine Type: 2JZ-GTE AUTO 4x4, 1JZ-GE VVTI
ที่อยู่: Suphanburi
กระทู้: 821
Thanks: 1,304
Thanked 2,257 Times in 627 Posts
คะแนน: 17 wk7000 is on a distinguished road
ขออนุญาติเสนอความคิดเห็นนะครับ เนื่องจากมีโอกาสขับไปเส้นทางนั้นอยู่หลายครั้ง ทั้งเครื่องดีเซลเดิม และ เบนซินที่เปลี่ยนลงไปใหม่ในบอดี้เดียวกัน

1. เวลาขึ้นทางสูงชั้นนอกจากเปลี่ยนเกียร์ต่ำช่วยแล้วจั งหวะส่ง หรือการเลี้ยงรอบเพื่อให้รถอยู่ในช่วงที่มีแรงบิดมาก พอที่จะขึ้นได้เรื่อย ๆ ก็เป็นส่วนสำคัญครับ
เครื่องแต่ละรุ่นจะมีช่วงสร้างแรงบิด ณ.รอบเครื่องต่าง ๆ กัน เครื่องดีเซลแรงบิดจะมีมาให้ใช้ตั้งแต่รอบต่ำ เบนซินจะมีให้ใช้ในรอบกลางค่อนสูง
เราใช้เครื่องนั้นอยู่เป็นประจำจะรู้ว่ารอบเครื่องไห นที่เครื่องจะสร้างแรงบิดออกมาได้มากอยู่ช่วงไหน ของผมจะอยู่ช่วง 2400-3100 เป็นช่วงที่แรงบิดออกมาดี
เส้นทางนั้นที่ผมเดินทางไปไม่เคยเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำถ ึง L เลยครับ ส่วนใหญ่จะใช้ 2 กับ O/D
(ปล.รถผมหนัก 2 ตันกว่า ยาง 31 เฟือง 4.5 เกียร์ออโต้ 4x4)

2. ตามน้ามูนว่าครับ แต่ผมเชื่อว่าอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า 90 องศาแน่ครับ

3. เซนเซอร์อุณหภูมิเดิมของน้ำมันเกียร์มีอยู่ครับ อยู่ตรงท่อไหลกลับ เซนเซอร์จะอยู่บริเวณข้อต่อน้ำมันไหลออกจากเกียร์ไปเ ข้าออย์น้ำมันเกียร์
ลองเช็คโค๊ดเกียร์ดูครับถ้าน้ำมันเกียร์อุณหภูมิสูงเ กิน มันจะฟ้องโค๊ดเซนเซอร์อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ ถ้าช่างต่อไฟที่หน้าปัทม์
เวลาความร้อนสูงเกินไฟมันจะติดที่หน้าปัทม์ด้วยครับ

ตอนที่วางเครื่องใหม่ ๆ ผมก็เจออาการคล้ายกับคุณเหมือนกันเนื่องจากของผมออย์ คูลเลอร์เล็กน้ำมันระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ไม่ทัน
น้ำมันเกียร์เดือดส่งผลให้คลัชเกียร์จับไม่ค่อยอยู่แ ละไหม้ในที่สุด เช็คสีน้ำมันเกียร์จะออกมาสีดำกลิ่นไหม้ชัดเจน
สุดท้ายผมหาเซนเซอร์วัดอุณหภูมิมาติดที่ท่อไหลรวมถึง เป็นเทอร์โมสวิตช์สั่งการทำงานของพัดลมให้ช่วยดูดระบ ายความร้อนที่ตัวออย์คูลเลอร์เกียร์ด้วยในตัวครับ
หลังจากนั้นมาไม่เคยเจออาการน้ำมันเกียร์เดือดและคลั ชไหม้อีกเลย เวลาขึ้นเขายาว ๆ อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ไหลกลับไม่เคยต่ำกว่า 120 องศาครับ

ซึ่งน้ำมันเกียร์เองมันทนความร้อนได้กว่า 300 องศา แต่พวกซีลภายในไม่รู้ว่ารับได้เท่าไหร่แต่เอาเป็นเวล าขึ้นเขาแล้วไม่ฟ้องโค๊ดเซนเซอร์ความร้อนน้ำมันเกียร ์ออกมาก็น่าจะใช้ได้ครับ
__________________
วุฒิ JZ_M 181
2JZ-GTE 4x4


โลกอันกว้างใหญ่ ชีวิตยิ่งใหญ่ ต้องไปตามใจฝัน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย wk7000 : 22-01-2010 เมื่อ 18:08.
wk7000 is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 8 Users Say Thank You to wk7000 For This Useful Post:
2jbamboo (22-01-2010), chakkrapad (20-05-2013), idea_nova (05-01-2015), krupree (16-04-2010), Lucky (03-06-2011), pae604 (22-01-2010), sompol (25-05-2011), tfr_jz (06-06-2011)
เก่า 21-01-2010, 16:32   #5
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 19 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ traitap อ่านกระทู้
น้ามูนครับ จากข้อ 1.ผมเปลี่ยนเกียร์ตามที่น้ามูนเขียนไว้ เริ่มจาก o/d แล้วเพาเวอร์ และเป็นเกียร์ 2 จนถึง L ครับ แต่ที่ผมสงสัยคือทำไมขณะรถอยู่เกียร์ L แล้วรอบเครื่องสร้างแรงอยู่ที่ไม่เกิน 3000 รอบขณะขึ้นเขา ผมกดคันเร่งต่อจนเมื่อยแต่เครื่องยนต์ไม่เพิ่มกำลังข ึ้นตามไปอีกครับ ไม่ทราบเพราะอะไรครับ

โดยปกติ ถึงแม้ว่า ผมจะใช้เกียร์ L เคลื่อนตัวในที่สูงชัน ไม่บ่อยครั้งก็ตาม แต่สมาธิของผม ณ เวลานั้น จะจดจ้องอยู่ที่ ทางข้างหน้า ไม่เคยแยกสมาธิมาดู รอบเครื่องยนต์เลย จึงไม่ทันได้สังเกตุเรื่องนี้ครับผม ดังนั้น ผมขออธิบายเหตุผลในเชิงคาดเดานะครับ

ถ้าคุณปรับคันเกียร์ไปที่ L เท่ากับว่า คุณบังคับให้เกียร์ทำงานที่เกียร์ 1 ครับ ซึ่งในระดับเกียร์ 1 นั้น แรงบิดมันจะออกมาเรื่อยๆขณะที่ความเร็วการเคลื่อนตัว ต่ำ ซึ่งผมคิดว่า น่าจะเป็นเพราะว่า ระบบ VVT-i มีการทำงานตามระดับความเร็วรถ และควบคุมรอบเครื่องยนต์ไปในตัว ซึ่งก็หมายความว่า ระบบ VVT-i กำลังควบคุมรอบเครื่องยนต์ ไม่ให้รอบเครื่องสูงเกินไป ซึ่งไม่ได้ประโยชน์ต่อการสร้างแรงบิดที่อยู่ที่ เกียร์ L ขณะเดียวกัน ยังเป็นการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงด้วยครับ

__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 13 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post:
2jbamboo (22-01-2010), bungtor (21-09-2010), chakkrapad (20-05-2013), idea_nova (05-01-2015), KOBDRAGON 1UZ-FE (19-10-2010), krupree (16-04-2010), Lucky (03-06-2011), mcca (19-09-2011), pae604 (22-01-2010), samulaiqoo (26-07-2010), sompol (25-05-2011), tfr_jz (06-06-2011), zaji (21-01-2010)
ตอบกลับ



กฎการส่งข้อความ
คุณไม่สามารถเริ่มหัวข้อใหม่ได้
คุณไม่สามารถตอบกระทู้ได้
คุณไม่สามารถแนบไฟล์ได้
คุณไม่สามารถแก้ไขกระทู้ของคุณเองได้

โค้ด vB ใช้ได้
[IMG] โค้ด ใช้ได้
โค้ด HTML ใช้ได้
กระโดดไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:25


Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels