มาทำให้วีโก้ เบรคดีกันเหอะ
1 ไฟล์แนบ
มาทำให้วีโก้ เบรคดีกันเหอะ แบบฟรีๆ อะนะ
โดยปกติวีโก้ที่พวกเราใช้เป็นรถกะบะที่ถูกทำมาเพื่อก ารพานิชย์(ขนของ) ทางโรงงานเลยปรับตั้งการกระจายแรงเบรคหน้าหลังมาเป็น แบบหน้าจับมากกว่าหลัง(มากๆ)เผื่อมาสำหรับการบรรทุกข องหนักๆ ซึ่งมันจะออกอาการที่เรียกว่าผิดธรรมชาติของรถทั่วๆไ ป คือ เวลาเหยียบเบรคแล้วจะรู้สึกเเข็งๆ ทื่อๆ ต้องออกแรงกดแป้นเบรคหนักๆรถถึงจะเบรคอยู่ แต่ABSก็จะทำงานเร็ว ทำให้รู้สึกเกร็งๆลุ้นๆตลอด ซึ่งในการใช้งานจริงหลายๆคนจะรู้สึกได้เลยว่า เมื่อมีการบรรทุกของในกะบะมากๆการทรงตัวและระบบเบรคจ ะดีผิดหูผิดตา เหยียบเบรคแล้วรู้สึกว่าเบรคดีนิ่มนวลไม่แข็งไม่ทื่อ ต่างกับการวิ่งรถตัวเปล่าที่มันจะออกอาการเด้งๆและทื ่อๆแข็งๆเ ดังนั้นเมื่อเรานำวีโก้ทั้งรุ่น2ประตู รุ่นแค๊ป และ4ประตูมาใช้งานแทนรถเก๋ง เราจึงต้องมีการปรับตั้งLSPVกันนิดหน่อย หลายคนมักจะถามว่า ทำไมต้องปรับ เพราะโรงงานปรับมาก็น่าจะดีอยู่แล้ว หรือมันจะปรับได้เหรอ คำตอบคือ ปรับได้ เพราะถ้าปรับไม่ได้เค้าคงไม่ทำเกลียวมาให้ปรับหรอกสู ้ทำเป็นแบบตายตัวมาให้เลย ลดต้นทุนค่าทำเกลียว และใส่น๊อตล๊อคไปได้อีกหลายบาท การปรับตั้งก็ไม่ยาก ใช้เพียงแค่ประเเจเบอร์12เพียงอันเดียว แล้วมุดเข้าใต้ท้องรถไปปรับตั้ง โดยการปรับตั้งผมจะใช้วิธีการปรับโดยการขันขึ้น 4-6เกลียวตามแบบของรถ(โดยปกติ จากโรงงานจะถูกปรับมาที่กึ่งกลางของเกลียว) เพื่อเปิดวาล์วส่งแรงดันน้ำมันเบรคไปข้างหลัง คล้ายๆกับการหลอกวาล์วว่ามีของบรรทุกอยู่ ผลที่ได้อยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่าน่าพึงพอใจ เพราะก่อนปรับ ระบบเบรคABSมันทำงานชนิดที่เรียกว่าทำพร่ำเพรื่อ เหยียบเบรคหน่อยเดียวABSมันก็ทำงาน แต่หลังปรับระบบเบรคABSก็ทำงานปกติเหมือนกับรถเก๋งตา มที่มันสมควรทำ คือ เบรคได้ เลียได้ กดหนักได้ พอกระทันหันกระแทกเบรคแรงๆABSค่อยทำงาน ไม่ทำพร่ำเพรื่อเหมือนก่อนปรับ ทำให้การควบคุมรถทำได้ง่ายไม่เกร็งเวลาเบรคครับ สุตรการปรับมันก็เหมือนกับการทำอาหาร สูตรใครสูตรมันแล้วแต่ใครจะชอบครับ แต่โดยส่วนตัวผมและเพื่อนๆ สมาชิกวีโก้คลับหลายๆคนก็จะใช้วิธีปรับตั้งแบบขันขึ้ นเหมือนกับที่ผมทำครับเพราะว่า มันจะรู้สึกนุ่มนวลเท้ามากกว่าเดิม สามารถเลียเบรคได้ ที่สำคัญไม่ต้องลุ้นเหมือนอย่างเคย ลองปรับดูเอง ถ้าไม่ชอบก็ปรับกลับคืน รถเราเองไม่ต้องเสียตังค์ครับ การต่อแกนจะใช้สำหรับรถที่เปลี่ยนแปลงกายภาพ เช่น4X4หรือ4x2ที่ยกขึ้นมากกว่า2-3นิ้วรถพวกนี้เราต้องจ่อแกนถ้าไม่ต่อจะมีผลคล้ายๆกับ การขันลง(จ่ายแรงเบรคไปข้างหน้า)แม้ว่าจะปรับจนสุดแก นแล้วก็ไม่พอ ง่ายๆไม่มีอะไรเลยเพียงแค่หาน๊อตตัวผู้เกลียวเดียวกั นมาต่อหรือถ้าใช้น๊อตสตรัทเลยก็ได้(เป็นน๊อตแบบที่ไม ่มีหัว)โดยใช้น๊อตตัวเมียเดิมทั้ง2ตัวเป็นตัวล๊อตให้ แน่น มาเริ่มกันเลย 1.ถอดชุดขาปรับLSPVออกมาทั้งหมด เหลือแค่น๊อตตัวเมียตัวเล็กไว้ 2.ขันน๊อตตัวเมีย(ตัวที่ยาวกว่าปกติ)กลับเข้าไปแค่คร ึ่งน๊อต แล้วขันน๊อตตัวเล็กขึ้นมาล๊อตให้แน่น อาจจะเอาแหวนสปริงใส่กันคลายด้วยก็ได้ 3.ใช้น๊อตตัวผู้ยาว3นิ้วเกลียวเดียวกันมาเป็นตัวต่อ 4.ก่อมใส่ ให้ขันน๊อตตัวเมียใส่ไปก่อน1ตัวไว้ใช้เป็นตัวล๊อคเพื ่อปรับความสูงต่ำของแกน 5.จากนั้นใส่น๊อตตัวผู้เข้าไปในรูของหน้าแปลนของแขนแ กนLSPVแล้วใส่น๊อตตัวเมียไปอีก1ตัวอย่าพึ่งขันแน่นไว ้ใช้เป็นตัวล๊อคเพื่อปรับความสูงต่ำของแกนเช่นกัน 6.ขันน๊อตตัวผู้ลงไปในนอตตัวเมียที่เราคาไว้ในตอนแรก เพื่อเป็นตัวเชื่อมต่อแกน ล๊อให้แน่น 7.จากนั้นก็ปรับแกนสูงต่ำตามคว่มเหมาะสมของรถแต่ละคั น ปล. ไม่สามารถบอกได้ว่าปรับแค่ไหน เพราะกายภาพรถที่เปลี่ยนไป ต้องดูเป็นคันๆไปครับ เอาคร่าวๆก็ตอนถอดหน้าแปลนของแขนแกนLSPVออกเพื่อต่อแ กน โดยปกติแล้วมันจับยกออกมาได้ประมาณ1.5ซม.จากปลายน๊อต แต่สำหรับรถที่ยกสูงมา บางคันอาจจะยกหน้าแปลนของแขนแกนLSPVออกจากแกนเดิมได้ สูงถึง2-5นิ้ว ดังนั้นก็ต้องกะประมาณให้จุดที่ยกสุดห่างจากแกนที่ต่ อออกมา ประมาณ1.5ซมเช่นกัน แล้วค่อยปรับระยะห่างจากบนลงล่างแทน ค่อยๆปรับเดี๋ยวก็เข้าที่ครับ เครดิต doraemon_vigo (อ๊อฟ )http://www.pickupthai.net |
มีประโยชน์ดีครับ ย้ายไปหมวด Diy ดีไหมครับ
|
อ้างถึง:
|
ขอบคุณครับน้าเต้ย
เสริมให้อีกหน่อย LSPV เป็นระบบที่ช่วยปรับตั้งแรงดันน้ำมันเบรกอัตโนมัติ รถกระบะค่ายโตโยต้าจะมีก้านปรับ LSPV เกือบทุกรุ่น ตามปกติรถแสตนดาร์ดก้าน LSPV ซึ่งด้านที่ติดอยู่กับตัวกระจายแรงดันจะอยู่ในลักษณะ ขนานกับพื้น ถ้าความสูงของรถมีการเปลี่ยนแปลงไป เช่นไปยกสูงขึ้น 2 นิ้ว ก็ต้องปรับแกน LSPV ให้ยกขึ้น 2 นิ้วหรือมากกว่า ถ้ายกสูงมาก ๆ ก็ต้องต่อแกนปรับ ในทางกลับกันรถที่โหลดเตี้ยลง 2 นิ้ว ก็ต้องปรับก้าน LSPV ลง 2 นิ้วด้วยเช่นกัน หลักการมีอยู่ว่าเมื่อมีน้ำหนักบรรทุกมากขึ้นตัวรถจะ เตี้ยลงก้าน LSPV ที่โยงไปยังตัวกระจายแรงดันก็จะยกสูงขึ้นทำให้แรงดัน น้ำมันเบรกที่ส่งมาล้อหลังเพิ่มและล้อหลังจับได้มากข ึ้น ตามปกติแล้วถ้าให้ศูนย์ปรับให้เขาจะมีเกจ์วัดแรงดันน ้ำมันและปรับให้ได้ตามค่ามาตรฐาน ส่วนท่านใดจะปรับให้มากกว่าเดิมก็ต้อง คอยจับอาการเบรคหลังดูด้วยเพราะถ้ามากเกินไปล้อหลังจ ะล็อคและท้ายปัดได้ครับ |
ขอบคุณครับพี่วุธ ว่าจะลองทำดู ครับ
|
อ้าว ตัวนี้มันมีด้วยหรือ เห็นตอนแรกเป็นข่าวฮือฮาว่าวีโก้ไม่มีตัวนี้ เอาไปทดสอบหลายค่ายผ่านหมด ของวีโก้ท้ายยกเลย ดีนะมีปัญญาซื้อแค่ไมตี้เอ็ก เจ้าชุดที่ว่าก็ถอดทิ้งหมดตอนเปลี่ยนคานหลัง ขอบคุณสำหลับข้อมูลดี ๆ ครับ
|
3 ไฟล์แนบ
ระบบเบรก ABS (Antilock brake system)
<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/uq4DDMMoomU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe> ระบบเบรก ABS มีจุดประสงค์ ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเบรกล็อคตาย กล่าวคือ เมื่อผู้ขับขี่ ขับรถไปตามเส้นทาง เมื่อเกิดเหตุการณ์ใดๆ ที่ต้องทำให้เกิดการเหยียบเบรกอย่างกระทันหัน แรงเบรกที่กระทำออกมา ก็จะส่งผลให้ น้ำมันเบรก มีแรงดันสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ระบบเบรกที่ประจำอยู่แต่ละล้อ ก็จะทำให้ล้อหยุดอย่างกระทันหันเช่นกัน เมื่อรถที่วิ่งด้วยความเร็ว แล้วเกิดล้อล็อคตายเช่นนี้ จะทำให้เกิดการลื่นไถล เช่น เมื่อล้อคู่หลังล็อคตาย ก็จะเกิดอาการปัด ไถลออกไปด้านข้าง ทำให้เสียการทรงตัว และควบคุมรถด้วยความลำบากเพิ่มขึ้น แต่ถ้าการล็อคตายเกิดกับล้อคู่หน้า ซึ่งเป็นล้อที่ควบคุมการขับขี่ด้วยแล้ว โอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ จะต้องมีมากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และถ้าเหตุการณ์ตอนนั้น อยู่ในสภาวะถนนลื่น หรือฝนตกหละก็ ยิ่งอันตรายมากขึ้นไปอีก ระบบเบรก ABS ประกอบด้วยฟันเฟืองวงแหวน ติดตั้งเกาะอยู่กับดิสก์ หรือเพลาหมุน และจะมีอุปกรณ์เซนเซอร์ (Sensor) ติดตั้งอยู่ใกล้กับฟันเฟืองดังกล่าว เมื่อล้อหมุนไป ฟันเฟืองจะหมุนตาม เซนเซอร์จะตรวจจับอัตราการหมุนของฟันเฟือง แล้วรายงานอัตราความเร็วดังกล่าว ไปให้กับชุดควบคุมอิเล็คทรอนิคส์(ECU) ของระบบ ABS ทราบ จากนั้น ชุดอุปกรณ์ควบคุมดังกล่าว ก็จะสั่งการทำงานไปเปิด-ปิดวาล์วความดันน้ำมันเบรก ที่ติดตั้งร่วมเข้าเป็นส่วนหนึ่ง ของวงจรท่อน้ำมันเบรก โปรแกรมการทำงาน ที่อยู่ในชุดควบคุมอิเล็คทรอนิคส์ จะคอยตรวจสอบสัญญาณจากเซนเซอร์อยู่เสมอ เมื่อกรณีที่ผู้ขับขี่เหยียบเบรกครั้งใด วาล์วความดันน้ำมันเบรก จะเปิด-ปิด เพื่อลด-เพิ่ม แรงดันไปกระทำกับตัวเบรกที่ติดตั้งประจำแต่ละล้อ การเปิด-ปิดวาล์วที่เกิดขึ้น จะมีความถี่ประมาณ 15 ครั้งต่อวินาที ตัวเบรกที่ติดตั้งอยู่ประจำล้อ ก็จะทำการ จับ-ปล่อย-จับ-ปล่อย ด้วยความถี่เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ผู้ใช้รถจึงมีความรู้สึกเวลาเหยียบเบรกว่า มีแรงสะท้าน สะท้อนออกมาถี่ๆ ที่ปลายเท้าขณะเหยียบเบรก นั่นคือการทำงานของวาล์ว ควบคุมแรงดันน้ำมันเบรกนั่นเอง |
2 ไฟล์แนบ
ระบบดรัมเบรก (Drum Brake System)
<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/bnc3VnQ8kUY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe> ดรัมเบรก คือระบบเบรกชนิดหนึ่ง ประกอบด้วยโลหะวงกลม(จานดรัมเบรก,กระทะล้อ) ยึดติดกับดุมล้อ หมุนไปพร้อมล้อ และชุดฝักเบรก(ก้ามเบรก) ซึ่งประกอบด้วยผ้าเบรก กลไกปรับตั้งเบรก สปริงดึงกลับ และกระบอกเบรก ซึ่งไม่หมุนไปพร้อมล้อ ส่วนที่บริเวณกระบอกเบรก (Brake wheel cylinder) จะมีท่อส่งน้ำมันเบรก (Brake fluid) มาเชื่อมต่อ ดรัมเบรกส่วนมากมักใช้กับล้อส่วนหลังของรถปัจจุบันยั งคงเป็นที่นิยมใช้กันอยู่ (เริ่มแรกทั้งล้อหน้าและล้อหลังต่างก็ใช้ดรัมเบรก) |
เยี่ยม.........มากกกกกกกกกกกกกกกกก:)
|
นานๆได้กลับมาเยี่ยมชม เดี๋ยวนี้ น้าเต้ย ขึ้นวิชาการเยอะเลยน่ะ:)
|
ถ้าท่านใดสนใจความรู้เกี่ยวกับเรื่องระบบห้ามล้อ ผมเคยเขียนบทความนี้ เป็นภาษาง่ายๆ ผสมเนื้อหาข้อมูลทางวิชาการเข้าไป เพื่อให้อ่านเข้าใจง่ายๆ ลงกดคลิ๊กอ่านดูได้ครับ
หมวดว่าด้วยเรื่องระบบห้ามล้อ (ระบบเบรค) |
อ้างถึง:
|
อ้างถึง:
|
อ้างถึง:
|
|
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:20 |
Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels