อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ mixup
ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่ช่วยตอบนะครับ คือว่าก่อนที่มันจะเป็นนะครับผมไปเปลี่ยนปั้มน้ ำมา ของเดิมเป็นไฮโดรลิก แต่ผมเปลี่ยนเป็นแบบของเครื่อง J ไม่โบ ที่เป็นฟรีปั้ม ก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนคืออาการสตาร์ทติดยากไม่มี เลย แต่พอเปลี่ยนมาแล้วสตาร์ทติดยาก มันสตาร์ท ทำท่าเหมือนจะติด แต่ไม่ได้รอบมันเลยวูบดับไป คือว่ามันติดแล้วนะครับรอบขึ้นไปที่1พันแล้วค่อยๆลดล ง จนดับกดคันเร่งเครื่องก็กระพือสั่นๆแล้วดับ แล้วก็ลองเว้นสาร์ทไปเรือ่ยๆ มันทำท่าจะติด แต่ไม่ติด แล้วเว้นไว้สักพัก5นาทีได้ สตาร์ทอีกทีเครื่องติด รอบค่อยๆขึ้นไปที่1พันเหมือนเดิม แล้วก็ตกจนเกือบจะศูนย์ แต่ไม่ดับครับ รอบค่อยๆขึ้นแล้วผมก็รอให้เครื่องร้อนสักแปบ แล้วกดคันเร่งเครื่องปกติครับไม่สั่นหรือกระพือเร่งไ ด้ปกติ ทีนี้ก้ขับได้ปกติแล้วครับ ขับมาจอดที่ทำงาน 9.00-16.30 แล้วลองสตาร์ทใหม่ตอนกลับบ้าน สตาร์ทได้ปกติ แต่จะอาการจะเป็นตอนช่วงเช้าที่เครื่องเย็นแล้ว ครับ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับปั้มน้ำที่ผมเปลี่ยนไปหรือเป ล่า หรือสายพานทามมิ่ง หรือว่าเราจะตั้งไฟจุดระเบิดให้แก่ขึ้นได้ไหมคร ับ ขอบคุณพี่ๆทุกท่านที่ช่วยตอบปัญหานะครับ:emo_to on05:
|
อาการที่คุณเล่ามาทีหลังนี้ ไม่เกี่ยวกับการตั้งไฟจุดระเบิด หรือ สายพานทามมิ่ง ครับ ถ้า 2 อย่างนี้ผิดปกติ มันจะไม่ใช่อาการนี้ครับ
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนปั๊มน้ำมานั้น ก็คงมีการถอดรื้อสายไฟส่วนหน้าเครื่องบ้าง อาจจะเป็นไปได้ว่า สายไฟอาจจะขาดช๊อตก็ได้ (แค่เดานะครับ) อย่างไร ก็ให้เช็ค เซนเซอร์อุณหภูมิน้ำ และดซนเซอร์อุณหภูมิอากาศ ด้วยครับ
จากอาการที่คุณเล่ามานั้น เป็นคล้ายๆเป็นอาการ หัวฉีดรั่ว น้ำมันท่วมลูกสูบครับ หรือไม่ก็เป็นการจ่ายน้ำมันน้อยเกินไป เพราะ ECU คิดว่า เครื่องยนต์ร้อนแล้วครับ (เซนเซอร์อุณหภูมิน้ำ หรืออากาศ ผิดปกติ)
************************************************** *****************
ขออธิบายเพิ่มเติมนิดหน่อยครับ
อาการสตาร์ทเย็นติดยาก ติดแล้วพาลจะดับ หรือดับไปเลย สตาร์ทใหม่ก็เหมือนเดิม วนทำเช่นนี้หลายๆครั้ง จนกระทั่งติดนั้น ประเด็นสาเหตุจาก หัวฉีดรั่ว กับ การจ่ายน้ำมันน้อยเกินไปตอนเครื่องเย็น มันจะแสดงอาการออกคล้ายๆกันมาก ต้องสังเกตุแล้วแยกให้ออกครับ
อาการหัวฉีดรั่ว น้ำมันท่วมบางสูบสูบ เวลาสตาร์ทเย็น บางสูบนั้นจะจุดระเบิดไม่ติด หรือติดปุ๊บดับปั๊บเลย ทำให้ กำลังการเหวี่ยงของข้อเหวี่ยงตกลง เพราะว่าภาระการทำงานไปตกอยู่กับลูกสูบที่จุดระเบิดต ิด ลักษณะแบบนี้ ให้สังเกตุที่ท่อไอเสียครับ จะมีควันสีเทาๆเข้มๆ ออกมามาก กลิ่นน้ำมันออกมาหึ่งเลยครับ อาการที่เกิดขึ้นจะเข้าสู่ภาวะปกติ ก็ต่อเมื่อ ลูกสูบไล่น้ำมันที่ท่วมออกจนแห้ง จึงจะจุดระเบิดติด ครับ
ส่วนการจ่ายน้ำมันน้อย เพราะว่า ECU คิดว่า ขณะนั้นเครื่องยนต์ร้อนอยู่นั้น (เซนเซอร์ที่แจ้งเรื่องอุณหภูมิเครื่องยนต์นั้นช ำรุด ทำให้ ECU เข้าใจผิด คิดว่าเครื่องร้อนแล้ว) จะไม่มีควันสีเทาออกมา และไม่มีกลิ่นน้ำมันออกมามากๆครับ เมื่อผู้ใช้รถ สตาร์ทแบบนี้ไม่เรื่อยๆ เครื่องยนต์ก็จะเริ่มร้อนขึ้น การจุดระเบิดก็จะเข้าสู่ภาวะปกติตอนเครื่องร้อนแล้วค รับ
สังเกตุที่ 2 อาการสิครับ คล้ายกันมาก แต่ให้ดูที่ท่อไอเสียประกอบการพิจารณาเป็นหลักด้วยคร ับ เราจะได้ไม่ต้องซ่อมแบบเหวี่ยงแหสิ้นเปลืองเวลาและเง ินค่าซ่อมไปเปล่าๆครับ