ClubJZ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ใช้งานเครื่องยนต์ JZ ทุกรุ่น เพื่อที่จะใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เราหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล และผู้ที่มีปัญหาในการ ใช้งาน เครื่อง JZ ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกๆคนจะได้จาก ClubJZ นี้นั่นคือ มิตรภาพที่เรามีให้กับทุกๆท่านครับ.

Loading
Search In ClubJZ.net


กลับไป   ClubJZ Forums > ClubJZ ! Main Forums > ClubJZ! Useful Information
สมัครสมาชิก คู่มือการใช้ รายชื่อสมาชิก ปฏิทิน กระทู้ใหม่วันนี้
ประชาสัมพันธ์ ClubJZ!

1. Login สีส้ม และสีฟ้าไม่อนุญาติให้มีลายเซ็นตั้งแต่วันที่ 07/09/09 เป็นต้นไป

2. ขอเชิญ ผู้ใช้งาน ที่ Login เป็นสีส้ม มาแนะนำตัว ( ชื่อ,รถ,เครื่องยนต์ และเบอร์ติดต่อ) เพื่อเปลี่ยนมาเป็น ClubJZ Member ที่นี่ ครับ

3. User ที่สมัครใหม่ รอ Activate ผ่าน Email ทีกรอกมาด้วยนะครับ User นั้นถึงจะใช้งานได้ ครับ



ClubJZ! Useful Information คลังเก็บกระทู้ข้อมูล ที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้งานเครื่องยนต์ JZ! ครับ

 
 
คำสั่งเพิ่มเติม เรียบเรียงคำตอบ
เก่า 19-12-2008, 15:00   #1
AEK_Korat
Member
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: Mitsubishi Strada
Engine Type: 2J Turbo
ที่อยู่: ห้วยแถลง โคราช
อายุ: 42
กระทู้: 26
Thanks: 4
Thanked 25 Times in 12 Posts
คะแนน: 0 AEK_Korat is on a distinguished road
ไปเจอความรู้เกี่ยวกับแบตเตอรี่ครับเลยเอามาฝากกันคร ับ

ผมใช้แบตเตอรี ( แบบเติมน้ำกลั่น ) หาก
1) ปล่อยให้น้ำไนช่องแบตแห้งจะเกิดผลเสียอย่างไร
2) เมื่อน้ำในช่องแบตแห้งแล้วจึงเติมน้ำกลั่น หรือ น้ำกรดลงไปแบตจะใช้งานเหมือนเดิมหรือไม่
3) การที่ใช้แบตที่มีโวล์สุงๆไว้ก่อน เกินความจำเป็นหรือมีผลดีมากน้อยแคไหน
4) แบตที่เดิมน้ำกลั่น กับ ไม่ต้องเติม โดยภาพรวมๆแล้วอย่างไหนดีกว่ากัน
5) อายุการใช้งานแบตโดยปกติกี่ปี
6) ถ้าเราใช้น้ำดื่มแทนน้ำกลั่น จะมีผลแตกต่างกันหรือไม่
7) จำเป็นไหมที่ต้องเลือกซื้อยี่ฮ้อแบต แล้วส่วนใหญ่ใช้ยี่อ้อใดกันหรือ
8) แบตรถเต่าอยู่ใต้เบาะนั่ง ปัญหาที่เกิด พื้นรถจะมีคาบสีขาวเกาะติดและเป็นสนิมผุกร่อนจนพื้นท ะลุ ทั้งๆที่มีแผ่นยางรองไว้ จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างไร (จบคำถาม) คำถามมากข้อไปหน่อยขอผู้รู้เสียสละเวลาตอบคงไม่ว่ากั น( ขอบคูณครับ)
โดยคุณ : คูณลักยิ้ม - [ 14 ก.พ. 2006 , 19:20:03 น. ]



Mr. PUMA Posted : 2006-02-14 20:39:45 IP : (61.90.25.*)


สวัสดีครับคุณลักยิ้ม
คำถามของคุณนั้นค่อนข้างจะยาว แต่ก็ครอบคลุมถึงปัญหาที่หลายๆ คนประสบอยู่ ผมจะพยายามตอบเป็นข้อข้อไปนะครับ
1. แบตเตอรี่สำหรับรถยนต์นั้นเรามีชื่อเรียกที่เป็นทางก ารว่า แบตตะกั่วกรด (Lead Acid Batter) ซึ่งนั้นหมายความว่า มันจะให้พลังงานไฟฟ้าได้ดีก็ต่อเมื่อมีน้ำกรด(ความเข ้มข้นมาตรฐาน 1.25-1.28 กรัม/ซีซี + ตะกั่ว (สารเคลือบบนแผ่นธาตุ) ดังนี้่ถ้าน้ำกรดแห้งก็จะทำให้ มันไม่สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ และเมื่อมันแห้งเราก็สามารถเติมน้ำกลั่นได้ (ไม่ควรเติมน้ำกรด เพราะคุณอาจจะเติมน้ำกรดที่มีความเข้มข้ัน ผิดทำให้แบตฯ เสีย เร็วขึ้น ) แต่ ปัญหามันอยู่ที่ระหว่างทางที่ระดับน้ำกรดระเหยออกจนแ ห้งไปนั้น มันได้ทำให้ความเข้นข้นของน้ำกรดภายในแบตฯสูงขึ้น (เหมือนคุณเขี้ยน้ำตาล เมื่อร้อนจะค่อย ๆ ข้นขึ้น ) ซึ่งมันจะแรงมากจนทำให้แผ่นธาตุ และสารเคลือบ (ตัวทำปฏิกิริยากับน้ำกรด) ถูกทำลาย เป็นเหตุให้อายุแบตฯสั้นลง ซึ่งคุณอาจจะเติมน้ำกลั่นได้ แต่แผ่นธาตุเสียแล้ว.....
2. คุณสามารถเติมได้ครับ แต่มันอาจจะใช้งานได้ ไม่ดีเท่าเดิม ครับ
3. ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ใช้ไฟฟ้า ขนาด 12 V (จริง ๆ คือ 13.5-14.5 V ) ด้งนั้นผมเข้าใจว่าคุณ คงหมายถึง ขนาดความจุของ แบตฯ Amps/Hr. ซึ่ง การเลือกขนาดความจุของ แบตฯ จะต้อง สัมพันธ์ กับ ขนาดของไดชาร์จ (Alternator) เนื่องจาก ในระบบไฟฟ้าของรถยนต์ อุปกรณ์ หลักที่มีหน้าที่ในการจ่ายพลังงานไฟฟ้า ให้รถยนต์ (ขณะที่เครื่องยนต์ ทำงาน) คือ ไดชาร์จ (ขอย้ำ !!!! ไม่ใช่แบตฯ ) ซึ่งเจ้า ไดชาร์จ ก็เปรียบเสมือน เครื่องปั่น ไฟฟ้า ให้รถ (รวมถึงไฟฟ้าที่จะ ไปชาร์จ แบตฯ เวลาไฟ หมดด้วยครับ) ดังนั้น หากคุณเลือกแบตฯที่มีขนาด ใหญ่ กว่า ไดชาร์จ ก็หมายความ ว่า แบตฯ คุณจะไม่เคยถูกชาร์จ ไฟให้เต็ม ได้ เป็นเหตูให้อายุแบตฯสั้นลงด้วย (เสียทั้งเงิน เสียทั้งอารมณ์ ) ดังนั้น คุณต้องติดไดชาร์จให้มีขนาดเหมาะสมกับ ระบบไฟฟ้าที่คุณติดเพิ่มให้กับรถของคุณ (คำนวณ เล่น ๆ ง่าย ๆ ได้ I = W / V . (W= พลังไฟฟ้าที่เราใช้ทั้งหมด หน่วย เป็น วัตต์ ; V = โวลล์ ซึ่งเท่ากับ 12.6 ; I = แอมป์ ที่เราต้องการใช้ )

6. ถ้าน้ำดื่มที่ใช้เติม เป็นน้ำดื่มที่มีความบริสุทธ์ สูงก็ได้นะครับ (ยกเว้นน้ำแร่ เติมไม่ได้ น้ำดื่มบางยี่ห้อ ก็แค่น้ำกรอง ก็ไม่ได้อีก เพราะน้ำที่นำมาใช้กรองดันเป็นน้ำประปา ฮาฮาฮา ซึ่งมีสารคลอรีนอยู่ เพื่อฆ่าเชื้อ ) สรุป ถ้าหาน้ำกลั่นได้ก็ใช้น้ำกลั่นนะครับ แต่ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ไม่มีปัญหามา แต่อย่าเติมบ่อย ก็เท่านั้นเองครับ

5. ปรกติแล้ว อายุแบตฯ ก็เหมือนถ่านก้อน ( ถ่านชาร์จ) ทั่ว ๆ ไป ครับผม คือ อายุไม่ได้ขึ้นกับเวลาว่ากี่ปี แต่ ขึ้นกับจำนวนครั้งในการถูกชาร์จ (Cycle ) เหมือนถ่านก้อนที่เราใช้กันเลยครับ ซึ่งถ้าคำนวนเล่น ๆ ก็อยู่ราว ๆ 2 ปี ประมาณ 3,500 - 4,000 cycle คำนวนจากอัตราการเสีย ไฟฟ้า ที่ 5-10 % แล้ว ชาร์จกลับ (สตาร์ท รถวันละ 4-6 ครั้ง/วัน) เพราะการสตาร์ทรถ 1 ครี้ง แบตฯจะจ่ายพลังงาน ไฟฟ้า ออก ไปเป็นจำนวนมาก (มากกว่า 300 Amps ต่อการบิดกุญแจสตาร์ท 1 ครั้ง ) และ เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ไดชาร์จ ก็จะชาร์จไฟ กลับสู่แบตฯ ถือเป็น 1 cycle แต่ก็ยังมีปัจจัย อื่นที่ทำให้อายุการใช้งาน แบตฯสั้นลง ได้ แก่
1. ความเข้นข้นน้ำกรดที่เปลี่ยนแปลง (สูงเกิน 1.28g/cc ) ทำให้แผ่นธาตุถูกทำลาย (แบตฯ สูญเสียไอน้ำกรด ระหว่างใช้งาน )
2. สิ่งสกปรก เช่น ไอน้ำมัน ฝุ่น และ อื่น ๆ เข้าไปในแบตฯ (เข้าทางช่องระบายความร้อน และ รูเติมน้ำกลั่น ) ทำให้แบตฯ เก็บไฟฟ้าไม่อยู่
3. ความร้อนในห้องเครื่อง ทำให้แบตฯ เสียพลังงาน ไฟฟ้าเร็วขึ้น และเสียไอน้ำกรดเร็วขึ้น (ระเหยน้ำกรดออกจาก ช่องระบาย ไอน้ำกรด แล้ว ก็ลงสู่ตัวถึงรถสุดที่รักของคุณไงครับ )
4. การชาร์จผิดวิธี ทำให้แผ่นธาตุถูกทำลาย (ใช้แอมป์ เกินกว่า 10% ของขนาด แบตฯ เช่น แบตฯ ขนาด 55 แอมป์ ควรใช้กระแสในการชาร์จที่ 5 แอมป์ เป็นต้น หากใช้กระแส ในการชาร์จเกิน เป็นเวลานานจะทำให้เกิดความร้อน เป็นเหตุให้แบตฯ เสื่อม )

แต่ถ้าแบตฯ มีการเสียไฟฟ้ามาก ๆ ก่อนการชาร์จกลับในแต่ละครั้ง อายุก็จะสั้นลงมาก ครับ คือ จาก 3,500 - 4,000 cycle ก็อาจจะเหลืออยู่แค่ 200 - 500 cycle .

4. , 7 & 8 : อุตสาหกรรมรถยนต์ ได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับ น้ำกรดจาก แบตฯ ไปกัดกร่อนตัวรถ จากการใช้งาน และ อายุแบตฯ สั้น จากการที่ผู้ใช้ ไม่มีเวลาในการดูแล และ การออกแบบรถยนต์ ต้องการความสวยงาม และ ซ่อนรายละเอียด อุปกรณ์ไฟฟ้า มากขึ้น เหตุผลต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นสิ่งผลักดันให้อุตสาหกรรม แบตฯ ต้องพัฒนา และคิดค้นเทคนิคการผลิต และ การออกแบบ เพื่อผลิตแบตฯ ที่สามารถตอบสนอง life style , Design และ Performance จึงเป็นที่มาของแบตฯ แบบที่เราเรียกว่า Maintenance Free (ขอบอกว่า มันไม่ใช่ แบตฯแห้ง นะครับ เพราะ ตามที่ผมบอกไว้ในขอ 1. มันมีชื่อเรียกว่า แบต ตะกั่วกรด ดังนั้นแบตฯ แห้งสำหรับรถยนต์ ไม่มีอยู่จริงครับ มีแต่ไม่ต้องการการดูแลรักษา ) ซึ่งเป็นแบตฯ ที่ไม่ต้องการการบำรุงรักษา , ไม่มีน้ำกรดรั่วไหลออกสู่ตัวรถ(เพราะ ปิดสนิททั้งลูก ) และ อายุใช้งานยาวนาน ซึ่งการผลิตจะต้องใช้เทคโนโลยี ชั้นสูง PUMA Battery เป็นแบตฯที่ถูกพัฒนา เพื่อตอบสนอง ความต้องการทั้งหมดเหล่านี้ และ PUMA Battery เป็นแบตฯ ที่ ใช้เทคโนโลยีการผลิตจาก GM (General Motor USA) อีกทั้งเป็นผู้ผลิตแบตฯ Premium Quality ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั่วโลก ภายใต้ ตราผลิตภัณฑ์ ของผู้ผลิตรถยนต์ เช่น Honda , Mitsubishi , Isuzu , Lexas , Subaru , Suzuki ใน ประเทศญี่ปุ่น

ดังนั้นการเลือกแบตฯ จะต้องดูที่ประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ เทคโนโลยีที่ใช้ที่ใช้ในการผลิต มากกว่าที่จะดูที่ยี่ห้อเพียงอย่างเดียวครับ

ผมหวังว่า ข้อมุลทั้งหมดน่าจะสามารถตอบคำถาม ของคุณลักยิ้มได้ครบถ้วนนะครับ หากมีข้อใดสงสัยก็สามารถ ถามเพิ่มเติมได้อีกนะครับ ผมจะพยายามตอบให้ได้มากที่สุดนะครับ
AEK_Korat is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 3 Users Say Thank You to AEK_Korat For This Useful Post:
Lucky (03-06-2011), printset (27-09-2016), tatizoodlor (31-07-2013)
 



กฎการส่งข้อความ
คุณไม่สามารถเริ่มหัวข้อใหม่ได้
คุณไม่สามารถตอบกระทู้ได้
คุณไม่สามารถแนบไฟล์ได้
คุณไม่สามารถแก้ไขกระทู้ของคุณเองได้

โค้ด vB ใช้ได้
[IMG] โค้ด ใช้ได้
โค้ด HTML ใช้ได้
กระโดดไป


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:07


Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels