คู่มือการใช้...PROFEC B Spec II ครับ...ลอกเขามา
PROFEC B Spec II
เหยียบให้มิดเลยเพ่ ! :emo_toon24: ทำความรู้จักกับความหมายของค่าต่างๆ กันก่อนที่จะเริ่มปรับดีกว่านะครับ เอาแบบชัวร์ๆ ใช้งานให้เต็มทุก function เลยดีกว่า SET หมายถึง boost pressure ที่ต้องการ แต่แทนที่จะตั้งเป็น bar หรือ psi แบบทั่วๆ ไป สำหรับของ Greddy Profec B spec II จะใช้การตั้ง % ของ solenoid valve คือ จาก 0% น้อยสุด ไปจนถึง 100% สูงสุด คือ valve ปิดตลอด จะไม่มีลมไปยก wastegate เลย คือ turbo ทำลมได้เท่าไหร่ก็เท่านั้นล่ะ ซึ่งการปรับตั้งในลักษณะนี้จะต้องอาศัยการทดลองค่าไป เรื่อยๆ คือค่อยๆ ปรับ % ไป แล้วลองขับแบบเหยียบมิดเลย อย่าลองมาก เดี๋ยวพังไม่รู้ด้วย เพราะถ้าบูสต์ไหล คือมันจะไปเลยนะ ก็ดูปรับ % ที่จะให้แรงบูสต์ที่ต้องการตลอดช่วง rpm ที่ต้องการ ซึ่ง SET นี้จะต้องตั้งแบบ conservative คือค่อยๆ เพิ่มไป ค่านี้ถ้าเยอะก็จะได้บูสต์เยอะ ซึ่งเขาแนะนำว่าเริ่มซัก 25% ก็พอไหว แค่นี้ก็เยอะพอแล้ว อย่างที่บอกครับ ค่อยๆ เพิ่มไป ซึ่งค่า SET นี้ ก็จะมีผลกับการบูสต์ของ turbo ซึ่งจะสัมพันธ์กับค่า GAIN ที่จะกล่าวถึงต่อไปด้วยครับ GAIN หมายถึง ค่าที่ใช้ปรับตั้งเพื่อให้ได้ความสม่ำเสมอของแรงดัน ผู้ผลิตเขาบอกว่าให้เริ่มต้นไว้ที่ 0 นั่นแหละดีแล้ว แล้วพอตอนเอารถไปวิ่งทดสอบแบบเหยียบมิด ถ้าขณะทดสอบ ถ้าสังเกตุว่าบูสต์มาเต็ม แล้วลดลงในขณะที่รอบสูง ก็ให้ปรับ gain ขึ้น ทีละนิดหน่อย เช่นอาจเริ่มต้นที่ 5% แล้วค่อย fine tune อีกทีละ 1% ไปเรื่อยๆ ซึ่งการปรับตั้งค่า GAIN นี้ จะมีผลทำให้แรงบูสต์สูงขึ้น ถึงแม้ว่าค่า SET จะอยู่ที่เดิมก็ตาม เพราะฉะนั้นในตอนเริ่มต้น ควรปรับตั้ง GAIN ไว้ที่ 0 เสมอ START BOOST ( หรือที่แสดงว่า SET GAIN บนหน้าปัด ) คือ ค่าต่ำสุดที่จะให้ปรับบูสต์เริ่มทำงาน สำหรับการใช้งานปกติแนะนำว่าให้ปรับให้ไกล้เคียงกับค ่าแรงดันที่ตั้งไว้ใน SET ซึ่งจะมีผลให้บูสต์มาเร็วขึ้น เช่นกรณีที่ตั้ง SET ไว้เพื่อให้ได้บูสต์คงที่ที่ 0.80 bar อาจจะตั้ง SET GAIN ไว้ที่ 0.70 bar เป็นต้น หมายเหตุ : การตั้ง SET GAIN ใกล้กับแรงดันที่ SET มากเกินไปจะทำให้เกิดอาการ boost spike คือบูสต์จะเกินที่ตั้งไว้ เล็กน้อย แล้วถอยกลับลงมา ซึ่งบางคนชอบ บางคนก็ไม่ชอบ เพราะอาจทำให้กำลังรถควบคุมยาก หรืออาจถึงกับพังได้ ถ้าเล่นกันที่บูสต์สูงๆ rpm สูงๆ ซึ่งคุณสามารถ fine-tune ค่า SET GAIN ให้ใกล้กับค่า SET ให้มากที่สุด โดยไม่เกิด boost spike จะทำให้ได้การตอบสนองของ turbo ที่ดีมาก ซึ่งเขาแนะนำว่าค่าที่ว่านี้ ควรตั้งใกล้กันไม่เกิน 4 psi ( 0.3 bar ? ) WARNING คือการกำหนดค่าแรงดันสูงสุดที่คุณจะใช้งาน โดยสามารถกำหนดเป็นค่าตัวเลขแรงดันได้เลย เหมือนกับตอนตั้ง SET GAIN ซึ่งเมื่อแรงดัน turbo สูงถึงค่าที่กำหนดไว้ จะทำให้ LIMITER ทำงาน โดยการส่งสัญญาณเตือน และทำการลดบูสต์ลงโดยอัตโนมัติ ตามค่า % ของการลดค่าที่ปรับตั้งได้ โดยปกติแล้ว WARNING จะ set ให้อยู่เกินค่าแรงดัน Hi Boost ไปเพียงเล็กน้อย เพื่อช่วยป้องกันเครื่องยนต์ LIMITER คือ boost percentage ที่ตัวปรับบูสต์จะใช้เมื่อเกิด WARNING ซึ่งสามารถตั้งเป็นค่าเดียวกับ SET คือไม่ลดเลย เตือนอย่างเดียว หรือให้ลดไปจนถึง 0% คือ ปิดการทำงานของวาล์วปรับบูสต์ไปเลยก็ได้ ซึ่งแนะนำว่าให้ลดลงซัก 5% - 10% กำลังสวย รถจะวิ่งไม่ตื้อมาก PEAK คือแรงดันสูงสุดที่ปรับบูสต์บันทึกไว้ จนกว่าจะลบทิ้ง การลบค่าทำได้โดยขั้นตอนต่อไปนี้ - กำหนดให้แสดง peak boost - กดลูกบิด แช่ไว้ จนมีเสียง ตี๊ด - หน้าปัดจะแสดง --- LAST BOOST แสดงค่าแรงดันสุดท้ายที่เกิดขึ้นเมื่อคุณถอนคันเร่งเ กิน 3 วินาที แนะนำว่าให้เปิด function นี้ไว้เสมอ เพราะเป็นเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์การทำงานของรถคุ ณได้ดี โปรดระลึกเสมอ ว่าการเลือกให้แสดงค่าเป็น kPa จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ kPa ที่แท้จริง แต่เป็นค่า bars ซึ่ง Greddy มักจะติดเครื่องหมาย x 100 kPa ไว้บนหน้าปัด ซึ่ง 100 kPa จะแสดงว่าเป็น 1.0 x 100 kPa ซึ่งถ้าคุณเลือกให้แสดงค่าเป็น psi คราวนี้จะงงหนักเลย psi x 10 จะแสดงเป็น 190 ไปกันใหญ่แล้วนั่น และเมื่อคุณจ่ายไฟให้กับ Profec B Spec II เป็นครั้งแรก ค่า WARNING จะอยู่ที่ 14.5 psi ( 100kPa หรือ 1.0 bar ) เสมอ ซึ่งข้อมูลนี้จะไม่มีแสดงอยู่ใน manual นะ อุณหภูมิของอากาศก็มีผลกับการทำงานของ Profec B Spec II นะครับ ซึ่งพออากาศเปลี่ยน เขาก็เลยแนะนำว่า ทำ Lo ตอนอากาศเย็น แล้วทำ Hi ตอนอากาศร้อน ก็จะดีนะ เพราะคุณจะได้ไม่ไส่บูสต์ที่มากเกินไป แล้วเดี๋ยวเครื่องมันจะไม่ทน สำหรับแรงดันบูสต์ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละเกียร์อาจจะแต กต่างกัน ทำให้การปรับตั้งดูจะซับซ้อนหน่อย แนะนำว่าให้ทดสอบแรงดัน และอาการของ turbo ในเกียร์ที่สูงหน่อยก็ดี จะได้ไม่มีปัญหาบูสต์เกินในภายหลัง ซึ่งอันนี้ก็เป็นปัญหาเดียวกันกับปรับบูสต์ electronics ทั่วๆ ไป เขาว่า วิธีการปรับตั้งที่น่าจะชดเชยปัญหาเหล่านี้ได้ ให้ทำแบบนี้ครับ 1. ปรับค่าให้ใช้งานได้โดยปลอดภัยที่สุด โดยที่ยังไม่มีปัญหากับ LIMITER ก็คือทดสอบ และปรับกันในเกียร์สุดท้าย ( 5 หรือ 6 สำหรับผู้โชคดีบางคน ) 2. ให้ปรับค่า Lo และ Hi ให้สามารถใช้งานได้ดีในทุกๆ เกียร์ ซึ่งการทดสอบอาจกระทำได้โดยการกด Hi ระหว่างที่คุณกำลังเปลี่ยนขึ้นเกียร์ 3 หรือเมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการใช้งาน Hi เพราะเหตุนี้ Greddy ถึงออกแบบ controller ที่สามารถติดตั้งบนพวงมาลัยได้เลย เพื่อความสะดวกในการปรับ Lo-Hi สรุปขั้นตอนที่ต้องทำตามลำดับ เพื่อให้ใช้งานได้ครบทุก function แบบแจ๋วๆ เลย 1. ถ้าต้องการเปลี่ยนค่าให้แสดงเป็น psi ให้ทำซะ ดูในคู่มือของคุณเอาแล้วกัน ว่าทำไง 2. ตั้งค่า WARNING ที่ต้องการซะ เอาให้ปลอดภัยกับเครื่องคุณนะ ปกติแล้วเกิน Hi ซัก 0.1 ก็พอแล้ว 3. ตั้งค่า START BOOST ( SET GAIN ) ไปที่แรงดันที่ต้องการ ปกติแล้วน้อยกว่า Lo ซัก 0.1 ก็พอแล้ว 4. ล้างค่า PEAK BOOST ดูวิธีด้านบนเอา 5. ปรับ LAST BOOST เป็น ON ซะด้วย 6. ปรับ GAIN เป็น 0 7. ปรับ SET ไป 25% หรือต่ำๆ หน่อยก็ปลอดภัยดีนะ 8. ปรับ LIMITER ไปที่ค่า SET ลบ 5% ( โดยอาจกำหนดค่าเป็น 20% ถ้าใช้ค่าตัวอย่างในข้อ 7 ) 9. ทดสอบการเหี่ยวลงของบูสต์ที่รอบสูง โดยคุณสามารถทำในถนนโล่งๆ ไม่มีรถรอบข้าง และที่สำคัญต้องไม่มีตำรวจด้วย ดีที่สุดเลยคือให้คนอื่นตั้งให้คุณ แล้วคุณขับอย่างเดียว ใช้สมาธิให้เต็มที่ จะได้ไม่มีใครเจ็บตัวโดยไม่จำเป็น ถ้าพบว่าไม่มีอาการบูสต์เหี่ยว ก็โชคดีไป ข้ามไปขั้นตอนต่อไปได้เลย แต่ถ้าพบว่ามีบูสต์ตกลงที่รอบเครื่องสูงๆ ก็ให้ลองปรับ gain เพิ่มไปซัก 5% แล้วทดสอบใหม่ อย่าลืมว่าถ้าปรับ gain เพิ่มขึ้น แรงบูสต์โดยรวมที่ได้ก็จะมากขึ้นด้วย ซึ่งอาจทำให้คุณต้องย้อนไปปรับ SET ใหม่อีก ปรับจนได้แรงดันที่นิ่งตามที่ต้องการ 10. เข้าไปรับค่า SET ขึ้นทีละ 2% แล้วดูปรับค่า WARNING และ กำหนด LIMITER ที่เหมาะสมด้วย แล้วก็ทดสอบขับไปเรื่อยๆ แล้วเพิ่มไปทีละ 2% ไปจนกว่าจะได้แรงดันที่ต้องการ ระวังเครื่องพังนะครับ ไม่ใช่ว่าลองแต่จะให้บูสต์มาเร็ว แรงดันเท่านั้นเท่านี้ และต้องนิ่งเป็นหิน แต่ลืมสังเกตุไปว่าเครื่องทนได้แค่ไหน ความร้อนขึ้นหรือเปล่า คลัตช์จะลื่นหรือยัง อย่างที่บอกมาในข้างต้นครับ ต้องมีคนขับ และคนปรับตั้ง อย่าไปทำคนเดียว เดี๋ยวพลาด 11. เสร็จแล้วไปเพิ่ม START BOOST ( SET GAIN ) ทีละ 1 ไปเรื่อยๆ จนเจออาการบูสต์เหวี่ยงเกินไปนิดนึง แล้วตกกลับมา แปลว่านั่นล่ะมากเกินไปหน่อยแล้ว ก็ให้ถอยค่าลงนิดนึง เอาจนได้บูสต์ที่มาเร็ว และนิ่งโดยไม่เหวี่ยงเกิน คือได้ค่าที่ถูกต้องแล้ว ทำเสร็จ 11 ขั้นตอนนี้แล้ว ที่เหลือก็แค่ fine-tune ( ปรับละเอียด ) แล้วครับ ก็ทำ 9-10-11 นี่ล่ะ แต่คราวนี้ปรับค่าทีละ 1 พอ ปรับจนพอใจแล้วก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมันอีก เอาไว้เปลี่ยน turbo แล้วค่อยมาว่ากันอีกทีครับ ปรับบูสต์รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ดีมากครับ ขอให้ผู้ที่ครอบครองอยู่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ ครับ ขอบคุณ คุณ babyboom http://www.siamspeed.com/index.php?topic=27135.0 |
ขอบคุณน้าออม(เก๊าท์)สำหรับข้อมูลดีๆคร้าฟ...:emo_toon11: :emo_toon11:
|
เอามาลงแต่ก็ยังปรับไม่สำเร็จซักที เพราะไม่มีคนปรับให้ ขับเองปรับเองไม่ทันเลย มันอันตรายด้วย:rolleyes:
|
อ้างถึง:
|
ขอบคุณมากครับ นี่แหละสิ่งที่ผมต้องการ:wink:
|
ขอบคุณครับลุง 55555:emo_toon24:
|
ก๊อปเก็บไว้ก่อน
เผื่ออนาคตมีใช้จะได้ไม่ต้องหา ขอบคุณมากมายครับ |
อ้างถึง:
|
ผมยังใช้ไม่ค่อยเป็นเลยตัวนี้.....:biggrin:
|
อ้างถึง:
อ้างถึง:
|
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:51 |
Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels