ClubJZ Forums - ถามเรื่องระบบไฟฟ้าของรถหน่อยครับ

เท่าที่คุณให้ข้อมูลเล่าอาการมานั้น ไม่เพียงพอให้วิเคราห์อาการครับ แต่เมื่อ PM ขอให้ผมวิเคราะห์อาการให้ ผมจึงต้องสนองตอบครับ โดยจะของใช้กระทู้นี้ ไล่เรียงความน่าจะเป็นทั้งหมด เริ่มจากพื้นฐาน ให้คุณได้นำไปวิเคราะห์เองว่า ปัญหานั้น เกิดจากแบตเตอร์รี่ หรือ เกิดจากไดชาร์จ หรือ เกิดจาก ทั้งแบตเตอร์รี่และไดชาร์จ หรือ เกิดจาก อุปกรณ์อื่นๆร่วมด้วย หรือเกิดจาก การวายริ่งสายไฟไม่ดี หรืออะไรก็แล้วแต่ครับ คุณต้องเก็บข้อมูล แล้ววิเคราะห์ให้ออกครับ

จากที่คุณเล่ามา อาการของรถคุณตอนนี้ ไม่มีกระแสไฟในแบตเตอร์รี่ ทำให้สตาร์ทรถไม่ได้ เสียงเงียบ ซึ่งที่มาที่ไปของก่อนที่จะเกิดอาการนี้ ผมไม่ทราบ จึงขอกล่าวรวมๆกันดังนี้ครับ

แบตเตอร์รี่มีหน้าที่

เก็บประจุไฟฟ้าไว้สำรองจ่ายไฟ เมื่อเครื่องยนต์ทำงาน ไดชาร์จจ่ายไฟออกมาเหลือเฟือ
แต่เมื่อไดชาร์จทำการจ่ายกระแสไฟให้เครื่องใช้ไฟฟ้าไ ม่พอ หรือไม่ทัน ก็จะใช้กระแสไฟจากแบตเตอร์รี่ที่สำรองประจุไฟไว้ก่อน นั้น
จ่ายกระแสไฟ เมื่อไดชาร์จยังไม่ได้ทำงาน เช่นตอนสตาร์ทรถ

ส่วนไดชาร์จ มีหน้าที่

ชาร์จไฟเมื่อเครื่องยนต์ทำงาน โดยจ่ายกระแสไฟฟ้าไปให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในรถทั้งหมด
ถ้าจ่ายกระแสไฟให้เครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วยังเหลือ ก็จะเก็บประจุเข้าไปในแบตเตอร์รี่
ถ้าแบตเตอร์รี่เก็บประจุเต็มแล้ว ไดชาร์จจะมีคัดเอาท์อัตโนมัติ จนกว่า จะมีการใช้ไฟฟ้า กลับไปทำงานในข้อ 1 ใหม่

แต่เมื่อบัดนี้ สมมุติว่า รถของคุณ เวลาสตาร์ทรถ แต่แบตเตอร์รี่ไม่มีไฟฟ้าเพียงพอให้สตาร์ทเวลาบิดสวิ ทช์กุญแจ จะต้องได้ยินเสียงสตาร์ท แบบอ่อนๆ หรืออ่อนแรง แต่สตาร์ทไม่ติด ถ้ายังดื้อที่จะบิดสตาร์ทไปเรื่อยๆ เสียงสตาร์ทจะอ่อนลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง ไม่มีเสียง ถ้าเป็นเช่นนี้ จะเรียกว่า ประจุไฟฟ้าในแบตเตอร์รี่หมด ซึ่งสาเหตุของประจุไฟฟ้าในแบตเตอร์รี่หมด มีดังต่อไปนี้

ไฟรั่วลงกราวน์ ทิ้งไว้นานๆ ประจุไฟในแบตฯก็จะอ่อนลงเรื่อยๆจนหมดไป
แบตเตอร์รี่เสื่อม ชนิดไม่ยอมรับประจุไฟจากไดชาร์จ เมื่อมีการใช้กระแสไฟฟ้าจากแบตเตอร์รี่ไปเรื่อยๆ ประจุไฟในแบตเตอร์รี่ก็เกลี้ยง
แบตเตอร์รี่เสื่อม ชนิด คายประจุไฟฟ้าออกเอง เมื่อทิ้งรถไว้ระยะเวลาหนึ่ง (ไม่ได้สตาร์ทใช้รถ)
ไดชาร์จเสื่อม ไม่ยอมชาร์จกระแสไฟ ทำให้ เวลาสคาร์ทรถติดแล้ว เมื่อไดชาร์จไม่ทำงาน ระบบจึงบายพาสมาให้แบตเตอร์รี่ทำงานแทน ซึ่งแบตฯไม่ได้รับกระแสไฟประจุเพิ่ม แต่ต้องถูกดึงไปใช้ตลอดเวลา ไม่นาน ไฟแบตฯก็หมดครับ เครื่องดับ สตาร์ทรถใหม่ ก็จะสตาร์ทรถไฟติด แต่จะมีเสียงสตาร์ทแบบอ่อนแรง ดังกล่าวเบื้องต้น จนกระทั่งเงียบไปครับ

อาการที่ 1 - 3 นั้น ถ้ามีการพ่วงแบตเตอร์รี่ เพื่อทำการสตาร์ทรถให้ติด สามารถขับใช้งานได้ ปกติครับ ส่วนอาการที่ 4 นั้น ถึงแม้พ่วงแบตฯสตาร์ทรถติดแล้วก็ตาม ใช้ไฟได้แปปเดียว (แปปจริงๆครับ ไม่เกิน 10 นาที) เครื่องก็จะดับ จากนั้น สตาร์ทใหม่ก็ไม่ติดครับ

ส่วนอาการบิดกุญแจสตาร์ทรถแล้ว เงียบ นั้น มีการแตกประเด็นให้วิเคราะห์ได้อีกมากมายครับ เช่น

หน้าคอนแทคสวิทช์กุญแจ มีปัญหา
รีเลย์ช่วยสตาร์ททำงานบกพร่อง
สายไฟจากสวิทช์กุญแจไฟที่รีเลย์ช่วยสตาร์ท หรือสายไฟจากรีเลย์ช่วยสตาร์ทไปที่ไดสตาร์ท หลุด หรือขาด หรือ ลัดวงจร
ขั้วสายไฟ ไดสตาร์ท หลุดหลวม
เข้าเกียร์ อื่นๆที่ไม่ใช่เกียร์ N หรือ P
เป็นต้น

ส่วนอาการบิดกุญแจสตาร์ทแล้ว มีเสียง มีกำลัง (เสียงไม่เหมือนแบตเตอร์รี่หมด) แต่สตาร์ทไม่ติด มีการแตกประเด็นให้วิเคราะห์ได้อีกมากมายครับ เช่น

รีเลย์ปั๊มติ๊ก ชำรุด หรือสายไฟหลุดหลวม
ปั๊มติ๊กมีปัญหา
กรองเบนซินตัน
ไดชาร์จเสื่อมเสีย
คอยล์ ชำรุด
สายไฟคอยล์ หรือสายหัวเทียน หลุด หรือขาด
หน้าทองขาวจานจ่าย (รุ่นที่ใช้จานจ่าย) สึก หรือมีขี้เกลือ
เป็นต้น

คุณลองใจเย็นๆค่อยๆไล่เรียงอาการก่อนที่จะมีปัญหา ค่อยๆนึก ผมคิดว่า คุณน่าจะคิดออกว่า ต้นเหตุเกิดจากอะไรนะครับ