|
ปกติ เรื่อง OBD ถือเป็นจุดขายทางการตลาดของชุดกล่องแก๊สครับ
เมื่อผมศึกษาเข้าไปถึงวิธีการดึงสัญญาณน้ำมันมาใช้จ่ ายแก๊ส พบว่ามีสามระบบหลัก ๆ ครับ
ระบบแรก ดึงสัญญาณสูบหนึ่งมาใช้ จ่ายแก๊สให้ทั้งหกสูบ กล่าวคือกล่องแก๊สจะดึงค่าสัญญาณหัวฉีดน้ำมันสูบใดสู บหนึ่งออกมา (แล้วแต่ว่าขณะนั้นอ่านได้จากสูบไหน) มาคำนวณชดเชยการจ่ายแก๊ส แล้วใช้ค่าที่ได้ จ่ายแก๊สให้ทุกสูบ
ดังนั้น ค่าสัญญาณฉีดแก๊สของสูบอื่น ๆ จะไม่ตรงกับสัญญาณหัวฉีดน้ำมันของสูบนั้นเองสักทีเดี ยวครับ
ระบบที่สอง จะแบ่งสัญญาณหัวฉีดน้ำมันออกเป็นสองกลุ่ม แต่ละกลุ่มใช้วิธีแบบเดียวกับวิธีแรกครับ
เช่น อ่านสูบหนึ่ง ใช้จ่ายสูบหนึ่ง สอง สาม และอ่านสูบสี่ ใช้จ่าย สูบสี่ ห้า หก ครับ
ระบบที่สาม เป็นการส่งผ่านสัญญาณหัวฉีดน้ำมันไปยังหัวฉีดแก๊สแบบ สูบต่อสูบครับ
ระบบนี้ จะอาศัยความไวของ ECU กล่องแก๊สเป็นสำคัญครับ
กล่าวคือ สัญญาณฉีดน้ำมันของสูบหนึ่งจะถูกอ่าน แล้วผ่านการชดเชยอุณหภูมิ ชดเชยแรงดัน แล้วก็ฉีดแก๊สออกสูบหนึ่งเลย
สูบสอง ก็ใช้วิธีแบบเดียวกัน ไม่มีการยืนสัญญาณข้ามสูบกันครับ
ด้วยตรรกะแบบนี้ จะทำให้การจ่ายแก๊สแม่นยำมากขึ้นกว่าระบบแรกและระบบท ี่สองครับ
ส่วน OBD นั้น เป็นระบบที่เพิ่มขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้จูนรถ จูนง่ยขึ้นครับ แล้วก็ OBD correction นั้น ออกแบบมาเพื่อช่วยในการประหยัดพลังงานเท่านั้นครับ
ผมขออนุญาตยกตัวอย่างโปรแกรมของเอจิสละกันครับ เพราะผมพอจะรู้เรื่องเข้าใจอยู่บ้าง
ของเอจิส จะอ่านค่า LTFT จาก OBD CAN ในการสั่งชดเชยการจ่ายแก๊ส ซึ่งปกติแล้ว ค่า LTFT จะถูกใช้สำหรับการขับขี่ย่าน close loop หรืออีกนัยหนึ่ง เป็นการจ่ายน้ำมัน/แก๊สที่ประหยัดพลังงานที่สุดครับ
สำหรับการขับขี่ย่าน open loop นั้น ของเอจิสจะใช้หน้าตารางชดเชย หรือที่เรียกว่าหน้า map ต่างหากออกไปครับ
ดังนั้น ถ้าเราไม่สามารถต่อ OBD CAN ได้ แต่ถ้าเราใช้ ELM scan tool ในการจูนรถ ส่งที่ได้ ก็ไม่แตกต่างกันครับ
ขอบคุณครับ
|