ดูแบบคำตอบเดียว
เก่า 25-03-2010, 15:20   #20
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 19 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ apinui อ่านกระทู้
ปัญหาคือ ไม่ตัดปั๊มติ๊ก นะ .......

ถ้าใช้แก็ส อยู่ แต่ปั๊มติ๊กทำงาน .... ถึงแม้ว่า คุณจะเติมน้ำมันไว้ในถังให้เต็ม ก็ตามแต่ ... ปั๊มก็จะดูดน้ำมันและัดันเข้าไปในท่อส่งน้ำมันตลอดเว ลา ....

และถ้าปั๊มติ๊ก ทำงานโดยเพิ่มแรงดันตามการกดคันเร่งด้วยล่ะก็ มันก็เสี่ยงที่ท่อน้ำัมันจะแตกได้เช่นกัน ...... ถ้าในจังหวะที่คุณกดคันเร่งสุด แล้วปั๊มติ๊ก ดันน้ำมันจนท่อแตกจะเป็นไง ???

เหมือนคุณใช้ปากเป่าลมในสายยาง 1 เส้น ...แต่อีกฝั่งนึงเพื่อนคุณดันเอามืออุดรูเอาไว้ ... คุณว่าคุณจะปวดแก้มแค่ไหน อะ ......

ฉะนั้น ตัดปั๊มติ๊กเถอะครับ ....

ป.ล. รถผมก็ตัดปั๊มติกนะ เวลาใช้แก็สแล้วแก็สหมดคาถัง มันก็เปลี่ยนเป็นน้ำมันได้ทัน โดยมันสดุดนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับดับนะ ....
ตามหลักการแล้ว เวลาใช้ระบบแก๊สเป็นเชื้อเพลิง ควรตัดการทำงานของปั๊มติ๊กอยู่แล้วครับ ส่วนวิธีการนั้น แล้วแต่ช่างจะทำเช่นไร ก็ทำไปครับ

แต่ว่าเหตุผลของคุณที่ยกมานั้น ยังไม่ถูกต้องนักครับ เพราะว่า ถึงแม้ว่า ปั๊มติ๊กจะทำงาน แต่หัวฉีดน้ำมันไม่จ่ายน้ำมัน เพราะว่าใช้ระบบแก๊สอยู่ ก็ตาม ยังมีระบบเซฟตี้อยู่อีกตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นระบบกลไก ใช้แรงดันอากาศ และ แรงดันน้ำมันเบนซิน เป็นตัวช่วย ซึ่งเรียกกันว่า เรคกูเลเตอร์ ช่วยทำให้แรงดันส่วนเกิน ที่จะทำอันตรายต่อปั๊มติ๊ก หัวฉีด และท่อน้ำมันทั้งหมด ให้แรงดันน้ำมันเบนซินส่วนเกินนี้ไหลกลับเข้าถังน้ำม ันที่ท่อไหลกลับครับผม
__________________
JZM - 5
Moonlight is offline  
The Following 11 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post:
A(RT131) (25-03-2010), bungtor (02-09-2010), CHAI-ENERGY-DEDE (25-03-2010), chpattana (07-06-2011), Dis48 (25-12-2010), maverickman (06-10-2011), nap_ta (25-03-2010), richle (09-09-2010), tatizoodlor (18-01-2014), ton6924 (23-06-2011), watsanratdee1 (19-06-2011)