2jz ge vvt-i ติดตั้ง ngv ระบบดูด เอารูปมาให้ดูครับ
 

ชุดแรก

ชุดสอง

ได้ฤกษ์ติดซะที วิ่งน้ำมันมา 1 ปี
ผมติด ngv ระบบดูด ถัง 100 ลิตรน้ำ ราคา 40,X00 บาท

ตอนแรกก็หวั่นๆ เหมือนกัน เห็นพูดกันว่าแบบดูดจะไม่มีกำลัง และอาจมี backfire

ผมวิ่งมา 2 วันก็ถือว่าใช้ได้
กำลังตกไปนิด เวลาเร่งไม่ค่อยพุ่ง แต่ถ้ารถลอยลำแล้ว ความเร็วกับรอบเครื่องไม่ต่างกับน้ำมันเลย
จากเดิมน้ำมันที่ความเร็ว 80 km/h วัดรอบได้ 1900 รอบ
ngv แบบดูดที่ความเร็ว 80 km/h เหมือนกันวัดรอบได้ 1875 รอบ
แปลกว่าทำไมวิ่ง ngv กลับใช้รอบน้อยกว่า

เดินเบาไม่เปิดแอร์
น้ำมันได้เดินเบาที่ 850 รอบ
ngv จะเดินเบาที่ 750 รอบ
ngv ตั้งจูนตั้งยังไงก็ไม่ขึ้นเท่าน้ำมัน ได้สูงสุดเท่านี้

ตอนออกจากร้านมีปัญหานิดหน่อย เวลาเร่งจะสะดุด
ผมเลยลองจูนเองด้วย ตอนนี้ไม่มีปัญหาแล้วครับ
แล้วก็ยังไม่มี backfire ด้วย

วิธีจูนระบบดูดนะครับ ผมอ่านๆ ในเน็ตมาขอสรุปบันทึกไว้กันลืมด้วยนะครับ
(หลายๆ ท่านอาจรู้ๆ กันอยู่แล้ว)

1. จูนที่รอบสูง หรือ จูนพีค (Peak)
บางท่านบอกให้เหยียบคันเร่งไว้ที่ 3000 รอบ (ต้องใช้ 2 คนนะครับ คนนึงเหยียบคันเร่ง คนนึงคอยจูน) ที่รถผมมันมีลูกบิดโช้คคันเร่ง เลยตั้งค้างไว้ได้
ผมไม่ค่อยอยากเร่งถึง 3000 รอบ เลยเอาที่ 2000 รอบพอ (ไม่รู้จะมีปัญหาป่าว)
หลักการก็คือ เร่งเครื่องไว้ แล้วคอยปรับไว้พาวเวอร์วาล์ว หรือวาล์วกลางสาย แล้วสังเกตุเสียง หรือดูรอบ ปรับให้ได้รอบสูงที่สุด หรือเสียงเครื่องแรงที่สุด

2. จูนที่รอบต่ำ หรือตั้งเดินเบา
ที่หม้อต้มมันจะมีลูกบิด 2 ลูก ลูกใหญ่คือตั้งรอบเดินเบา ก็ง่ายๆ บิดไปบิดมาให้ได้รอบเดินเบาตามที่ต้องการ
เสร็จแล้วมันจะมีลูกบิดอันเล็กอีกอัน เป็นตัวตั้งหน่วงแก๊ส หรือ sensitivity เอาไว้ตั้งเวลาถอนคันเร่งจากรอบสูง มันจะหน่วงแก๊สไว้ (คอยทยอยปล่อยแก๊ส) ไม่ให้ลดฮวบต่ำจนเครื่องดับ ตัวนี้ผมลองตั้งแล้ว ไม่เห็นความแตกต่าง ระหว่างตั้งกลางๆ หรือตั้งสุด แต่เข้าใจว่า ถ้าวิ่งในเมืองเป็นประจำเดี๋ยวเร่งเดี๋ยวหยุดควรตั้ง กลางๆ จะดีกว่า จะประหยัดแก๊สกว่า

ไม่รู้ว่าหม้อต้ำ lpg หรือยี่ห้ออื่นๆ จะเหมือนกันหรือป่าวนะครับ

แต่ยังไม่เข้าใจตรงที่ วิ่งแก๊ส ระบบ obd1 รายงานเครื่องเขก (KNC) มากกว่าวิ่งน้ำมันอีก
แต่ก่อนผมวิ่งน้ำมัน บางวันแทบไม่มีเขกเลย แต่ตอนนี้วิ่งสัก 10 กิโล เขกได้ 40 ครั้งเลยครับ

ของผม 1J ฝาดำ ธรรมดา ติด NGV ประมาณ 1 บาท/กม. ว่าจะลองติด Tap ดูบ้างหลายคนบอกว่าสำหรับ NGV แล้วจำเป็นต้องติด Tap ครับ http://ngv.gasthai.com/boardsale/question.asp?id=95

ขอเบอร์หน่อยคับผมจะถามเรื่องวีวีติดแก็ส
 

ขอเบอร์หน่อยคับผมจะถามเรื่องวีวีติดแก็ส p-manop@hotmail.com

กิโลละบาท ไม่ทราบว่าระบบฉีดหรือดูดครับ แล้ววิ่งในเมืองหรือนอกเมืองครับ
ของผมลองคำนวณดูแล้ววิ่งในเมืองรถติด 2 วันนี้ ได้ 1.4 บาท/กิโลครับ
นอกเมืองยังไม่ได้ลองครับ

ของผมไม่ได้ติด tap ครับ
ทำให้ช่วงรถติดๆ จะมีปัญหาเครื่องร้อน (ของผมถึง 95 องศาเลย)
ถ้าติด tap จะช่วยได้ เครื่องจะมีกำลังขึ้นและลดความร้อนได้
(เพิ่มองศาจุดระเบิด ทำให้เผาไหม้เร็วขึ้น และระบายออกไปวาล์วไอเสียหมดก่อนที่ลูกสูบจะเลื่อนลง มามากกว่าปกติ)

แต่รถผม vvt-i มันตั้งองศาจุดระเบิดเอง
ผมลองดูในเครื่อง obd1 แล้วเวลาเร่งเครื่องมันจุดระเบิดเกิน 17 องศา ซึ่งเป็นองศาที่ tap จะชดเชยให้ ก็เลยตัดสินใจไม่ติดครับ

แหะๆ ไม่ทราบจะถามอารายครับ
ผมเองก็เพิ่งติดวันที่ 2 เองครับ

แต่ vvt-i ติดแก๊สได้ครับ confirm ดูดก็ได้ ฉีดก็ดีครับ ngv หรือ lpg ก็ได้ครับ
ขอให้จูนดีๆ เท่านั้นครับ (อย่าเน้นจูนประหยัด เดี๋ยวเร่งไม่ขึ้นครับ)

ขอถาม
 

เขาพูดกันว่าวีวีติดngvดูดไม่ได้จริงหรือเปล่าคับผมอ ยากรุ้มากเลยคับ ถ้าติดแล้วนานๆไม่มีปัญหาอนาคตจะวางวีวีบ้างตอนนี้ใช ้1เจธรรมดาอยู่ติดngvดูดอยู่คับโลละ85สตางคับยังไม่ใ ด้เปลียนเฟืองท้ายคับ วีโกตอนเดียวบรรทุกด้วย เฟืองท้าย4.1คับ เลยอยากรู้ว่าวีวีติดดูดngvนานไปจะมีปัญหาหรือเปล่า ก็เลยอยากได้เบอร์ไว้แลกเปลียนความรู้คับผม p-manop@hotmail.com ขอบคุณคับ

ติดดูดครับ สำหรับเครื่อง J ไม่ว่า 1J หรือ 2J ยังไงๆ ก็ควรกินไม่เกิน 1 บาท ถ้าเกินนี้ถือว่ากิน เพราะรถเพื่อนผม 2J ก็กินเท่าๆ กับผม ส่วนใหญ่ผมขับต่างจังหวัดครับ แถวภาคตะวันออก สำหรับเครื่อง VV ติด Taย ได้ครับ เคยอ่านเจอ 2J vv ติด Tap แล้ววิ่งดีกว่าเดิมมาก เลยสนอยากลองบ้างครับ

โห ได้โลละ 85 สตางค์เลยหรือครับ อิจฉาจัง
ของผมคำนวณได้ 1.4 บาทเลยแน่ะครับ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร

แต่ของผมวิ่งมา 2 วัน 90 โล เติมใหม่ได้ 130 บาท
เฉลี่ย 1.4 บาท/โล แต่วิ่งเข้าเมืองรถติดนะครับ (จากลาดพร้าว ไปแถวบ้านหม้อ เยาวราช)

เดี๋ยวจะลองคำนวณใหม่ แบบวิ่งปกติ ไปเช้าเย็นกลับที่ทำงาน
แล้วจะมาบอกใหม่นะครับ

ส่วน vvti ติดแบบดูได้นะครับ ก็รถผมติดแล้วยังวิ่งได้เลย
ส่วนประหยัดหรือไม่ อีกเรื่องครับ
แล้วไว้ผมจะลองวิ่งแบบถอดปลั๊ก vvti ด้วย (จะกลายเป็น 2j ธรรมดา) ซึ่งแล้วก็จะมาบอกอีกทีนะครับ

รับทราบครับ
ตอนนี้ยอมรับว่ากินจังเลย 1.4 บาท/โล

ส่วน tap เดี๋ยวไว้ถ้ายังกินแก๊สไม่ลด ก็จะไปหาติดดูนะครับ

ขอบคุณครับ

ถ้ายังกินอยู่ แนะนำให้เช็คโค๊ดในโอกาสแรกเลยครับ เพราะว่าเครื่องวีวี ถ้าวายสายไม่ครบ จะกินแก๊สมากกว่าปกติครับ

ประมาณนั้นอ่ะครับ เช็คดูว่ามันฟ้องอะไรบ้างหรือเปล่า
ส่วนเครื่องเจ นั้นมันติดระบบไหน ก็ได้หมดครับ จะเป็น ngv หรือ lpg ขึ้นอยู่กับร้านที่ทำ จะทำได้ดีหรือเปล่าอ่ะครับ
อย่างเช่นในรูปในการตัดสัญญาณหัวฉีดน้ำมัน ให้หยุดการทำงานในเวลาใช้แก๊ส มักจะตัดที่สายไฟที่เข้าหัวฉีดทุกเส้น และก็ตัดตรงหัวฉีดเลย มันดูไม่สวยและไม่เรียบร้อยด้วย แบบนี้อ่ะครับ ที่เจอกันบ่อยมาก :rolleyes:

ขอบคุณพี่เคที่แนะนำครับ ตอนที่ผมเห็นว่าตัดสายหัวฉีด ก็ยังคิดๆ เหมือนกันว่างานไม่เรียบร้อยเลย
เล่นเอาเทปพันสายไฟพันไว้ ก็กลัวว่าต่อไปมันจะหลุดเหมือนกัน (รู้สึกว่าจะเป็นการตัดสาย ground ประหยัดรีเลย์)
วัดรอบก็เอาจากสายหัวเทียนเอาเทปพันเหมือนกัน

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้ไปอุบล ก็เอาคันนี้ไปแหละครับ
คำนวณคร่าวๆ วิ่ง ngv ได้ประมาณ 0.9 บาท/กิโล ไม่ทราบว่าจะพอได้ไหม

แล้วก็มี backfire 2 ครั้ง จะเกิดตอนช่วงเบรคกระทันหันแล้วต้องเหยียบคันเร่งต่อ ทันที (จังหวะแซงแล้วไปจ่อท้ายคันหน้า แล้วต้องเร่งแซงต่อ) เสียงดังปัง คิดว่าเป็นเสียงลิ้นเร่งปีกผีเสื้อที่ถูกแรงดันตีกลั บกระแทกกับตัวเรือน หลังจากนั้นก็ไม่เกิดอีกเลย เพราะไม่กล้าเร่งหลังจากวิ่งมาเร็วๆ แล้วเบรคแรงๆ กลัวเครื่องพัง

มีวิ่งไม่ออกครั้งนึง เครื่องสั่นเป็นเจ้าเข้า ก็เลยลองไปจับหม้อต้ม โอ้โห เย็นเจี๊ยบ คิดว่าข้างในคงเป็นน้ำแข็งบ้าง
น่าจะเกิดจากรีบเปลี่ยนเป็นวิ่งแก๊ส และกดคันเร่งมากไป หม้อต้มเลยยังไม่ทันร้อน ก็เลยต้องวิ่งเบาๆ ไปช่วงนึง

ความเร็วตอน ngv สูงสุด 130 km/h จากนั้นเร่งไม่ค่อยขึ้นแล้ว (หรือไม่กล้าเหยียบต่อก็ไม่รู้เหมือนกัน)
อัตราเร่ง ngv อืดมากๆ แต่ถ้าลอยตัวแล้วก็โอเค
เวลาเลี้ยวเครื่องก็มีสั่นๆ บางทีรอบตกเกือบดับ คงเพราะชดเชยรอบเลี้ยวมีแต่อากาศเข้า ไม่มีแก๊สเข้าไปช่วย
อัตราเร่งตอนวิ่งน้ำมันรู้สึกจะลดลง คงเป็นเพราะมิกเซอร์ไปขวางทางลม
(ทั้งหมดนี้คิดว่าเป็นปกติของระบบดูด)

สรุปว่า เรื่องความประหยัดประทับใจพอสมควร
วิ่งไปกลับประมาณเกือบ 1700 กิโล
ใช้น้ำมันไป 1300 บาท
ใช้ ngv ไป 1400 บาท
เฉลี่ย 1.5 บาท/กิโล
ครับ

ยินดีด้วยครับ ถ้าพอจะมีทุนเหลือ ไปติด Tap เลยนะครับ ประมาณ 3500 บาท อัตราเร่งจะใกล้เคียงน้ำมันมากไปอีกครับ

ผมก็กำลังจะไปติดtapคับ ติดกับคุณพลคับรอของอยู่ ตอนนี้เปลียนเฟืองท้ายเป็น10/43แล้ว อัดตาเร่งดีขึ้นกว่า10/41คับกินแก็สก็พอๆกันคับ ระยอง-คลองเตย 285บาทคับ345โลวิ่ง100หน่อยๆ บรรทุก900กิโลกรัมคับ

ทำไมประหยัดจัง ของผมอย่างสุดๆ ก็ 1 บาท ไม่เคยต่ำกว่านี้ซะที ติด Tap แล้ว มารายงานผลให้ทราบด้วยนะครับ

ใด้คับผม ถ้าติดแล้วจะมารายงานผลอีกทีคับ

ติดแล้วคับ
 

ติดtapมาแล้วคับ 1-110 ดีกว่าเดิมคับ เพิ่งติดใด้2 วันคับ ขอใช้สักพักแล้วจะมาแจ้งอีกทีคับผม 0819831397

ติดที่ไหน ราคาเท่าไรครับ ...

toyota tiger d4d cap หลังคาแครี่บอย 1jz vvt-i เฟืองท้ายเดิม NGVหม้อต้มLANDI RENZO มิก30mm สนามหลวง2-ถ.ปู่เจ้าฯ สำโรงใต้ 2วันเติมที เติมที่ปั๊มบางจาก ถ.ปู่เจ้าฯ 145 บาท วิ่งได้ประมาณ 190-200 กม. ความเร็ว80-150กม./ชม.ใช้มาประมาณ70000โลแล้ว

แล้วแรงหายไปเยอะไหมครับ? ไม่แคร์ความเร็วปลาย แต่สำคัญต้องออกตัว+ขึ้นภูเขาหรือเนินดีๆ แต่กลัวที่สุดก็ Backนี่แหละครับ.......

เคยมีประสบการณ์กับ Lpg ดูด ไอ้คุ้มมันก็เกินคุ้ม แต่แรงที่หายไป กับ Back เนี่ยสุดเซ็งเลยครับ

แล้วไม่ต้องใส่ Tapกันเหรอครับ?


ขอบคุณครับ

:emo_toon05:

ติด lpg แรงไม่น่าหาย และเครื่องก็จะไม่น่าร้อนขึ้น เพราะมันติดไฟเผาไหม้เร็วเท่าๆ น้ำมัน

แต่ ngv ตามทฤษฎีแรงจะหายเนื่องจากติดไฟช้ากว่าน้ำมัน มันจึงจุดระเบิดช้ากว่า
เผาไหม้นานกว่า จึงเป็นเหตุให้ไม่ได้ประสิทธิภาพของการระเบิด และเครื่องจะร้อนขึ้นด้วย
เพราะว่าช่วงการเผาไหม้จะสัมผัสกับพื้นผิวกระบอกสูบน านกว่า

การติด tap นั้นเพื่อทำการเลื่อนองศาจุดระเบิดให้เพิ่มขึ้น ต้องมีกล่อง tap และต่อวงจรเพิ่ม

ความเห็นผมว่า lpg ไม่จำเป็นต้องติดก็ได้ เพราะว่ามันจุดระเบิดได้เร็วเทียบเท่าน้ำมันอยู่แล้ว
แต่ ngv ควรติด ถ้าขี้เกียจตั้งไฟ หมายถึงตั้งไฟให้แก่ขึ้นกว่าวิ่งน้ำมัน ปกติจะปรับที่จ่านจ่าย
ไฟแก่หมายถึงเพิ่มองศาจุดระเบิด เช่นจากเดิมจุดระเบิดประมาณ 12 องศาก่อนศูนย์ตายบน
ก็ปรับเป็นสัก 17 องศาก่อนศูนย์ตายบน การเผาไหม้ก็จะดีขึ้นได้แรงเพิ่ม เครื่องจะร้อนลดลง
แต่ขณะเดียวกันถ้ากลับมาวิ่งน้ำมัน เครื่องอาจเขกได้ง่ายๆ

การติด tap ก็จะทำให้เราสบายขึ้น เวลาวิ่งน้ำมันมันก็จะไม่เปลี่ยนค่าองศาจุดระเบิด
แต่เวลาวิ่งแก๊ส มันก็จะปรับให้โดยอัตโนมัติ

ส่วนเครื่อง vvt-i ผมว่าไม่จำเป็นต้องติด tap เพราะเครื่องมันตั้งองศาจุดระเบิดได้เอง
ตามปริมาณออกซิเจนที่เหลือในไอเสีย
คือถ้าออกซิเจนยังมากอยู่ มันก็จะเพิ่มเชื้อเพลิง/เพิ่มองศาจุดระเบิด
อันนี้ผมคิดเองนะ ไม่รู้จริงป่าว เพราะดูจากเครื่อง obd1 แล้วบางทีมันไปจุดระเบิดที่ 30 องศายังเคยเห็นเลย จากปกติวิ่งน้ำมันไม่เคยเห็น
ส่วนเครื่อง ge ธรรมดา ผมไม่แน่ใจว่าเครื่องมันจะปรับองศาจุดระเบิดให้หรือป ่าว เพราะได้ยินแต่ว่าให้ปรับที่จ่านจ่าย เครื่องมันคงปรับได้แค่ปริมาณเชื้อเพลิง

ส่วนระบบดูดถ้าจูนดีๆ จะไม่มี backfire เลยนะครับ
ของผมเคยเกิด backfire เป็นเพราะตัวชดเชยรอบเลี้ยวไม่ได้ต่อท่อให้ดูดเอาแก๊ สเข้าไปด้วย
เวลาวิ่งมาเร็วๆ จี้ท้ายคันหน้า เหยียบเบรคแล้วหักพวงมาลัยแซงต่อ (ตามสไตล์ขับต่างจังหวัด)
ช่วงจังหวะปล่อยคันเร่งแล้วเหยียบเบรคนั้นลิ้นปีกผีเ สื้อจะปิด แก๊สจะผ่านแต่ลิ้นมอเตอร์รอบเดินเบา
ซึ่งมันผ่านได้น้อย ยิ่งพอหักพวงมาลัยซึ่งมีแต่อากาศเข้า ไม่มีแก๊ส
ปริมาณแก๊สในท่อร่วมไอดีจะบางมาก มันเลยจุดระเบิดได้เอง
แต่พอผมต่อเอาแก๊สเข้าตัวชดเชยรอบเลี้ยวด้วยแล้วยังไ ม่เคยเกิด backfire เลยครับ
และของผมตอนนี้คิดว่าจูนดีพอได้แล้ว วิ่งยังไงก็ไม่มี backfire
แถมอัตราเร่งถือว่าใกล้เคียงน้ำมันมากๆ เลยครับ

หมายเหตุ
ต้องขอโทษนะครับ หากความเห็นของผมขัดแย้งกับท่านอื่นๆ
แต่ที่เขียนมานี่ผมเองไม่ได้มั่ว และก็ไม่ได้รู้เองหรอกนะครับ
แต่ได้เคยไปอบรมมากับอาจารย์ ม.เกษตร ท่านหนึ่ง
ที่ในวงการถือว่าเป็นปรมาจารย์ด้าน ngv เลยทีเดียว
ท่านก็พูดไว้ประมาณนี้แหละครับ ผมถึงเอามาเขียนต่อได้
ซึ่งหลังจากอบรมสักพัก ผมก็ตัดสินใจเอารถไปติด ngv เลย

ขอบคุณครับ

เดี๋ยวจะลองเข้าไปคุยกับอู่ดูครับ Tapควรติดนะครับ.......จะได้ถามทีเดียวเลย

สนับสนุนประโยคนี้ครับ "ของผมเคยเกิด backfire เป็นเพราะตัวชดเชยรอบเลี้ยวไม่ได้ต่อท่อให้ดูดเอาแก๊ สเข้าไปด้วย" เพราะว่าผมเคยเจอเองมาแล้ว ขับมาตั้งนาน ไม่เคย Back ซักที พอมาหลังๆ เกิด Back บ่อยมาก มัวแต่ไปแก้ปัญหาตรงจุดอื่น ก็ไม่หาย Back จนมาสังเกตเห็นปลายท่อชดเชยรอบที่ต่ออยู่กับมิกเซอร์ ปลายมันแตก มันเลยไม่ได้ดูดอะไรเข้าไป ก็เลยตัดแล้วเสียบใหม่ อาการ Back หายเลยครับ

อ้อ....K.หนุ่ม การเติมNgvวิ่งหมดถังแล้วเติม กับวิ่งครึ่งถังแล้วเติม แตกต่างกันนะครับ

ส่วนตัวเคยรู้สึกว่าคิดไปเอง แต่ถามใครใครก็บอกแบบเดียวกันครับ

ผมจะวิ่งจนเกือบหมดแล้วค่อยเติมครับ
วันนึงวิ่งประมาณ 40 กิโล วิ่งได้ 4 วัน
เติมครั้งนึงก็ประมาณ 150 บาท
วิ่งโชคชัย 4 - รัชโยธิน - บางกรวย รถติดพอสมควร
ตกกิโลละ 90 สตางค์ครับ

ส่วนที่วิ่งจนเกือบหมดถังแล้วค่อยเติม
เพราะว่าถังเค้ามีกำหนดอายุการใช้งานเติมแก๊ส
กี่ครั้งผมจำไม่ได้
ถ้าเติมบ่อยไปกลัวอายุมันจะสั้นหนะครับ
เพราะเติมทุกครั้งถังก็ขยายตัว แล้วร้อนมากด้วยครับ

แล้วก็อีกอย่างนะครับ ผมเพิ่งสังเกตุได้เมื่อไม่นานนี้เอง
เวลาจูนแก๊ส แรกๆ ผมลองจูนเองอย่างที่เคย Post ไว้
จะตั้งรอบจูน peak ที่ 2000 รอบ ไม่กล้าเร่งมาก ซึ่งมันน้อยไปนะครับ
เพราะมันหมายความถึงถ้าเร่งเครื่องเกิน 2000 รอบ เครื่องจะไม่มีกำลัง
มันจะเร่งไม่ขึ้นเลย และกินแก๊สด้วย ตอนจูนช่วงนั้น กินกิโลละ 1.3 บาท

ตอนหลังผมมาลองจูนใหม่ที่ 3000 รอบ ซึ่งได้ผลต่างกันมาก
เครื่องเร่งดีขึ้นแล้วก็ประหยัดแก๊สด้วย

ส่วนการจูนที่รอบสูงกว่านี้ผมไม่รู้ว่ามีใครเขาทำหรื อป่าว
อีกอย่างรถผม 3000 รอบ ก็วิ่งได้เกือบ 140 km/h แล้วหนะครับ
เคยวิ่งสูงสุด 150 km/h รอบได้ 3400 รอบ แต่วิ่งน้ำมันนะครับ
แก๊สยังไม่เคยลอง

[วัดจาก obd1 นะครับ เข็มไมล์เดิมไม่ได้ต่อ เลยไม่รู้เพี้ยนด้วยหรือป่าว]

ขอโทษนะคับคุณสองที่หายไปหลายวันคับ ติดกับคุณพลคับ 3500 บาทคับเบอร์คุนพลคับ 085-317-7700 คับบริการดีคับสายไฟก็อเดินดีคับ 081-983-1397:)

เบอร์คุณมานพ นี่ 081-983-1397 ใช่ไหมครับ

ใช่คับผม