ดูแบบคำตอบเดียว
เก่า 12-03-2010, 11:41   #23
Pajingo
ClubJZ Old Full Member
 
รูปส่วนตัว Pajingo
 
วันที่สมัคร: Mar 2007
Car Brand: ไวกิ้ง...ซิ่งสายฟ้า...
Engine Type: JZ Inside
ที่อยู่: Around The World
กระทู้: 67
Thanks: 48
Thanked 259 Times in 52 Posts
คะแนน: 18 Pajingo is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Pajingo
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Suttiphonphong อ่านกระทู้
พูดง่ายๆก็คือ มันสามารถสร้างไอเสียได้เยอะทำให้ปั่นโบลูกใหญ่ๆได้ แต่ข้อเสียของมันคือแรงบิดต่ำและทนอัตราการบูสท์ได้ไ ม่มาก ผมเข้าใจถูกไหมครับพี่
-ประมาณนั้นครับ...แรงบิดต่ำนั้นถูกต้องเลย รอบกวาดแว๊ดดดด 4000-9000 สบายๆ (เพราะพวกเครื่อง 2 โร นี่เบิ้ลเครื่องอยู่กับที่ก็ 3-4000 รอบเข้าไปแล้วครับ...ลองสังเกตดู...) ถึงจะแรงบิดต่ำแต่ได้ในเรื่องของรอบ (ที่ทั้งกวาดเร็วและยาว...) มาช่วยเลยทำให้มันไปได้เร็วครับ ยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย RX7 เครื่องโร กับ RX7 วาง 2J วิ่ง 11 วิ. เท่ากัน โรตารี่อาจใช้บูสท์แค่ 1.0 บาร์ แต่สำหรับ 2J นั้นต้องมีไม่ต่ำกว่า 1.5 บาร์แน่ๆ ครับ ผลลัพท์เหมือนกัน แต่วิธีการที่จะได้มาซึ่งผลลัพท์นั้นต่างกัน ฟีลลิ่งการขับขี่ก็ต่างกันไปด้วย

-ทั้งนี้ถ้าปรับใช้กับสไตล์การขับขี่ทีเหมาะสมแล้วล่ะ ก็ เชื่อได้ว่า 2 ทางนี้ ทำได้ผิดกันอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างเครื่องจาก RX7 คันข้างบน ถ้าเอาไว้วิ่งเซอร์กิต ไม่นับฝีมือคนขับแน่นอนว่าโรเอาไปกินเห็นๆ ด้วยเรื่องของน้ำหนัก บาลานซ์หรือความต่อเนื่องและความง่ายในการคอนโทรลรถ แต่กลับกันถ้านึกเอาเล่นๆ อย่างเช่นการอัดบนเขา (ขาขึ้น) เหมือนในการ์ตูนยุ่น เครื่องที่มีแรงบิดยิ่งได้เปรียบเนื่องจากอัตราเร่งใ นยามที่มีโหลดมากกว่านั้นสามารถทำได้ดีกว่าครับ...เร ื่องนี้มีนัยว่าเราต้องเลือกปรับแต่ให้เหมาะสมกับสไต ล์การขับขี่และความชอบของเราครับ "ผลลัพท์เหมือนกัน แต่วิธีการได้มานั้นต่างกัน" และ "เมื่อมีผลที่แตกต่างกันก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับตัวเ ราที่สุด" ครับ

ปล.พล่ามซะยาว...เบื่อกันมั้ยเนี่ย 555

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pajingo : 12-03-2010 เมื่อ 11:46.
Pajingo is offline  
The Following 8 Users Say Thank You to Pajingo For This Useful Post:
A.CUEL (09-08-2011), Alibaba (13-12-2011), aom8817 (12-03-2010), Bank_td07 (12-03-2010), HS9KRM (12-03-2010), nanid (17-12-2010), no1973 (12-03-2010), papangkon (15-03-2010)