อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Moonlight
ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำของทางยุโรป ต่างจาก ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำของทางญี่ปุ่นครับ ซึ่งระบบของทางญี่ปุ่น จะมีฝารับแรงดันน้ำที่หม้อน้ำ แต่ว่า ระบบของยุโรปมีฝารับแรงดันน้ำที่ถังพักน้ำครับ โดยเดินท่อเล็กๆ ต่อมาจากหม้อน้ำ (ที่หม้อน้ำไม่มีฝา) เข้าถังพักน้ำ ซึ่งถ้าแรงดันน้ำในหม้อน้ำสูง จะระบายน้ำร้อนมาที่ถังพักน้ำซึ่งมีน้ำที่เย็นกว่าสำ รองอยู่ พอน้ำร้อนที่ถูกระบายมา จึงกดดันน้ำที่เย็นกว่า ไหลออกไปผสมกับน้ำในหม้อน้ำที่ท่อน้ำล่าง หมุนวนเวียนเช่นนี้ไปเรื่อยๆครับ ดังนั้น เมื่อมีการใช้งานเครื่องยนต์แล้ว น้ำในถังพักน้ำของระบบยุโรป จะต้องมีความร้อน ถึงแม้ว่า มือจะแตะจับได้ ก็ยังมีความร้อนอยู่ดีครับ เพราะว่า มีน้ำร้อนจากแรงดันน้ำในหม้อน้ำมาผสมตลอดเวลาครับ
ถึงแม้ว่า จะเป็นระบบระบายความร้อนของยุโรปก็จริง แต่รถผมเองก็ใช้ระบบนี้อยู่ครับ เนื่องเพราะว่า ผมเห็นว่า เป็นระบบที่ดี สามารถมีลูกลอยวัดระดับน้ำในถังพักน้ำ ต่อสัญญาณ มาเข้าที่เกจ์หน้าปัดได้ครับ จะให้สัญญาณออกมาเป็นเสียง หรือ แสงไฟ หรือว่า แสดงทั้ง 2 อย่างก็ได้ครับ จึงตัดปัญหาเรื่องความร้อนเครื่องยนต์ไปได้ระดับหนึ่ งครับผม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฝาหม้อน้ำของญี่ปุ่น หรือ ฝารับแรงดันน้ำที่ถังพักน้ำของยุโรป มันก็ใช้สเปคการรับแรงดันมาตราฐานเดียวกันครับ คือว่า คิดเป็น บาร์ ซึ่งมีตั้งแต่ 0.9 ไปถึง 1.3 บาร์ ครับผม ซึ่งถ้าแรงดันสูงเกินจากสเปค มันก็โบล์วออกครับ ทางยุโรปโบล์วทิ้ง ของญี่ปุ่นโบล์วไปเข้าถังพักน้ำครับผม
|
ขอบคุณมากครับคุณมูน
ผมถามอีกข้อครับ ขณะที่ใช้รถยนต์เสร็จผมจะเปิดฝากระโปรงไว้ ผมลองสังเกตุที่ถังพักน้ำจะมีเสียงลมออกมาเป็นระยะ ไม่แน่ใจว่าฝาปิดถังพักน้ำเสื่อมหรือเปล่าครับ..