ดูแบบคำตอบเดียว
เก่า 26-09-2009, 16:06   #11
Moonlight
Super Moderator
 
รูปส่วนตัว Moonlight
 
วันที่สมัคร: Oct 2006
Car Brand: My Brand
Engine Type: 2JZ-GE VVT-i A/T
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
กระทู้: 1,768
Thanks: 633
Thanked 8,042 Times in 1,296 Posts
คะแนน: 19 Moonlight is on a distinguished road
ส่งข้อความผ่าน MSN ถึง Moonlight
อ้างถึง:
กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Litmanen อ่านกระทู้
ขอขอบคุณบทความของลุงมูน มากๆครับ ผมติดตามอ่านอยู่ครับ

ขอสอบถามเป็นความรู้เพิ่มเติม

ในการซื้อรถที่เปลี่ยนเครื่องยนต์มา การที่จะทดสอบระบบเบรคของรถคันนั้นๆ ว่ามีประสิทธิภาพกับการ หยุดรถหรือไม่ในกรณีฉุกเฉิน มีเทคนิค เคล็ดลับอะไรบ้างครับ

รถผม E30 วางเครื่อง 2j หน้าดิส - หลังดรัม (น่าจะเบรคเดิม) ย้ายหม้อลมและ(น่าจะ)เปลี่ยนเป็นแบบชั้นครึ่งแล้ว

ผมขับเองจะรู้จังหวะในการเบรค เคยให้เพื่อนลองขับ เพื่อนบอกว่าเบรคไม่ค่อยอยู่(ใช้ความเร็วระดับนึง) เลยโทรถามเจ้าของเก่า เค้าก็งงว่าทำไมไม่อยู่ ก่อนวางเครื่อง J เคยว่าง SR โบ มาก่อน

จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผม ผมเลยติดอยู่ในใจว่า หน้าดิส - หลังดรัม กับเครื่องเจ มันจะไหวหรือเปล่าครับ แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นเบรคของ Skyline มันจะหยุดดีกว่าเดิมมากขึ้นไหมครับ

ปล. ปัจจุบันไม่ค่อยมั่นใจในระบบเบรคของรถตัวเอง เน้นขับเรื่อยๆ และเร่งแซง ไม่กล้าซิ่ง เพื่อความปลอดภัย

ขอบคุณครับ
เวลาที่เราจะขับรถที่เราไม่เคยชิน สิ่งแรกที่จะต้องทดสอบก่อนเลยก็คือ ประสิทธิภาพการเบรคครับ เพราะนั่นหมายถึง ความปลอดภัย ของชีวิตและทรัพสินทั้งหมดที่อยู่ในรถคันนั้นและภายน อกรถคันนั้นด้วยครับ

เทคนิคในการตรวจสอบประสิทธิภาพ การเบรคของรถคันที่จะทดสอบนั้น ก่อนอื่นเราต้องมีมาตราฐานในใจของเาคร่าวๆอยู่ก่อนคร ับ จากนั้นค่อยนำมาเปรียบเทียบ บวกลบ กับประสิทธิผล ครับ

ในการใช้งานรถแต่ละคันนั้น เมื่อตัวเราเองเป็นผู้ขับ เราก็ต้องใช้ความเคยชินในการห้ามล้อของรถที่เราขับอย ู่ประจำเป็นมาตราฐานในใจก่อนครับ จากนั้นให้ตรวจสอบว่า รถที่เรากำลังจะทดสอบนั้น มีอุปกรณ์ช่วยอะไรบ้าง เช่น
  • กำลังเครื่องยนต์เท่าไหร่ (ทดสอบแรงบิดด้วยการลองขับได้ครับ)
  • มี ABS มั้ย (วิธีการเบรคของระบบ ABS จะต่างจากรถที่ไม่มี ABS ครับ)
  • ขนาดและคุณภาพของยางล้อรถ (ขนาดหน้ายาง จะมีผลต่อความมั่นคงในการขับขี่ และการเสียดทานต่อพื้นถนนครับ ความหนาของดอกยาง ความนิ่ม/แข็งของเนื้อยาง มีผลต่อสมรรถนะในการขับขี่เช่นกันครับ)
  • ชนิดและขนาดของระบบเบรค (หน้าดีสหลังดรัม หรือ ดีสทั้ง 4 ล้อ)
  • ขนาดของหม้อลมเบรค (ช่วยเสริมแรงในการห้ามล้อ)

เป็นต้น

หลังจากตรวจสอบแล้ว ก็นำมาบวกลบ ความน่าจะเป็นเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพการเบรครวมของ รถที่เราเคยชิน แล้วเก็บข้อมูลไว้ในใจ จากนั้นก็เริ่มจากขับจริงครับ

ทดสอบขับแบบใช้แรงบิดแล้วเบรค
ทดสอบแบบขับความเร็วสูงแล้วเบรค
ทดสอบการใช้เอนจิ้นเบรค แล้ว ชะลอรถ แล้วค่อยเบรค
ทดสอบการชะลอรถ
ขณะทดสอบให้ฟังเสียงเบรคไปด้วยครับ

แล้วเปรียบเทียบระยะกับค่าที่เรา (บวก,ลบ) ระยะความเคยชินของรถเราที่อยู่ในใจ เราก็จะทราบว่า รถคันนั้นๆ มีประสิทธิภาพการเบรคเป็นอย่างไร ครับ

เมื่อเราใช้งานจริง เราจะได้มี ระยะความปลอดภัยคร่าวๆอยู่ในใจ เวลาเราขับไปอยู่ในสภาพถนนที่ผิดแปลก ก็จะได้ เพิ่มความระมัดระวังเพิ่มขึ้น เช่น สภาพถนน ขรุขระ กรวดทราบ น้ำขัง พื้นยางมอตอย พื้นคอนกรีต พื้นเปียกลื่น เป็นต้น

ส่วนแต่ละคนที่ มาขับรถคันเดียวกัน ให้ความคิดเห็นเรื่องประสิทธิภาพการเบรคไม่เหมือนกัน เป็นเพราะว่า แต่ละคน เปรียบเทียบ ค่า ที่อยู่ในใจนั้น ในมาตราฐานที่ไม่เท่ากันครับ

อ้างถึง:
ปล. ปัจจุบันไม่ค่อยมั่นใจในระบบเบรคของรถตัวเอง เน้นขับเรื่อยๆ และเร่งแซง ไม่กล้าซิ่ง เพื่อความปลอดภัย
ข้างบนนี้ เป็น ระบบเบรค แบบหนึ่งของผู้ขับขี่ที่ดีครับ คือ เบรคในใจเราไว้ก่อน ครับ (ความไม่ประมาท คือการเตรียมพร้อมเพื่อความปลอดภัยครับ)

ผมขอยก ข้อมูลเรื่อง ดรัมเบรค กับดีสเบรค เกี่ยวกับ ข้อดี ข้อด้อย ไปไว้ Reply ถัดไปนะครับ

__________________
JZM - 5
Moonlight is offline   ตอบพร้อมอ้างถึงข้อความเดิม
The Following 6 Users Say Thank You to Moonlight For This Useful Post:
A31@udon (24-12-2011), ete36 (28-09-2009), gotlaw (28-09-2009), Litmanen (26-09-2009), nibley (27-09-2009), wk7000 (26-09-2009)