เปลี่ยนเป็นแก๊สระบบหัวฉีด
 

ผมใช้ Benz W124 230E วาง 2JZ-GE เกียร์ Auto ติด LPG ระบบดูด 28mm ถํง 68 ลิตร ครับ
ตอนซื้อมา (ปลาย พ.ค.) ขับจาก กทม. มาที่ หาดใหญ่ ระยะทาง 950 KM ใช้แก๊สไป 102 ลิตร (ประมาณ 1.5 ถัง)
คิดเป็น 9.3 km/l ซึ่งก็พอใจมากๆ

เนื่องจากมีปัญหาเกียร์ N->D กระชาก และต้องการติด OBD จึงเอาไปให้ช่างที่หาดใหญ่จัดการเรื่องระบบไฟ (ต้น ก.ค.)
และติด OBD ซึ่งก็ OK เพราะอาการ N->D หายสนิท และมี OBD ดูค่าต่างๆได้

พอขับใช้งานซึ่งขับในเมือง วันหนึ่งๆวิ่งประมาณ 5 KM อย่างมากก็ 10 KM ความเร็วในเมืองก็ไม่เกิน 80 Km/h
เพราะขับไปไม่ไกลก็ไฟแดง เติม 300 บาทได้แก๊ส 25 ลิตร (หาดใหญ่ ขายที่ 12.03 บาทต่อลิตร) จะวิ่งได้ประมาณ 80 KM เท่านั้น
คิดเป็น 3.2 km/l

ล่าสุด เติมไป 600 บาท ได้แก๊ส 50 ลิตร หวังจะวิ่งให้ได้ 150 km ซึ่งตอนเติม ก็ไฟบอกปริมาณแก๊สแจ้งว่ามีอยู่เกินครึ่งถัง
แต่นี่วิ่งไปได้ 90 KM จู่ๆ จากที่เห็นว่า เหลืออยู่ 30-40% ของถัง ก็บอกว่า เหลืออยู่ 10% แล้วไฟก็หายไปดื้อๆ (เหลือแก๊สประมาณไม่ถึง 10 ลิตร)
คงวิ่งได้อีก 30 KM ซึ่งก็คือ 600 บาทจะวิ่งได้แค่ 120 KM เอง :-(

เอาไปล้างหม้อต้มก็แล้ว เปลี่ยนหัวเทียน เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เปลี่ยนแบตเตอรี่ก็แล้ว ยังเหมือนเดิม
ล่าสุดเอาให้ช่างดูตอนเปลี่ยนหัวเทียน ช่างบอกว่า หัวฉีดมีไม่ค่อยดี 2 หัว ประมาณว่าฉีดไม่ตรงจังหวะ
แนะนำว่า อย่าไปพยายามซ่อมเลย ให้เปลี่ยนเป็นแก๊สระบบหัวฉีดดีกว่า ซึ่งจะมีชุดรางหัวฉีดแก๊สกับ ECU ระบบฉีดเพิ่มมา
ซึ่งจะทำให้การใช้ทั้งน้ำมันและแก๊สดีขึ้น ประหยัดขึ้น ค่าใช้จ่ายประมาณ 28,000 บาทครับ

คำถามคือ
1. จำเป็นต้องเปลี่ยนจากระบบดูด เป็นระบบหัวฉีดตามที่ช่างแนะนำหรือไม่ครับ ?
2. ถ้าไม่จำเป็น จะแก้ปัญหานี้อย่างไรดีครับ
3. ถ้าจำเป็นจริงๆแล้ว พี่ๆที่ใช้งานรถอย่างของผมนี่ สิ้นเปลืองประมาณเท่าไหร่ครับ ?

ขอบคุณครับ

แก้ไขเรื่องระบบหัวฉีดน้ำมันให้ใช้งานได้ดีก่อนดีกว่ าครับ

ถ้าระบบน้ำมันสมบูรณ์ เรื่องแก๊สจบไม่ยาก

ยังไงแก๊สหัวฉีดก็ตอบสนองดีกว่าระบบดูดครับ :emo_toon03:

ของผมแก้สมิ๊กเหมือนกันแต่เป็นเจโบ ในเมืองเพียวๆได้ประมาณ200-250 จากแก้สเต็มถัง 58 ลิตรครับ

ผมว่าลองจูนแก้สใหม่ก่อนดีกว่าเผื่อว่าจูนหนาไปมันก้ อกินเยอะเปลืองปล่าวๆ ส่วนเกจ์แก้สให้ดูที่หัวถังด้วยถ้ามันลงเร็วหรือโชว์ ค่านั้นอยู่นานผิดปกติครับ

ผมใช้รถ/เครื่อง แบบเดียวกับคุณ(ต่างกันที่ของผม แก๊สหัวฉีด Ac) ปัญหานี้มันยังมีความไม่ชัดเจนหลายจุด ครับ
1.ระยะทางกับเลขไมล์ มีความเที่ยงตรงหรือเปล่า
2.จำนวนรอบเครื่องยนต์ที่ปรากฏหน้าไมล์ตรงหรือเปล่า
3.ผมแนะนำใช้ Gps.เพื่อทำการสอบเทียบก่อนว่ามัน ตรง หรือคาดเคลื่อนไปกี่% เพื่อจะได้ต้องการหาระยะทางที่ถูกต้อง แล้วไปเทียบกับการบริโภค แก๊ส ครับ
มันจะได้ชัดเจนไปข้างหนึ่ง ครับ
4.การที่จะไปปรับปรุงเครื่องยนต์ ต่าง ฯ ทั้งหลาย มันจะต้องมีสาเหตุครับ เช่น เครื้องเดินเบาสะดุด,เร่งไม่ขึ้น,เกียรไม่เปลี่ยน,คว ามร้อนขึ้น,มีเสียงผิดปกติ ถึงเราจะได้ไปแก้ไข นะจุดนั้น ถ้าตามใจช่างชันสูตร ค่าใช้จ่ายเจ้าของรถจ่ายกันกระเป๋าฉีก(ไม่ใช่ทำกันเล ่น)
5.ถ้าจะเปลี่ยนเป็น แก๊สหัวฉีด ที่ผมใช้อยู่ก็ โอเค . แต่ปัญหาที่ตามมามันจะมากนะครับ เราจะต้องรู้ทางด้าน คอม,การทำงานของระบบแก๊สหัวฉีด แต่ถ้าไม่มีเลยผมก็ยังเป็นห่วง เพราะในรายละเอียดมันมาก อะไรฯฯ ก็ร้านแก๊ส ผมว่ามันน่าจะหนักกว่าระบบดูดนะครับ
6.แต่ถ้าไม่เป็นเลย ผมว่าระบบดูด ดีแล้วครับ
7.ที่ผมพูดจากประสบการณ์ คือ ผมใช้ระบบดูดมาแล้ว 2 คันระยะ 4 ปี และใช้ระบบแก๊สหัวฉีด 3 ปี สามารถเห็นอะไรบางอย่างได้อย่างชัดเจน(ซอมเอง,วางเอง ,ทั้ง 2 ระบบ)
8.ของผมวิ่งอย่างไร ก็ไม่เกิน 1.7 บาท/กม.(11.50 บ.) 180 ก็ยังแรง/สบายอยู่ ครับ

ขอบคุณทุกความเห็นครับ
วันเสาร์ที่ผ่านมา ไปทดสอบใหม่ครับ ได้ผลดังนี้
1. ไปเติมเต็มถัง (จากเดิมมีเท่าไหร่ ไม่แน่ใจแล้ว) เติมไป 45 ลิตร ครับ
2. ขับระยะทาง 48 Km วัดด้วย GPS แต่วัดด้วยเข็มไมล์ ได้ 43 Km ครับ ด้วยความเร็ว 90-100 km/h เป็นทางระหว่างอำเภอ มีติดไฟแดง 2 ครั้ง วิ่งไปประมาณ 23 km แล้ว u-turn กลับทางเดิมครับ
3. กลับมาจุดเดิม แล้วเติมแก๊สใหม่ กินไป 12.5 ลิตร ดังนั้นคำนวนแล้ว กินน้ำมัน = 48/12.5 = 3.84 Km/L คิดเป็นเงิน (หาดใหญ่ลิตรละ 12.03) =12.03/3.48 = 3.45 บาท/km ครับ

การทดลองนี้ ให้ร้านแก๊สอีกร้านเขาช่วยแนะนำครับ ตอนแรกเขาไม่เชื่อว่า มันกินขนาดนี้ ... พอเห็นข้อมูล ก็เลยจูนให้ โดยปรับ Sense + Idle ที่หม้อต้มครับ พร้อมๆกับเร่งเครื่องฟังเสียงครับ แล้วก็ทำเครื่องหมายที่วาวล์ใหญ่ก่อนเข้าไอดี เขาว่ามันจ่ายมากไป เลยทำเครื่องหมายไว้ แล้วทดลองปรับ ปรากฏว่า ต้องหมุนกลับไป 2 รอบเลยครับ (จ่ายให้น้อยลง)

หลังจากปรับ ไม่ได้ทดลองแบบเดิมซ้ำครับ ไว้เสาร์หน้า จะลองอีกครั้ง ...

ระหว่างนี้ ก็ขับในเมืองครับ กะว่าวันเสาร์หน้า จะไปลองเติมเต็มถังก่อน ดูว่า ใช้ไปเท่าไหร่ และระยะทางเท่าไหร่ครับ เดี๋ยวจะมารายงานผลครับ :( :( :(

สงสัยอีกเรื่องหนึ่งครับ ผมสังเกตุเห็นอย่างนี้ ไม่ทราบท่านอื่นๆเป็นหรือไม่ ...
1. ตอนจูนแก๊สใหม่ๆ OBD ผมวัดค่า A/F ได้ 14.6 ซึ่งน่าจะใกล้ค่าสมบูรณ์ 14.7 ครับ แต่ใช้ไปเรื่อยๆ ตอนนี้ มันกลับมาเป็น 13.6 ซะงั้น แสดงว่าเปลืองมากขึ้นใช่ไม๊ครับ ??? ทำไมมันเปลี่ยนไปเองได้ ขึ้นกับอะไรครับ ??
2. ตอนเช้าก่อนไปทำงาน หรือเมื่อเครื่องเย็น พอ Start เครื่อง รอบจะวิ่งไป 1700 rpm แล้วค่อยๆลดลงมา ใช้เวลาประมาณ 7-10 นาที กว่าสัญญาณ Warm-up จะเป็น Off หรือรอบตกมาถึง 800 rpm. ทำไมมันต้องรอบสูงขนาดนั้น เมื่อ start ครับ ??? แก้ยังไงดี ???

ขอบคุณครับ

มา Update ครับ
 

วันนี้ ต้องเดินทางจาก หาดใหญ่ ไป ปัตตานี ครับ
1. เติมแก๊ส เต็มถัง แล้วออกเดินทาง ใช้ GPS ในการจับระยะทาง
2. ขับด้วยความเร็ว 130 km/h ระยะทาง 97 km, ไปกลับ เท่ากับ 194 km วิ่งค่อนข้างคงที่ (เห็นค่า องศาปีกผีเสื้อ วิ่งประมาณ 13-17 องศา)
3. กลับมาที่จุดเริ่มต้น ก็เติมเต็มถัง ผลคือใช้ไป 27.43 ลิตร ( 330 บาท ที่ ลิตรละ 12.03 บาท)
ดังนั้น
สิ้นเปลืองไป = 7.07 Km/ลิตร
ตกค่าใช้จ่าย = 1.70 บาท

ทางไกลวิ่งเร็วขนาดนั้น ทำไมประหยัดกว่า ทางใกล้ๆ วิ่งช้าๆเนี่ยครับ ??

ก่อนหน้านี้ (วิ่งในเมือง) 110 KM, ใช้ไป 35 ลิตร จ่ายไป 430 บาท
สิ้นเปลือง = 3.14 Km/ลิตร
ค่าใช้จ่าย = 3.90 บาท !!!!

ทำไงดีครับ ????

ไม่จำเป็นตอ้งเปลี่ยนก้ได้ครับหน้าจะลองเช็คระบบให่ม ดีกว่าครับ