คราวนี้ มาถึง คำถามที่ว่า แล้วเราจะเปลี่ยนระบบรองรับน้ำหนัก จากแบบคานแข็งแหนบคู่ เป็นระบบคอยล์สปริงอิสระ ได้หรือไม่
ขอตอบว่า ได้ครับ แต่ว่า คุณต้องดู คุณสมบัติข้อที่ 1 และ 2 ของทั้ง 2 ระบบให้ดีนะครับ ก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนแปลง เพราะว่า มันตรงกันข้ามกันเลยครับ ระบบรองรับน้ำหนักทั้ง 2 แบบ ถูกกำหนดมาให้ใช้งานไม่เหมือนกันครับ เปลี่ยนระบบ ก็เท่ากับเปลี่ยนวิถีทางการใช้งานทันทีครับ
เมื่อตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนระบบจริงๆแล้ว ก็ไม่ใช่ว่า คิดจะจับคอยล์สปริงรุ่นไหนมาใส่ในรถเราได้ทันทีเลยนะ ครับ (อ่านคุณสมบัติของระบบคอยล์สปริงข้อที่ 2 ให้ดีครับ) คุณต้องเลือกหา รถที่ใช้ระบบคอยล์สปริงอิสระ ที่มีโครงสร้างตังรถ (แชซซี่) ใกล้เคียงกับรถของเรา (รวมทั้งเรื่องความยาวของตัวรถก็สำคัญด้วยครับ) เพื่อให้ดัดแปลง จุดยึดต่างๆได้ง่าย ไม่สูญเสียโครงสร้างการรองรับน้ำหนักครับ
คุณลองอ่าน คุณสมบัติข้อที่ 4 ของระบบรองรับน้ำหนักแบบคานแข็ง แล้วคุณจะรู้ว่า จริงๆแล้ว ระบบนี้ สามารถขับขี่ให้เกิดความนิ่มนวลได้ครับ เมื่อมีการโหลดน้ำหนักบรรทุก หรือจะกล่าวกลับกันว่า ถ้าเราปรับแก้แหนบสปริง ให้อ่อนลง เพื่อโหลดบรรทุกน้ำหนักเท่าเดิม แล้วทำให้การขับขี่มีความนิ่มนวล ก็ได้ครับ
รถผมเอง เป็นรถแวน ท้ายรถก็หนักพอดูครับ ปัจจุบัน ใช้รถสำหรับครอบครัว (ขับไปไหน ก็ไปกันทั้งครอบครัว) สมาชิกทุกคนที่นั่งในรถ ต่างก็ยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่า ความนิ่มนวล ไม่แพ้ รถเก๋งยุโรปที่ใช้คอยล์สปริงอิสระเลยครับ แต่ข้อดีของรถแวนคันนี้คือ นั่งได้สบายกว่า ใครอยากนอนก็นอนแผ่หราได้เลยครับ และมีข้อดีอีกข้อหนึ่งที่ ส่วนใหญ่ไม่ได้กล่าวถึงกันคือ ระบบคานแข็งแหนบคู่นั้น เป็นระบบกันโคลงในตัวของมันเองครับ การขับขี่เข้าโค้ง ทำได้ดี ทั้งๆที่ไม่มีโครงสร้างซับซ้อนอะไรเลย ของเพียงแต่มี โช๊คอัพฯ หนึบๆดีๆสักคู่ ก็เพียงพอแล้วครับ เพราะว่ามี เพลากลางซึ่งเป็นคานแข็งและมีแหนบคู่ ร่วมกันเป็นตัวกันโคลงอย่างดีเลยครับ
__________________
JZM - 5
|