หม้อน้ำ1ช่องใหญ่กับ2ช่องเล็ก
 

ถ้าขนาดกว้าง สูง หนาเท่ากัน ระหว่างแบบ1ช่องใหญ่กับ2ช่องเล็กจะแตกต่างกันไหม ทั้งอลูมิเนียมและทองแดงครับ

...
ต่างกันแน่นอนครับ
1 ช่องใหญ่ จุน้ำมากกว่า เนื้อโลหะน้อยกว่า
2 ช่องเล็ก จุน้ำน้อยกว่า เนื้อโลหะมากกว่า
ทั้งวัสดุและความหนาทุกแบบต้องพึ่งพา
น้ำหมุนเวียนที่สะอาดมากๆ
พัดลมที่มีกำลังแรงขับเหมาะสม สม่ำเสมอ
วาล์วน้ำ มิตซูฯ76.5 c'
ถ้าเป็นพัดลมไฮโดรลิก ต้องใส่ออยระบายฯครับ
เวลาม้ำมันร้อนมากๆแรงดันจะตก แต่เรามองไม่เห็น
ซัดไม่ยก ความร้อนขึ้นแล้วลงยาก
กล่องพัดลม ลองหาสลับเสียบหลายๆใบครับ
อาการไม่เหมือนกัน
..น้ำยาฯใส่หม้อน้ำข้ามไปเลยครับ ถ้าระบบดีจริง
ผมลองมาแล้ว น้ำประปาล้วนๆ มีค่าเท่ากัน
ถ้าตาน้ำมีสนิม น้ำยาก็จะไปกัดสนิมออกมาตัน
ในหม้อน้ำอีก
หม้อน้ำตอนนี้อลูมิเนียมอย่างเดียวครับ
ฟรินทองแดงแท้ๆ แทบไม่มีร้านทำแล้วครับ

1 ช่องใหญ่ จุน้ำมากกว่า เนื้อโลหะน้อยกว่า
2 ช่องเล็ก จุน้ำน้อยกว่า เนื้อโลหะมากกว่า
แบบไหนจะดีกว่ากันครับ

.
ปริมาณน้ำไม่ต่างกันมากครับ กรณีหนาเท่ากัน
อยู่ที่พัดลมฯครับ ลมแรงๆได้เปรียบ เห็นผล
ส่วนมากหม้อน้ำซิ่ง อลูฯ
ถ้าหนาไม่เกิน35มม จะเป็นช่องเดียวใหญ่
หนาระดับ45 -50มม จะเป็น2ช่องครับ
.
แบบบางจุน้ำน้อย ระบายได้เร็วเหมาะกับในเมืองเครื่องเดิมๆ ไม่ค่อยใช้รอบสูง ไม่มีตัวสร้างความร้อนผกผัน
.
แบบหนาได้เปรียบจุน้ำมากกว่า แต่ต้องเพิ่มกำลังลมตาม
เพื่อระบายให้ทัน ลดอุณหภูมิให้ได้มากสุด ไม่งั้นมีหวัง
น้ำร้อนๆก็วนกลับเข้าไปในเครื่องอีก
.
บ้านเราอากาศร้อนมากครับ
จุน้ำไว้เยอะกว่าเดิมโรงงานของเครื่องรุ่นนั้น
โมพัดลมให้แรงๆไว้ มีบังลมหม้อน้ำ ให้ลมเข้า ออกเป็นระบบ
ที่สำคัญ พวกฟรินครีบระบายทั้งอินเตอร์ ทั้งแผงแอร์ต้องสะอาด ลมผ่านได้เร็วสะดวก ไม่ควรไปติดตั้งอุปกรณ์อะไร
เช่น แตรสีสวยตัวใหญ่ๆ ฯลฯ
ทำอะไรไปเยอะๆหลายเงิน แต่ยังมีสิ่งสกปรกอุดตัน
น้ำก็มีสนิม ไม่คุ้มค่าครับ
.
ถ้าเลือกซื้อหม้อน้ำ เอาตลับเมตรวัดความหนาฟรินเลยครับ อย่าให้บางเท่าของเดิมของเครื่องรุ่นนั้นครับ
หนากว่า 1เท่าต้วแต่แรงลมถึงก็ไม่มีข้อเสียครับ

ขอบคุณครับ