ClubJZ เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ใช้งานเครื่องยนต์ JZ ทุกรุ่น เพื่อที่จะใช้แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกันโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เราหวังว่า คงจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่กำลังหาข้อมูล และผู้ที่มีปัญหาในการ ใช้งาน เครื่อง JZ ไม่มากก็น้อย แต่สิ่งสำคัญที่สุด ที่ทุกๆคนจะได้จาก ClubJZ นี้นั่นคือ มิตรภาพที่เรามีให้กับทุกๆท่านครับ.
|
ประชาสัมพันธ์ ClubJZ! |
1. Login สีส้ม และสีฟ้าไม่อนุญาติให้มีลายเซ็นตั้งแต่วันที่ 07/09/09 เป็นต้นไป 2. ขอเชิญ ผู้ใช้งาน ที่ Login เป็นสีส้ม มาแนะนำตัว ( ชื่อ,รถ,เครื่องยนต์ และเบอร์ติดต่อ) เพื่อเปลี่ยนมาเป็น ClubJZ Member ที่นี่ ครับ 3. User ที่สมัครใหม่ รอ Activate ผ่าน Email ทีกรอกมาด้วยนะครับ User นั้นถึงจะใช้งานได้ ครับ |
ClubJZ ! Talk พูดคุย ถาม-ตอบ ปัญหาต่างๆของเครื่องยนต์ JZ! ครับ |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม | เรียบเรียงคำตอบ |
|
![]() |
#1 |
ClubJZ Web Register
วันที่สมัคร: Feb 2022
Car Brand: toyota
Engine Type: 1800
ที่อยู่: nontaburi
กระทู้: 50
Thanks: 0
Thanked 0 Times in 0 Posts
คะแนน: 0
![]() |
ประกัน Opd ความคุ้มครองมีกี่แบบ และเหมาะกับใครบ้าง
ในโลกของประกันสุขภาพ คำว่า "OPD" อาจเป็นคำที่หลายคนเคยได้ยิน แต่ไม่แน่ใจว่าหมายถึงอะไร OPD ย่อมาจาก Outpatient Department หรือแผนกผู้ป่วยนอก
ซึ่งหมายถึงการไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาอาการเจ็บป่วย โดยไม่จำเป็นต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประกัน opd ประกันสุขภาพ ทั่วไปมักจะคุ้มครองเฉพาะผู้ป่วยใน (IPD) ซึ่งทำให้ค่าใช้จ่ายในการหาหมอทั่วไปเป็นภาระที่หลาย คนต้องแบกรับเอง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมประกัน OPD จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และแนะนำว่าใครที่เหมาะกับการทำประกันประเภทนี้ ![]() ประกัน OPD มีความคุ้มครองกี่แบบ ความคุ้มครองของประกัน OPD หลักๆ แบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบ ดังนี้ 1. แบบจำกัดวงเงินและจำนวนครั้ง (Limit Coverage) เป็นรูปแบบที่นิยมและมีเบี้ยประกันที่ไม่สูงมากนัก โดยบริษัทประกันจะกำหนดวงเงินและจำนวนครั้งในการเข้า รักษาในแต่ละปี ตัวอย่าง: คุ้มครอง 1,000 บาท/ครั้ง ไม่เกิน 30 ครั้ง/ปี ข้อดี: เบี้ยประกันถูก เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้เจ็บป่วยบ่อย ข้อเสีย: หากอาการเจ็บป่วยแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายสูง อาจต้องจ่ายส่วนต่างเอง 2. แบบเหมาจ่ายต่อปี (Annual Lump-Sum Coverage) เป็นรูปแบบที่ให้ความคุ้มครองที่ยืดหยุ่นกว่า โดยบริษัทประกันจะให้วงเงินรวมต่อปี ตัวอย่าง: คุ้มครอง 20,000 บาท/ปี ข้อดี: ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการเข้ารักษา ทำให้สามารถไปหาหมอได้บ่อยเท่าที่ต้องการ (ภายในวงเงินที่กำหนด) เหมาะสำหรับผู้ที่เจ็บป่วยบ่อย ข้อเสีย: มีเบี้ยประกันที่สูงกว่าแบบจำกัดครั้ง 3. แบบมีความรับผิดชอบส่วนแรก (Deductible/Co-Payment) เป็นรูปแบบที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่า ยส่วนแรกเองตามที่ตกลงไว้ในกรมธรรม์ก่อนที่บริษัทประ กันจะจ่ายส่วนที่เหลือ ตัวอย่าง: ผู้เอาประกันจ่ายเอง 1,000 บาท/ครั้ง ส่วนที่เหลือบริษัทรับผิดชอบ ข้อดี: เบี้ยประกันถูกลงอย่างเห็นได้ชัด ข้อเสีย: ผู้เอาประกันต้องมีเงินสำรองเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล ส่วนแรกเอง ใครที่เหมาะกับการทำประกัน OPD บ้าง การทำประกัน OPD ไม่ได้จำเป็นสำหรับทุกคนแต่เหมาะสำหรับกลุ่มคนดังต่อ ไปนี้ ผู้ที่ไม่มีสวัสดิการรักษาพยาบาลจากบริษัท: เช่น กลุ่มฟรีแลนซ์, เจ้าของกิจการ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใ นการรักษาพยาบาลด้วยตนเอง ผู้ที่มีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยบ่อย: เช่น ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ตามฤดูกาล, ไมเกรน หรือโรคเรื้อรังที่ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลซึ่งการหาหมอบ ่อยครั้งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายรวมสูงกว่าที่คาดไว้ ผู้ที่ต้องการความอุ่นใจ: สำหรับผู้ที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายในการไปหาหมอเล็ กๆ น้อยๆ และไม่ต้องการควักเงินเก็บมาใช้ในส่วนนี้ การเลือกทำประกัน OPD ควรพิจารณาจากความจำเป็น, ลักษณะการใช้ชีวิต, และงบประมาณเพื่อให้ได้ความคุ้มครองที่ตอบโจทย์และคุ ้มค่าที่สุดซื้อประกันออนไลน์ |
![]() |
![]() |
![]() |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
เรียบเรียงคำตอบ | |
|
|