อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ gazza_man
ล่าสุดถามช่าง แกบอกยำใส้ในตัวหัวจรวดเบนซินใส่ให้ครับ(ไมล์เต็มที่ 180 km/hr.,รอบเต็มที่ 8000 ) น่าจะเป็นที่ไมล์หรือเปล่าครับ เอ่อ....ข้อสังเกตุอีกอย่างคือเวลาความเร็วต่ำกว่า 20km/hr. เข็มความเร็วมันจะแกว่งๆอ่ะครับ ไม่นิ่งมันคันอื่นที่ใช้ มันรู้จะเกี่ยวกันไหม?
---เป็นไปได้ไหมครับว่ามีปัญหาที่ไมล์แล้วเกียร์ 4 จะไม่มา?
---เวลากด OD เนี่ยเกียร์มันจะเชนลงมาเกียร์ที่ต่ำกว่าเดิมไม่ใช่เ หรอครับ คือผมไม่เข้าใจว่า ถ้า OD มันติดแล้วคอนเฟิร์มได้ไงว่า มีเกียร์ 4 (คือมันเกี่ยวกันยังไงน่ะครับ)
|
ผมขออธิบายยาวๆหน่อยนะครับ ช่วยพยายามอ่านนะครับ เพราะว่า คุณยังไม่มีพื้นฐานของการใช้งานเกียร์ออโต้
โดยปกติของเกียร์ออโต้ทั่วไปแล้ว จะมี 4 เกียร์ ดังนี้ครับ
- เกียร์ 1 ไว้สำหรับออกรถเคลื่อนตัว และเมื่อตอนต้องการแรงบิดอย่างสูงเช่นเวลาขึ้นเขาชัน มากๆ
- เกียร์ 2 ไว้สำหรับรับแรงบิดต่อจากเกียร์ 1 และใช้สำหรับเรียกกำลังเครื่องยนต์เวลาวิ่งทางขรุขระ มากๆหรือเวลาขึ้นเขาสูงชัน
- เกียร์ 3 ไว้สำหรับรับแรงบิดที่ส่งมาจากเกียร์ 2 และมีไว้เรียกกำลังตอนที่ต้องการเร่งแซง โดยเชนเกียร์ลงต่ำจากเกียร์ 4 (เกียร์ O/D)
- เกียร์ 4 หรือเกียร์ O/D ไว้สำหรับเป็นแรงส่งต่อจากเกียร์ 3 จึงเป็นเกียร์ที่มีแรงบิดน้อยที่สุด ใช้สำหรับวิ่งทางไกลยาวๆ เพื่อการประหยัดน้ำมีนเชื้อเพลิงครับ
ที่คันเกียร์ข้างๆคนขับ โดยทั่วไป จะมีที่ปรับคันเกียร์ อยู่ 6 ตำแหน่ง กับ 3 สวิทช์ ดังนี้ครับ
- P ก็คือเกียร์ว่างที่ภายในเกียร์มีก้านเหล็กอันหนึ่งขั ดเฟืองเอาไว้ เพื่อป้องกันการเคลื่อนตัวรถ จึงเอาไว้สำหรับจอด (P ภาษาอังกฤษ ย่อมาจากคำว่า Park ที่แปลว่า จอดรถครับ)
- R ก็คือเกียร์ถอย จะใช้ถอยหลังเมื่อรถหยุดนิ่งสนิทแล้วจริงๆจึงถอยได้ค รับ (เหยียบเบรคให้หยุดสนิทก่อน)
- N ก็คือ เกียร์ว่าง วึ่งเหมือนเกียร์ P แต่ว่าไม่มีก้านเหล็กขัดเฟืองอยู่ จึงสามารถเข็นรถหรือทำให้รถไหลได้ครับ
- D ก็คือ เกียร์เดินหน้า ซึ่งจะเป็นการสั่งให้เกียร์ออโต้เดินหน้าได้ทุกเกียร ์ (ตัวย่อภาษาอังกฤษมาจากคำว่า Drive ครัย)
- 2 ก็คือ เกียร์เดินหน้าที่ถูกบังคับให้ทำงานแค่ 2 เกียร์เองก็คือ เกียร์ 1 และเกียร์ 2 จึงมีไว้สำหรับขึ้นลงเขาที่ชันๆครับ
- L ก็คือ เกียร์เดินหน้าที่ถูกบังคับให้ทำงานแค่เกียร์ 1 เกียร์เดียว มีไว้สำหรับ ขึ้นลงเขาที่สูงชันมากๆ และมีไว้ทดสอบระบบกลไกของเกียร์ด้วยครับ
ส่วนสวิทช์ที่มี 3 สวิทช์ดังนี้ครับ
- สวิทช์ O/D on/off ก็คือเป็นสวิทช์บังคับเปิด/ปิดให้เกียร์ โอเวอร์ไดร์ฟ ซึ่งโดยทั่วไปจะ on ไว้เสมอ เมื่อปิด (off) ก็ต่อเมื่อต้องการเรียกกำลังเครื่อง(แรงบิด) เพื่อเร่งแซง (ใช้แทนคิกดาวน์) และ ใช้เมื่อขับรถในเมืองที่การจราจรติดขัด วิ่งได้ความเร็วโดยเฉลี่ยไม่เกิน 60 กม./ชม. จะช่วยให้ประหยัดน้ำมันขึ้นครับ
- สวิทช์ Normal หรือบางคันใช้คำว่า Manual เป็นสวิทช์ที่กดใช้งานทั่วไป เมื่อไหร่ที่กดสวิทช์นี้ไว้ก็เท่ากับว่า เป็นการปิดสวิทช์ Power ครับ
- สวิทช์ Power เป็นสวิทช์ที่ใช้เรียกกำลังเครื่องยนต์ครับ (ไม่ประหยัดน้ำมัน) โดยถ้ากดสวิทช์นี้ เท่ากับปิดสวิทช์ Normal และจะสั่งให้เกียร์ลากรอบเครื่องยนต์ให้สูงขึ้นก่อนท ี่จะเปลี่ยนเกียร์ไปอีกระดับหนึ่ง ทำให้เครื่องยนต์มีแรงบิดมากขึ้น ในทุกๆเกียร์ มีไว้ใช้สำหรับเวลาวิ่งขึ้นลงเขาสูงชันยาวๆครับ แต่บางคนนำมาใช้บนทางเรียบเพื่อเรียกกำลังเครื่องให้ วิ่งเร็วยิ่งขึ้นครับ
ถ้าคุณต้องการอยากรู้รายละเอียดมากขึ้นกว่านี้ เชิญอ่านข้อมูลได้จาก Forum Technical นะครับ ผมมีลงเอาไว้ละเอียดพอที่จะให้คนทั่วไปเข้าใจการใช้ง านของเกียร์ออโต้ครับ
คราวนี้มาถึงคำถามในกระทู้ของคุณแล้ว
อ้างถึง:
---เป็นไปได้ไหมครับว่ามีปัญหาที่ไมล์แล้วเกียร์ 4 จะไม่มา?
---เวลากด OD เนี่ยเกียร์มันจะเชนลงมาเกียร์ที่ต่ำกว่าเดิมไม่ใช่เ หรอครับ คือผมไม่เข้าใจว่า ถ้า OD มันติดแล้วคอนเฟิร์มได้ไงว่า มีเกียร์ 4 (คือมันเกี่ยวกันยังไงน่ะครับ)
|
ถ้าคุณอ่านบทความข้างบนจบแล้วคุณจะเข้าใจว่า O/D ก็คือเกียร์ 4 นั่นเองครับ
ดังนั้นที่ถามว่า "
เป็นไปได้ไหมครับว่ามีปัญหาที่ไมล์แล้วเกียร์ 4 จะไม่มา?" ก็ต้องถามคุณกลับครับว่า พอคุณกด O/d ให้เป็น off แล้ว รู้สึกว่า เครื่องยนต์แรงขึ้นมั้ย หรือเกียร์ลดลงมา 1 เกียร์หรือเปล่าครับ ถ้าเครื่องยนต์แรงขึ้น มีแรงบิดมากขึ้น นั่นแสดงว่ารถคุณมีเกียร์ O/D ครับ และได้ทำงานที่เกียร์ O/D แล้ว พอคุณกดสั่งไม่ให้เกียร์ O/D ทำงาน กล่องเกียร์ก็จะบังคับให้เกียร์กลับมาอยู่ที่เกียร์ 3 ครับผม
ทั้ง 2 คำถามของคุณ รวมๆอยู่ในคำตอบเดียวนะครับ
ส่วนเรื่องรอบเครื่องยนต์ของรถคุณนั้น ผมให้คำตอบอะไรไม่ได้นะครับ เพราะว่ารถคุณเองไม่สมบูรณ์ เกจ์วัดรอบเครื่องยนต์ ยังไม่มาตราฐานสำหรับเครื่องยนต์ 6 สูบ จึงไม่สามารถพิสูจน์แน่ชัดว่า รอบเครื่องคุณเท่าไหร่อยู่ที่เกียร์อะไรครับ