ดูแบบคำตอบเดียว
เก่า 10-02-2010, 21:25   #8
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 19 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Strada Nineae อ่านกระทู้
ผมวัดตอนที่ดับเครื่องแล้วประมาณ 5 นาทีน่ะครับ แต่วัดตอนเครื่องเย็นมีเกินขีด Cool แต่ไม่เยอะมากครับผม

นี่แหละครับที่ผมต้องถาม

เนื่องจากว่า แทบทุกคนจะเข้าใจผิด เรื่องการวัดระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ ซึ่งกรรมวิธีการวัดจะต่างจากการวัดระดับน้ำมันเครื่อ งยนต์ครับ คือว่า ต้องวัด ช่วงที่ เครื่องยนต์ ทำงานอยู่ครับ

เพราะอะไร? (ผมเคยแจ้งบอกเรื่องการวัดระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ ให้วัดตอนติดเครื่องยนต์ ไม่ว่า จะวัดตอนน้ำมันเกียร์ร้อนหรือเย็นก็ตาม ซึ่งผมรู้ว่า หลายๆคนมากที่สงสัยว่า เพราะอะไร แต่ไม่ถาม ผมก็งงเหมือนกันว่า ผมรอให้ถามกัน แล้วทำไมไม่ถามกันก็ไม่ทราบครับ จะว่าทราบกันแล้ว แต่ก็มีกระทู้ถามบ่อย พอผมถามกลับ ก็ตอบผิดทุกครั้ง )

เพราะว่า ระบบเกียร์ออโต้ ใช้น้ำมันเกียร์ เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนแรงบิดและการปรับระดับของเกียร ์ สรุปว่า เป็นประสิทธิภาพของน้ำมันไฮดรอลิค ซึ่ง ระบบน้ำมันไฮดรอลิคนั้น ถ้าต้องการให้กลไกทำงาน น้ำมันต้องอยู่เต็มระบบ แต่เพราะว่า กลไกของเกียร์ที่ทำงาน จะเกิดความร้อนสูง จึงต้องมีการระบายความร้อน (ไม่ว่าด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ หรือด้วยอากาศก็ตาม : ออยคูลเลอร์) ผู้ผลิต จึงผลิตให้ น้ำมันไฮดรอลิคนี้ ล้น ออกมาเข้าท่อไปบำบัดความร้อน ก่อนที่จะลงเข้าแคร้งน้ำมันเกียร์

ผมอธิบายระบบการไหลเวียนของน้ำมันเกียร์ออโต้ ตั้งแต่ อยู่ในทอร์คคอนเวอร์เตอร์ อยู่ในเสื้อเกียร์ จนเข้าออยคูลเลอร์จากนั้น ไหลกลับมาที่ก้นแคร้งแล้ว ท่านสมาชิกก็คงยังสงสัยอยู่ว่า แล้ว ทำไม? มันเกี่ยวอะไรกับที่ต้องวัดระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ตอ นที่ติดเครื่องยนต์อยู่ มันมีเหตุผลสำคัญอยู่ 2 กรณีครับ คือว่า
  1. เหล็กวัดระดับจุมอยู่ที่ แคร้งน้ำมันเกียร์ :- ท่านสมาชิกคงจะเถียงว่า เหล็กวัดระดับน้ำมันเครื่องก็จุ่มอยู่ที่แคร้งน้ำมัน แล้วทำไมจึงวัดตอนดับเครื่องยนต์ ก็ต้องตอบว่า เพราะว่า น้ำมันเครื่องมีไว้หล่อลื่น แต่น้ำมันเกียร์ออโต้นอกจากหล่อลื่นแล้ว ยังเป็นน้ำมันไฮดรอลิคด้วย ซึ่งเท่ากับว่า น้ำมันเกียร์ จะต้องอยู่ในระบบ (ทั้งเสื้อเกียร์และทอร์คฯ) เต็มระบบตลอดเวลา แต่เนื่องจากว่า น้ำมันเกียร์ออโต้ มีคุณสมบัติหนึ่งที่ต่างจากน้ำมันเครื่องก็คือ เวลาร้อนจะขยายตัว และเวลาเย็นจะหดตัว ส่วนที่ก้นแคร้งเป็นแค่น้ำมันสำรองเอาไว้รองรับน้ำมั นเกียร์ที่ระบายความร้อนแล้วเท่านั้นครับ ดังนั้น ต้องเครื่องยนต์หมุนเท่านั้น ปั๊มน้ำมันเกียร์ออโต้จึงจะทำงานสูบน้ำมันเข้าระบบจน เต็ม เหล็กวัดระดับน้ำมันเกียร์ จึงวัดระดับน้ำมันเกียร์สำรองที่ก้นแคร้งได้ระดับที่ ถูกต้องครับ
  2. ออยคูลเลอร์เกียร์ออโต้ แยกออกไปอยู่นอกตัวเกียร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ออยคูลเลอร์แทบทั้งหมดทุกคัน อยู่สูงกว่า แคร้งน้ำมันเกียร์ออโต้ครับ ดังนั้น ถ้ามีการดับเครื่องยนต์แล้ว ปั๊มน้ำมันเกียร์ก็จะไม่ทำงาน น้ำมันเกียร์ที่อยู่ในออยคูลเลอร์ ที่อยู่สูงกว่าแคร้งน้ำมันเกียร์ทั้งหมด จะไหลย้อนตกลงมาที่ก้นแคร้งครับ ทำให้การวัดระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ ไม่ถูกต้อง และไม่แน่นอนด้วย ครับ

ดังนั้น ต่อจากนี้ไป ขอให้คิดเสมอว่า เราวัดระดับน้ำมันเกียร์ออโต้สำรองที่อยู่ก้นแคร้ง จึงต้องวัดตอนที่ติดเครื่องยนต์เสมอครับ

อาจจะมีสมาชิกบางท่าน เถียงกลับมาก็ได้ว่า งั้น ทำไมไม่ คำนวณเผื่อ เนื้อที่ น้ำมันเกียร์ออโต้ที่อยู่ในออยคูลเลอร์ ไว้เลยล่ะ จะได้วัดตอนดับเครื่องยนต์ได้

ขอตอบว่า เนื่องจากว่า ออยคูลเลอร์ ของรถแต่ละคัน อยู่ในตำแหน่งไม่เท่ากัน ขนาดก็ไม่เท่ากัน ชนิดก็ไม่เหมือนกัน จึงหามาตราฐานในการเผื่อระดับให้แน่นอนไม่ได้ครับ ขณะเดียวกัน ด้วยคุณสมบัติของน้ำมันเกียร์ออโต้ที่ ยืดหดได้ตามอุณหภูมิความร้อน จึงหาความแน่นอนของระดับน้ำมันไม่ได้เลยครับ ถ้ามีการวัดตอนดับเครื่องยนต์ครับ

*****************

คราวนี้ ผมมาบอกกล่าววิธีการวัดระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ที่ถูก ต้องให้ทราบอีกครั้งนะครับ (จริงๆแล้ว ผมก็มีเขียนไว้หลายครั้งแล้ว ในหน้าเทคนิคเคิ้ล และ Useful Information แต่ขอถือโอกาสว่า ไหนๆก็เขียนถึงสาเหตุแล้ว ก็ขอแถมเรื่องกรรมวิธีการวัดระดับน้ำมันเกียร์ด้วยก็ แล้วกัน)

การวัดระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ ที่แม่นยำและถูกต้องที่สุด จะต้องวัดตอนที่น้ำมันเกียร์ออโต้ ร้อนที่ระดับ 70 - 80 องศาครับ โดยให้ดูขีดระดับ Hot แต่ว่า ผู้ผลิต ก็เผื่อให้วัดระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ตอนที่น้ำมันเกี ยร์ออโต้ร้อนต่ำกว่านั้นเอาไว้ครับ คือ ขีดระดับ Cool แต่ถ้าวิ่งรถด้วยความเร็วสูงนานๆ หรือนำรถไปบรรทุกหนักๆมา หรือว่านำรถไปลากจูงรถคันอื่นมา หรือว่า วิ่งขึ้นเขาสูงชันมา จะต้องดับเครื่องยนต์ทิ้งไว้อย่างน้อยๆ 30 นาทีก่อนที่จะเริ่มทำการวัดระดับน้ำมันเกียร์ใหม่ครั บ เพราะว่า น้ำมันเกียร์ ร้อนเกินไป ไม่เหมาะในการวัดระดับครับ

ขั้นตอนมีดังนี้
  1. อยู่ในพื้นราบ ดึงเบรคมือขึ้น สตาร์ทรถตอนเครื่องเย็น
  2. หยียบเบรค เลื่อนคันเกียร์ จาก P ไป R ไป D ไป 2 ไป L แล้วเลื่อนกลับมาที่ P
  3. ดึงเหล็กวัดระดับน้ำมันเกียร์ขึ้นมาเช็ดให้สะอาด แล้วจุ่มลงไปให้สุดท่อ แล้วดึงกลับขึ้นมาดู ระดับจะต้องอยู่ระหว่างขีด Cool ช่วงนั้น น้ำมันเกียร์ออโต้ จะมีอุณหภูมิ 30 - 60 องศา ถ้าระดับต่ำกว่า Cool ให้เติมน้ำมันเกียร์ออโต้ให้ได้ระดับ Cool ครับ แต่ถ้าสูงกว่า ให้ช่างมันก่อนครับ
  4. เสียบเหล็กวัดระดับกลับเข้าที่ ปิดฝากระโปรงรถ แล้วขับรถ ด้วยความเร็วปกติ ระยะทางประมาณ 15 - 20 ก.ม.หยุดรถในพื้นราบ เลื่อนคันเกียร์มาที่ P (ห้ามดับเครื่องยนต์) แล้วเริ่มทำข้อ 3 อีกครั้ง
  5. ระดับน้ำมันเกียร์จะต้องอยู่ขีด Hot ถ้า ต่ำกว่า ขีด Hot ให้เติมให้ได้ระดับ แต่ถ้าสูงกว่า ขีด Hot ให้ถ่ายน้ำมันออก จนได้ระดับขีด Hot ครับ

__________________
JZM - 5

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Moonlight : 11-02-2010 เมื่อ 00:07.
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 14 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post:
Bom2026 (21-07-2011), boomburiram (10-02-2010), Chili (11-02-2010), EK>Q (22-05-2010), jelejung (10-02-2010), kea12345 (18-09-2012), nanid (13-04-2011), pakit (16-04-2010), taetae70 (07-09-2014), Tanawuth (09-07-2010), Tigercard (30-05-2010), ukritt (20-09-2011), wee18 (12-05-2010), yodchai (11-02-2010)