ดูแบบคำตอบเดียว
เก่า 07-03-2009, 13:02   #1
อ้นหมีทุย
ClubJZ Full Member 2557
 
รูปส่วนตัว อ้นหมีทุย
 
วันที่สมัคร: Jun 2008
Car Brand: Toyota Tiger
Engine Type: 2JZ-GE
ที่อยู่: Nonthaburi
กระทู้: 255
Thanks: 380
Thanked 93 Times in 41 Posts
คะแนน: 16 อ้นหมีทุย is on a distinguished road
สาระน่ารู้เกี่ยวกับ เฟืองท้าย

เฟืองท้าย (Differential)
บางครั้งเรียกว่า Final gear คืออุปกรณ์ส่งต่อแรงหมุนจากเพลาขับ (Axle) ไปยังดุมล้อ (Hub) และในขณะเดียวกัน เฟืองท้าย จะมีอัตราส่วนการทดรอบด้วย แต่จะไม่สามารถเปลี่ยนอัตราส่วนการทดรอบ เป็นหลายระดับเหมือนเกียร์

โครงสร้างและการทำงานของชุดเฟืองท้าย
ภายในชุดเฟืองท้าย ประกอบด้วยชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่จะทำหน้าที่ถ่ายทอดกำลังงานไปยังล้อรถยนต์ ได้แก่ เฟืองเดือยหมู,เฟืองบายศรี, เฟืองดอกจอก,เฟืองขับเพลาข้าง ซึ่งจะประกอบกันในตำแหน่งต่าง ๆชุดเฟืองท้ายทำงานโดยอาศัยการหมุนขบกันของเฟืองต่าง ๆ ซึ่งจะทำหน้าที่ต่าง ๆ กันดังนี้

1. เฟืองเดือยหมู ทำหน้าที่ถ่ายทอดกำลังงานของเครื่องยนต์ไปยังเฟืองบา ยศรี

2. เฟืองบายศรี ทำหน้าที่เปลี่ยนทิศทางการถ่ายทอดกำลังงานที่ถ่ายทอด จากเฟืองเดือยหมู 90 องศา เพื่อขับเพลาข้าง และลดอัตราทดเกียร์ คือ ลดความเร็วรอบ ให้เหมาะสมกับขนาดของล้อรถยนต์ โดยเฟืองบายศรีจะหมุนช้ากว่าเฟืองเดือยหมู

3. เฟืองดอกจอก ทำหน้าที่ แบ่งแยกกำลังงาน ที่จะส่งไปยังเพลาข้างซ้ายและขวา เพื่อความเร็วแตกต่างกันในขณะขับรถเลี้ยวโค้ง

4. เฟืองข้าง ทำหน้าที่ ขับเพลาข้างเพื่อไปหมุนล้อรถยนต์

เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป (Limited slip)
ระบบเฟืองท้ายแบบนี้ จะใช้วิธีเพิ่มคลัทช์ เข้าไปในเฟืองท้าย ไว้สำหรับล็อคเพลาทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้เพลาทั้ง 2 ข้าง หมุนไปด้วยความเร็วเท่ากัน เช่น กรณีรถตกหล่ม หรือตกโคลนที่มีความลื่น หากเป็นระบบเฟืองท้ายแบบธรรมดา ล้อข้างที่ตกหล่มจะหมุนฟรี ทำให้ล้อข้างที่เหลือ ไม่มีแรงฉุดเพียงพอที่จะพยุงรถขึ้นมาได้ แต่ถ้าเป็นระบบเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป คลัทช์ที่อยู่ในเฟืองท้าย จะล็อคล้อข้างที่อยู่ในหล่ม ไม่ให้หมุนฟรี จึงทำให้เกิดแรงขับเคลื่อนกับล้อข้างที่เหลือ ในการฉุดรถที่ตกหล่มให้ขึ้นมาได้

ข้อแนะนำการใช้น้ำมันเฟืองท้าย
เพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานของชุดเฟืองท้ายเต็มสมรร ถนะตลอดเวลา ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเฟืองท้ายทุก ๆ 20,000 กม. หรือ1 ปี
การใช้น้ำมันหล่อลื่นชุดเฟืองท้าย จะขึ้นอยู่กับประเภทของชุดเฟืองท้าย ดังนี้

ชุดเฟืองท้ายด้านหน้า แยกออกเป็น 2 แบบ คือ
ชุดเฟืองท้ายด้านหน้าของรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าจะหล่อลื่นด้วยน้ำมันตัวเดียวกับน้ำมันเครื่อ ง
ชุดเฟืองท้ายด้านหน้าของรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะหล่อลื่นด้วยน้ำมันเฟืองท้าย SAE90 API GL-5

ชุดเฟืองท้ายด้านหลัง แยกออกเป็น 2 แบบ คือ
ชุดเฟืองท้ายด้านหลังของรถยนต์ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง จะหล่อลื่นด้วยน้ำมันเฟืองท้าย SAE 90 หรือ SAE 140 API GL-5 (ตรวจสอบจากคู่มือรถ)
ชุดเฟืองท้ายด้านหลังของรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อจะหล่อลื่นด้วยน้ำมันเฟืองท้ายแบบลิมิตเต็ดสลิป
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเฟืองท้ายควรเติมน้ำมันเฟืองท้า ยชนิดเดียวกันลงไป

การตรวจสอบและเปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้าย
ยกรถขึ้นให้มีระดับเสมอกัน
ถอดปลั๊กเติมน้ำมันออก
สอดนิ้วเข้าไปในช่องเติมน้ำมัน และตรวจดูว่าปลายนิ้ว สัมผัสถูกน้ำมันเฟืองท้ายหรือไม่ (น้ำมันเฟืองท้ายไม่ควรอยู่ต่ำกว่าช่องเติมน้ำมันเกิ น 5 มม.)
ถ้าน้ำมันอยู่ต่ำกว่าช่องเติมน้ำมันเกิน 5 มม. หรือปลายนิ้ว สัมผัสไม่ถูกน้ำมันเฟืองท้าย ให้เติมน้ำมันเฟืองท้ายลงไปจนได้ ระดับที่กำหนดไว้
ตรวจเช็คว่ามีรอยรั่วของเฟืองท้ายและเสื้อเพลาท้าย

เช็คทำความสะอาดปลั๊กเติมน้ำมัน, ช่องเติมน้ำมัน และ ตรวจดูความเสียหายของปะเก็น
ประกอบปลั๊กเติมน้ำมันเข้าที่เดิมลดรถลง

ข้อควรระวัง
ในการตรวจสอบระดับและการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเฟืองท้ายค วรหลีกเลี่ยงการตรวจสอบระดับหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเฟ ืองท้ายในขณะที่น้ำมันเฟืองท้ายยังร้อนอยู่ เพราะอาจจะถูกลวกมือได้
ควรตรวจดูให้แน่ใจก่อนว่า น้ำมันเฟืองท้ายที่จะเติมลงไปในเฟืองท้าย จะต้องเป็นน้ำมันเฟืองท้ายที่ตรงตามกำหนดไว้เพราะถ้า เติมน้ำมันเฟืองท้ายผิดประเภทอาจจะก่อให้เกิดความเสี ยหายกับชุดเฟืองท้ายได้

ที่มา : http://www.lancer-club.net/forum/index.php?topic=7349.0
__________________
JZ_M240
อ้นหมีทุย is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 6 Users Say Thank You to อ้นหมีทุย For This Useful Post:
Buta_JZ (24-10-2009), Lucky (03-06-2011), Moonlight (22-10-2009), pookza (22-10-2009), toetsak466 (23-10-2009), trucking05 (17-01-2011)