ClubJZ Forums

ClubJZ Forums (http://www.ClubJZ.net/index.php)
-   ClubJZ ! Meeting gallery (http://www.ClubJZ.net/forumdisplay.php?f=10)
-   -   ตระกูลVVTi ทั้งโบและไม่โบขอเชิญร่วมสนทนากันนะคัฟ (http://www.ClubJZ.net/showthread.php?t=46133)

Moonlight 13-03-2010 08:45

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ somtao (493122 กระทู้)
อ.บีค้าฟ...ผมใส่น้ำมันเกียร์T-IV ไป 2.5 ลิตรหลังเปลี่ยนถ่าย ปรากฎว่ามันเกินก้านวัดอ่ะคัฟ...ที่ผมโทรไปแล้ว อ.บี บอกว่ามันจะโบวออกเองใช่ไหมคัฟ...แล้วผลที่ตามมามันจ ะมีปัญหาอะไรไหมคัฟกับเกียร์ออโต้ของผม....เพราะเมื่ อเช้าเห็นคราบน้ำมันที่พื้นบ้านอ่ะคัฟ....

ปล.ผมวัดตอนเครื่องร้อนและไม่ได้ดับเครื่องนะคัฟ...ว ัดตอนเดินเบาอ่ะคัฟ...มันเกินขีดบนสุดไปเยอะเลยคัฟ.. ..

ถ้าวัดตอนที่ติดเครื่องอยู่ และตอนเครื่องร้อน (ใช้งานปกติมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ก.ม.) แล้วระดับน้ำมันเกียร์สูงเกินขีดบนของ Hot ให้เอาส่วนเกินของน้ำมันนั้นออกครับ

ถ้าดูจากโครงสร้างการทำงานของเกียร์ออโต้แล้ว น้ำมันเกียร์เกินจากที่กำหนดนั้น ดูคล้ายๆว่า มันจะไม่ค่อยมีผลกระทบต่อการทำงานนัก แต่ว่า ช่วงที่น้ำมันเกียร์ร้อน มันจะขยายตัว และโบล์วออกทางช่องระบายด้านบนหัวเกียร์ครับ แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่จะทำให้เกียร์สึกหรอเร็วขึ้นได้ครับ เช่น การที่น้ำมันเกียร์มากผิดปกติ จะทำให้ อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ไม่ได้ตามสเปค และ ร้อนช้ากว่าปกติครับ จุดนี้เองครับ ที่จะมีผลต่อระบบการทำงานของเกียร์ ซึ่งจะทำให้กลไกภายในค่อยๆสึกหรอเร็วกว่าปกติครับ

โดยปกติทั่วๆไปแล้ว ถ้ามีการถ่ายน้ำมันเกียร์ออกจากก้นแคร้ง หรือ ถอดก้นแคร้งมาล้างก้นแคร้ง กรองน้ำมันเกียร์ และแม่เหล็ก หลังจากที่ประกอบกลับแล้ว ปริมาณน้ำมันเกียร์ที่เติมเข้าไปในแคร้งนั้น ไม่เกิน 2.5 - 3 ลิตรครับ (เตรียมไว้แค่นี้พอครับ) เพียงแค่เราเทเติมลงไป 2 ลิตรก่อน จากนั้นสตาร์ทเครื่องยนต์ เท้าเหยียบเบรค ปรับเลื่อนคันเกียร์ จาก P ค่อยๆไล่ลงมาทีละขั้นจนถึง L แล้วค่อยๆเลื่อนขึ้นไปทีละขั้นจนถึง P จากนั้น ค่อยวัดระดับน้ำมันเกียร์ จะต้องอยู่ในระดับขีด Cool ถ้าไม่ถึง ให้เติมเพิ่ม แล้ววัดใหม่ครับ เมื่อได้ระดับขีด Cool แล้ว ให้ขับรถใช้เลยครับ วิ่งรถไปประมาณ 20 - 40 ก.ม. แล้วหยุดรถอย่าดับเครื่องยนต์ วัดระดับใหม่ ระดับจะต้องอยู่ขีด Hot ถ้าไม่ถึงให้เติม แค่นั้น ก็จบกระบวนการวัดระดับน้ำมันเกียร์ที่ถูกต้องครับ

ผมต้องขออภัย ทั้งคุณ somtao และอาจารย์บี ที่เป็นการเสียมารยาทอย่างมาก ในการถือวิสาสะสอดแทรกเข้ามาแจมความคิดเห็น ทั้งๆที่เห็นว่า คุณ somtao ระบุถามเฉพาะอาจารย์บีครับ แต่เนื่องจากผมเห็นว่า ข้อมูลน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกส่วนใหญ่ที่ยังไม่ท ราบ และนานๆอาจารย์บีจะเข้ามาอ่านกระทู้หนหนึ่ง ครับ

somtao 13-03-2010 10:15

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ Moonlight (493133 กระทู้)
ถ้าวัดตอนที่ติดเครื่องอยู่ และตอนเครื่องร้อน (ใช้งานปกติมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ก.ม.) แล้วระดับน้ำมันเกียร์สูงเกินขีดบนของ Hot ให้เอาส่วนเกินของน้ำมันนั้นออกครับ

ถ้าดูจากโครงสร้างการทำงานของเกียร์ออโต้แล้ว น้ำมันเกียร์เกินจากที่กำหนดนั้น ดูคล้ายๆว่า มันจะไม่ค่อยมีผลกระทบต่อการทำงานนัก แต่ว่า ช่วงที่น้ำมันเกียร์ร้อน มันจะขยายตัว และโบล์วออกทางช่องระบายด้านบนหัวเกียร์ครับ แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงอื่นๆ ที่จะทำให้เกียร์สึกหรอเร็วขึ้นได้ครับ เช่น การที่น้ำมันเกียร์มากผิดปกติ จะทำให้ อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ไม่ได้ตามสเปค และ ร้อนช้ากว่าปกติครับ จุดนี้เองครับ ที่จะมีผลต่อระบบการทำงานของเกียร์ ซึ่งจะทำให้กลไกภายในค่อยๆสึกหรอเร็วกว่าปกติครับ

โดยปกติทั่วๆไปแล้ว ถ้ามีการถ่ายน้ำมันเกียร์ออกจากก้นแคร้ง หรือ ถอดก้นแคร้งมาล้างก้นแคร้ง กรองน้ำมันเกียร์ และแม่เหล็ก หลังจากที่ประกอบกลับแล้ว ปริมาณน้ำมันเกียร์ที่เติมเข้าไปในแคร้งนั้น ไม่เกิน 2.5 - 3 ลิตรครับ (เตรียมไว้แค่นี้พอครับ) เพียงแค่เราเทเติมลงไป 2 ลิตรก่อน จากนั้นสตาร์ทเครื่องยนต์ เท้าเหยียบเบรค ปรับเลื่อนคันเกียร์ จาก P ค่อยๆไล่ลงมาทีละขั้นจนถึง L แล้วค่อยๆเลื่อนขึ้นไปทีละขั้นจนถึง P จากนั้น ค่อยวัดระดับน้ำมันเกียร์ จะต้องอยู่ในระดับขีด Cool ถ้าไม่ถึง ให้เติมเพิ่ม แล้ววัดใหม่ครับ เมื่อได้ระดับขีด Cool แล้ว ให้ขับรถใช้เลยครับ วิ่งรถไปประมาณ 20 - 40 ก.ม. แล้วหยุดรถอย่าดับเครื่องยนต์ วัดระดับใหม่ ระดับจะต้องอยู่ขีด Hot ถ้าไม่ถึงให้เติม แค่นั้น ก็จบกระบวนการวัดระดับน้ำมันเกียร์ที่ถูกต้องครับ

ผมต้องขออภัย ทั้งคุณ somtao และอาจารย์บี ที่เป็นการเสียมารยาทอย่างมาก ในการถือวิสาสะสอดแทรกเข้ามาแจมความคิดเห็น ทั้งๆที่เห็นว่า คุณ somtao ระบุถามเฉพาะอาจารย์บีครับ แต่เนื่องจากผมเห็นว่า ข้อมูลน่าจะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิกส่วนใหญ่ที่ยังไม่ท ราบ และนานๆอาจารย์บีจะเข้ามาอ่านกระทู้หนหนึ่ง ครับ


มิได้คัฟคุณพี่...แทรกเลยคัฟอะไรที่มันเป็นประโยชน์ก ับเพื่อนสมาชิกก็อย่ารีรอที่จะทำนะคัฟเพราะเครื่องเจ โบ ราคามันก็มากอยู่ ถ้าเสียหายหรือแก้ไขไม่ทันแย่เลยคัฟ เลยจำเป็นต้องอาศัยพี่ๆที่เล่นมาก่อนช่วยกันตอบอ่ะคั ฟ.....ผมเองก็ตกใจคัฟ...เพราะช่วงนี้รถมันไม่ค่อยปรู ้ดปร้าดแถมมีโบวทิ้งเป็นระยะๆ...แสดงว่าน้ำมันเกียร์ มันโบวทิ้งเองจริงๆ...ไว้ผมเข้าอู่แล้วจะปล่อยทิ้งสั กครึ่งลิตรอ่ะคัฟ...เพราะเกินขีด HOT ไปซะเกือบ2นิ้ว....

Moonlight 13-03-2010 10:36

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ somtao (493173 กระทู้)
มิได้คัฟคุณพี่...แทรกเลยคัฟอะไรที่มันเป็นประโยชน์ก ับเพื่อนสมาชิกก็อย่ารีรอที่จะทำนะคัฟเพราะเครื่องเจ โบ ราคามันก็มากอยู่ ถ้าเสียหายหรือแก้ไขไม่ทันแย่เลยคัฟ เลยจำเป็นต้องอาศัยพี่ๆที่เล่นมาก่อนช่วยกันตอบอ่ะคั ฟ.....ผมเองก็ตกใจคัฟ...เพราะช่วงนี้รถมันไม่ค่อยปรู ้ดปร้าดแถมมีโบวทิ้งเป็นระยะๆ...แสดงว่าน้ำมันเกียร์ มันโบวทิ้งเองจริงๆ...ไว้ผมเข้าอู่แล้วจะปล่อยทิ้งสั กครึ่งลิตรอ่ะคัฟ...เพราะเกินขีด HOT ไปซะเกือบ2นิ้ว....

ที่เวลาขับรถแล้ว เหมือนเกียร์ทำงานไม่ค่อยคล่องตัวเหมือนเดิม ก็เพราะสาเหตุมาจาก ระดับน้ำมันเกียร์เกินมากครับ

ระบบกลไกการทำงานของเกียร์ออโต้ เป็นระบบที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเกียร์ ซึ่งมีคุณสมบัติไฮดรอลิค (ความนิ่มนวลต่อเนื่องของการปรับเปลี่ยนเกียร์ ส่วนหนึ่งก็มาจากน้ำมันไฮดรอลิคครับผม) ดังนั้น ถ้าระดับน้ำมันไฮดรอลิค มากเกินไป ระบบกลไกการทำงานซึ่งได้รับกำลังจากไฮดรอลิคนั้น ก็จะเปลี่ยนไปครับ (เคลื่อนตัวลำบากขึ้น เพราะว่า แรงดันเปลี่ยนไปครับ) ถ้าจะจินตภาพให้เข้าใจ ให้นึกเปรียบเทียบคล้ายๆกับ น้ำยาแอร์ ครับ ถ้าอัดน้ำยาแอร์มากเกินไป การเคลื่อนตัวของน้ำยาแอร์ที่แรงดันสูงจะแน่นเกินไป ทำให้ในห้องโดยสารไม่เย็นครับ (เพียงแค่เปรียบเทียบให้เห็นภาพเท่านั้นนะครับ แต่ว่าระบบการทำงานของน้ำยาแอร์กับน้ำมันเกียร์ออโต้ แตกต่างกันมากครับ)

แต่ถ้าถามถึงผลเสียหายของระบบกลไกเมื่อเปรียบเทียบระ หว่าง มากเกินไป กับ น้อยเกินไปของน้ำมันเกียร์ออกโต้แล้ว ระดับน้ำมันเกียร์ออโต้ที่น้อยเกินไปมีผลกระทบทำความ เสียหายต่อกลไกการทำงาน มากกว่า ระดับน้ำมันเกียร์ที่มากเกินไปครับผม จึงขอสรุปว่า ควรเติมน้ำมันเกียร์ในระดับที่พอดีตามที่ผู้ผลิตกำหน ด จะดีที่สุดครับ

somtao 14-03-2010 08:25

ขอบคุณนะค้าฟคุณพี่ moonlight ผมยังไม่ได้ไปถ่ายออกเลยคัฟ ว่าจะลองถ่ายออกสัก 0.5 ลิตรเพราะเติมเข้าไป 2.5 มันมากเกินไป...ทีหลังผมใส่ 2 ลิตรพอดีกว่าคัฟแบบนี้...

mikki 14-03-2010 14:35

:emo_toon08::emo_toon08::emo_toon08:


แอบดู


:emo_toon08::emo_toon08::emo_toon08:

JZ_P_MAYIM 14-03-2010 15:22

ขออนุญาติถามนินึงนะครับ
แล้วถ้าเป็น 1เจ ไม่วีๆๆและไม่โบ
แล้วใส่น้ำมันเกียร์t-iv เข้าไป
การทำงานของกลไกเกียร์จะดีขึ้นหรืออยู่ในระดับมาตรฐา นหรือเท่าเดิมครับ
แบบว่าหาสิ่งที่ดีที่สุดอ่ะครับ แต่ถ้าใส่แล้วทำให้กลไกทำงานเท่าเดิมก็จะใช้แบบเดิมอ ่ะครับ
เพราะเกียร์จะได้อยู่คู่กับเครื่องและรถและผมไปนานๆๆ อ่ะครับ

somtao 14-03-2010 16:37

ต้องรอพี่ๆที่เคยมีประสบการณ์มาช่วยตอบอีกทีนะคัฟ...

Moonlight 14-03-2010 17:50

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ JZ_P_MAYIM (493584 กระทู้)
ขออนุญาติถามนินึงนะครับ
แล้วถ้าเป็น 1เจ ไม่วีๆๆและไม่โบ
แล้วใส่น้ำมันเกียร์t-iv เข้าไป
การทำงานของกลไกเกียร์จะดีขึ้นหรืออยู่ในระดับมาตรฐา นหรือเท่าเดิมครับ
แบบว่าหาสิ่งที่ดีที่สุดอ่ะครับ แต่ถ้าใส่แล้วทำให้กลไกทำงานเท่าเดิมก็จะใช้แบบเดิมอ ่ะครับ
เพราะเกียร์จะได้อยู่คู่กับเครื่องและรถและผมไปนานๆๆ อ่ะครับ


น้ำมันเกียร์ออโต้ ที่ระบุว่า เกรด Dexron II หรือ III หรือ T-III หรือ T-IV นั้น เป็น เกรดของน้ำมันเกียร์ครับ ซึ่งมันมีสเปคการคงประสิทธิภาพของตัวมันเองอยู่ครับ ดังนั้น ส่วนใหญ่จะได้รับคำแนะนำว่า ไม่ควร ใช้น้ำมันเกียร์ออโต้ มาปะปนต่างเกรดกัน ใช้เกรดไหน ก็ควรใช้เกรดนั้นไปเลย ยิ่งถ้าผู้ผลิต กำหนดระบุเน้นให้ใช้เกรดไหน ก็ควรใช้เกรดนั้นๆครับผม (ดูที่เหล็กก้านวัดระดับน้ำมันเกียร์ จะมีตอกตัวหนังสือระบุเกรดน้ำมันเกียร์เอาไว้ครับ)

อย่างเช่น น้ำมันเครื่องที่ใช้กับเครื่องยนต์ กับ น้ำมันเครื่องที่ใช้กับเฟืองท้าย มันก็เป็นน้ำมันเครื่องชนิดเดียวกัน แต่ต่างเกรดกัน ถามว่า คุณกล้าเอาน้ำมันเครื่องเกรดที่ใช้กับเฟืองท้ายมาใช้ กับเครื่องยนต์มั้ยครับ หรือว่า มีน้ำมันเครื่องเกรดรวมที่ใช้กับเครื่องยนต์เหลืออยู ่ กล้าเอามาถ่ายเปลี่ยนที่เฟืองท้ายมั้ยครับ ฉันใดฉันนั้นครับผม

santi_irpc 14-03-2010 20:03

สอบถามครับ 2Jz-GE vvti
1. ทำไมที่เกียร์ 5(manual) เมื่อใช้รอบเกิน 3100-3200 รอบต่อนาที แอร์จะไม่เย็น ไม่ค่อยมีลม แต่พอลดรอบลงมา ลมจะแรงปกติ แอร์กลับมาเย็นเหมือนเดิมครับ

Moonlight 14-03-2010 21:22

อ้างถึง:

กระทู้ต้นฉบับโดยคุณ santi_irpc (493632 กระทู้)
สอบถามครับ 2Jz-GE vvti
1. ทำไมที่เกียร์ 5(manual) เมื่อใช้รอบเกิน 3100-3200 รอบต่อนาที แอร์จะไม่เย็น ไม่ค่อยมีลม แต่พอลดรอบลงมา ลมจะแรงปกติ แอร์กลับมาเย็นเหมือนเดิมครับ

อาจเป็นไปได้ว่า กล่อง ECU สั่งตัดคอมพ์แอร์เพื่อถนอมคอมพ์แอร์ก็ได้ครับ แต่ว่า จริงๆแล้ว น่าจะตัดที่ > 4000 นะครับ


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:37

Powered by vBulletin รุ่น 3.6.8 Copyright ©2000-2024, Jelsoft Enterprises Ltd.
ClubJZ. NET Bestview 1024 * 768 and 1208 * 1024 pixels